เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
SMEs เกษตร

สาวราชบุรี ปลูกกุหลาบเป็นอาชีพ เน้นความต้องการของตลาด สร้างรายได้ดี

กุหลาบ เป็นไม้ดอกที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายเพื่อเป็นการค้าทั่วโลก และเป็นไม้ตัดดอกที่มีการซื้อและจำหน่ายเป็นอันดับหนึ่งในตลาดประมูลดอกไม้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ อัลซเมียร์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นตลาดการประมูลดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของโลก

ปัจจุบันประเทศไทยมีการปลูกกุหลาบเพื่อตัดดอก อยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยมีแหล่งปลูกสำคัญ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครปฐม ชลบุรี กาญจนบุรี ฯลฯ

กุหลาบนอกจากจะปลูกสำหรับตัดดอกเพื่อจำหน่ายแล้ว ยังมีการปลูกจำหน่ายทั้งต้นพร้อมดอก ให้กับผู้ที่ชื่นชอบการปลูกเลี้ยงกุหลาบไว้ดูเล่น เพื่อเป็นไม้ดอกกระถางตกแต่งบ้านเรือน ได้เชยชมและดมดอกที่มีกลิ่นหอมตลอดทั้งปี

คุณปาริชาต ธีรธรรมานนท์ อยู่บ้านเลขที่ 545 หมู่บ้านโป่งแมว หมู่ที่ 8 บ้านตะโกล่าง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นเจ้าของสวนกุหลาบ สวนผึ้งโรซาเรี่ยน เธอมีความชื่นชอบในการปลูกเลี้ยงกุหลาบ เพราะหลงในเสน่ห์อันน่าเชยชม ทำให้กุหลาบที่เธอปลูกจึงเป็นเสมือนตัวแทนความรักที่ส่งต่อให้กับลูกค้า ซึ่งกุหลาบที่เธอปลูกภายในสวนไม่ได้เป็นอาชีพที่ทำรายได้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นงานที่ทำแล้วมีความสุขในวิถีการประกอบอาชีพของเธออีกด้วย

 

ทดลองปลูก แบบมือสมัครเล่น

คุณปาริชาต สาวผู้มีอัธยาศัยยิ้มน้อยแต่พูดติดตลก เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเรียนจบช่างศิลป์ ต่อมาได้เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากเรียนรู้จากหลายๆ ที่ จนได้ไปทำงานด้านดีไซเนอร์ เมื่อเวลาผ่านมาประมาณปี 2550 จึงมีความสนใจอยากปลูกกุหลาบ ซึ่งในช่วงนั้นเธอบอกว่าปลูกแบบมือสมัครเล่นเพราะความชอบ เพื่อเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เอง

“ตอนเริ่มใหม่ๆ นี่เรียกว่ามือสมัครเล่นก็ว่าได้ ปลูกในแบบที่เราไม่มีความรู้อะไรเลย ซื้อมา 200-300 ต้น สรุปว่าตายสะเด็ด ต่อมาก็สั่งแบบแพงมาลองปลูกอีก เป็นแบบกุหลาบล้างราก (BARE ROOT ROSE) มาทดลองติดตาดู ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีใครมีกุหลาบอังกฤษจำหน่ายมากนัก ซึ่งเราก็เอามาติดตาจำหน่าย โดยเน้นนำเข้ามาส่วนใหญ่ กว่าจะประสบผลสำเร็จก็ใช้เวลาประมาณ 5 ปี จนมีประสบการณ์ ลองผิดลองถูกอยู่นานพอควร” คุณปาริชาติ เล่าถึงความเป็นมาของอาชีพ

Kordes jubilee rose ดอกใหญ่ มีกลิ่นหอม

กุหลาบที่ปลูกอยู่ภายในสวนจะดูตามความต้องของตลาดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสมัยก่อนตลาดต้องการกุหลาบอังกฤษ แต่สมัยปัจจุบัน คุณปาริชาต บอกว่า ตลาดไม่เน้นเรื่องสายพันธุ์ จะเป็นสายพันธุ์อะไรก็ได้ ขอให้มีดอกใหญ่ ดอกแน่น และมีกลิ่นหอม ลูกค้าจะชื่นชอบลักษณะสายพันธุ์ที่มีดอกแบบนี้มากกว่า

