เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Exclusive

 ส่องธุรกิจ “ข้าวโพดหวานพร้อมรับประทาน”  ทำยังไง ได้ขายใน 7-11 แถมเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์

ข้าวโพดฝักพร้อมทาน เป็นสินค้าที่คนไทยรู้จักกันดี มีขายอยู่ทั่วไป แทบจะทุกชุมชน แต่ปัญหาหนึ่งของสินค้าประเภทนี้คือ ข้าวโพดบางเจ้าหวาน บางเจ้าไม่หวาน ซึ่งเคล็ดลับง่ายๆ แต่ทำยากที่สุดคือข้าวโพดต้องหวานมาตั้งแต่อยู่บนต้น อีกทั้งเมื่อหลุดจากต้นมาปุ๊บ ต้องต้ม แล้วกินเลย นั่นล่ะจะหวานที่สุด แต่ในแง่การค้าขาย ยิ่งในปริมาณ มาก ๆ โอกาสที่จะได้เก็บปุ๊บ ต้มปั๊บ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยข้อจำกัดของเวลา และสถานที่ในการจำหน่าย

ลูกค้า ผู้บริโภคที่ต้องการบริโภค ข้าวโพดคุณภาพ ก็ต้องซื้อจากร้านสะดวกซื้อ ซึ่งผู้ผลิตมีวิธีการผลิตและการจัดจำหน่าย ที่รับประกันได้ว่า หวานทุกฝัน

บริษัทซันสวีท เป็นบริษัทผู้ผลิตข้าวโพดส่งออก มาตั้งแต่ปี 2540 ตลาดส่วนใหญ่ 60 เปอร์เซนต์ อยู่ในโซนเอเชีย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ที่ส่งออกไปมากถึง 20 เปอร์เซนต์ ที่เหลือก็กระจายไปทั้งยุโรปและอเมริกา รวมแล้วปีละนับแสนตัน ในรูปข้าวโพดกระป๋อง /ในถุงสุญญากาศ  และแช่เข็ง

โดย ผลประกอบการ ปี 2559 รายได้ 1,600 ล้านบาท กำไร 100 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ปี 2560 ยอดขาย 2,000 ล้านบาท กำลังการผลิต 150,000 ตันต่อปี

ทั้งนี้ซันสวีทถือเป็น 1 ใน 3 ของผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตข้าวโพดหวานของประเทศไทย จากสัดส่วนประมาณ 25-30% ของมูลค่าตลาดโดยรวมที่มีผลผลิตส่งออกไปยังต่างประเทศ ประมาณ 580,000 ตันต่อปี

เมื่อราวปลายปี  2559 ซันสวีท หันกลับมารุกตลาดในประเทศ ด้วยการผลิตข้าวโพดหวานพร้อมรับประทาน อยู่ในถุงสุญญากาศภายใต้แบรนด์ KC (king of corn ) ส่งร้านสะดวกซื้อ 7-11 จำนวน 4,000-5,000สาขา  ในเขตภาคเหนือตอนบนเกือบทั้งหมด  และกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก

คุณโกวิทย์  สิทธิยศ  ผู้ช่วยประธานบริหาร บริษัทซันสวีท จำกัด  เผยว่าจากการที่ส่งออกข้าวโพดมานาน ก็หันกลับมาทำตลาดในประเทศไทย ด้วยต้องการให้เป็นที่รู้จักภายในประเทศ เพื่อการขยับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ประมาณ กลางปี 2560 นี้

สำหรับ แหล่งผลิตแปลงข้าวโพด อยู่ในเขตภาคเหนือ 9-10 จังหวัด พื้นที่ปลูก ราว 50,000 ไร่ ทำสัญญาซื้อขายกับเกษตรกรประมาณ 20,000 ครอบครัว  ในลักษณะเกษตรพันธะสัญญา ในราคารับซื้อข้าวโพดฝักเขียว ( มาทั้งเปลือก ซัง ) เฉลี่ย กิโลกรัมละ 5  บาท  ซึ่งเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพด มักจะทำนาเป็นหลัก และเมื่อว่างเว้นจากการทำนานก็ปลูกข้าวโพด ใช้เวลา 70-75 วัน ก็ตัดขายได้  “ในส่วนของแผนการตลาดนั้นก่อนที่เราจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ เราต้องการให้สินค้าเป็นที่รู้จักภายในประเทศ  ซึ่งการนำเข้าไปขายใน 7-11 การรับรู้ของผู้บริโภคจะเร็วมาก ทุกวันนี้ มียอดสั่งจาก 7-11 ประมาณ 5,000 ฝักต่อวัน ซึ่งคาดว่า ประมาณไตรมาสที่สามของปี 2560 ยอดขายเราจะเพิ่มเป็น 1 แสนฝักต่อวัน”

ข้าวโพดฝักพร้อมรับประทาน ที่จำหน่ายใน 7-11 ราคาหน้าร้านฝักละ 20 บาท มีอายุสินค้า 7 วัน และต้องเก็บในอุณภูมิ 4-8 องศาเซลเซียส

สำหรับหลักการหรือแนวคิดในการนำสินค้าเข้า 7-11ได้ นั้น คุณโกวิทย์ บอกว่า เนื่องจาก

1.ข้าวโพดฝักพร้อมรับประทาน เป็นสินค้าที่แพร่หลาย คนทั่วไปรู้จัก ไม่ต้องมาทำความเข้าใจกับสินค้าอีก

2.มีปริมาณสินค้าสม่ำเสมอ (นั่นคือผู้ผลิคมีความสามารถในการป้อนสินค้าได้สม่ำเสมอ ไม่ขาด แม้จะต้องเจอกับภาวะวันหยุด  แต่สินค้าที่เข้า 7-11 จะต้องไม่หยุด  ต้องแก้ไขปัญหาแรงงาน การผลิตได้ตลอดเวลา)

3.สินค้ามีคุณภาพ รสชาติ ความสะอาด  (คัดเลือกข้าวโพดฝักที่สวยที่สุด ดีที่สุด นำมาผลิต)

4.เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพในอีกทางหนึ่ง ที่กลุ่มวัยทำงานอายุ 25-40 ปี  มีกำลังซื้อ เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก

5.ข้าวโพดที่นำมาผลิตรับประกันได้ว่า ไม่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม หรือเรียกว่าเป็นข้าวโพด non-GMO  อย่างแน่นอน

 

และนีเป็นเรื่องราว ธุรกิจทางการเกษตร ซึ่งหากใครมีความสามารถ มีศักยภาพ ก็เติบโตไปได้อย่างชนิดที่เรียกว่า รู้แล้วทึ่ง!!  กันเลยทีเดียว

 

ขอบคุณภาพ จากบริษัทซันสวีท

 

 

 

 

Related Posts

80 ยังแจ๋ว "ป้าตุ่น" ครีเอเตอร์รุ่นใหญ่ ไม่หยุดเรียนรู้ โชว์ทำขนมบนโซเชียล เป็นขวัญใจคนทุกเจน
จากปัญหาของเล่นล้นบ้าน สู่ Keimen Kids ธุรกิจเช่าของเล่นที่อยากช่วยเซฟโลก เซฟเงินในกระเป๋าพ่อแม่
เปิดจักรวาล Karun! ปั้นแบรนด์น้องใหม่ เจริญสังขยา, Summer Bowl และ Avery Wong ปี 66 รายได้รวม 100 ล้านบาท