 

การติดตากุหลาบ ใช้ตาแก่ ติดกับต้นตอป่า

กุหลาบก่อนที่จะออกมาเป็นต้นที่สวยและมีดอกพร้อมจำหน่ายได้นั้น คุณปาริชาต บอกว่า ต้องมีขั้นตอนในการจัดการหลายอย่างพอสมควร โดยในขั้นตอนแรกจะปลูกเลี้ยงกุหลาบป่าสำหรับใช้ทำเป็นต้นตอเสียก่อน ซึ่งระยะการปลูกต้นตอป่าต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน จนกว่ารากจะเต็มกระถาง

“พอเราได้ต้นตอป่าที่แข็งแรงดีแล้ว มาเป็นต้นตอสำหรับใช้ติดตา ซึ่งการติดตาเราจะเลือกตาที่เป็นตาแก่เท่านั้นจากกิ่งพันธุ์ดี โดยที่สวนเราจะเน้นตาแก่ จะไม่เหมือนกับที่อื่นที่เขาจะใช้ตาอ่อน เพราะตาแก่ใช้เวลานานหน่อยประมาณ 2-3 เดือน กว่าจะแตกยอด แต่ถ้าติดสนิทแล้วแตกยอดออกมา การเจริญเติบโตและความแข็งของตาแก่จะดีกว่ามาก” คุณปาริชาต อธิบายถึงการติดตา

กุหลาบที่มีระบบรากดี

วัสดุที่ใช้ปลูกกุหลาบที่สวนแห่งนี้เป็นดินที่มีส่วนผสมของขี้วัว ขี้หมู แกลบ และมะพร้าวสับที่หาได้จากท้องถิ่น โดยเน้นใช้วัสดุปลูกระบายน้ำได้ดี แต่มีความชุ่มชื่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยธาตุอาหาร

เมื่อตากิ่งพันธุ์ดีติดสนิทกับต้นตอเรียบร้อยดีแล้ว จะใช้เวลาดูแลไปอีกประมาณ 8-9 เดือน จึงจะสามารถนำไม้ออกจำหน่ายได้

“ไม้ที่จะออกจำหน่ายได้ ต้องมีอายุอย่างน้อย 8 เดือนขึ้นไป หลังติดตาสนิท จะเป็นไม้ไซซ์เล็ก โดยช่วงก่อนที่จะครบอายุจำหน่าย เราก็จะมีการตัดแต่ง ใส่ปุ๋ย เพื่อให้ไม้ได้สะสมอาหารภายในต้น ซึ่งปุ๋ยก็ให้ปกติเป็นปุ๋ยชีวภาพ ที่สวนเราจะไม่ใช้ปุ๋ยเคมี เร่งให้ไม้โตไวๆ พอดอกเริ่มจะออก ก็จะเปลี่ยนให้ปุ๋ยเป็นขี้ค้างคาวขี้ไก่แทน ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งสูตรเราก็ปรับปรุงไปเรื่อยๆ ส่วนการรดน้ำจะรดทุกวัน ดูตามความเหมาะสมของสภาพอากาศ” คุณปาริชาต กล่าวถึงการดูแล

การป้องกันโรคและแมลง ช่วงฤดูหนาวจะเน้นระวังศัตรูพืชจำพวกไรแดง ส่วนฤดูฝนจะป้องกันโรคใบจุดเพราะมีความชื้นจะทำให้กุหลาบเกิดเชื้อราได้ง่าย

คุณปาริชาต บอกว่า จะฉีดพ่นยาเพื่อป้องกันไว้ตลอดเวลา เนื่องจากที่สวนของเธอมีต้นกุหลาบจำนวนมาก จำเป็นที่จะต้องป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ซึ่งยาฉีดพ่นสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด

Mary ann rose

ผลิตแบบเน้นต้นทุนต่ำ แต่คงคุณภาพตามเดิม

การทำตลาดเพื่อจำหน่ายกุหลาบ คุณปาริชาต เล่าว่า ในช่วงปัจจุบันนี้การแข่งขันของแวดวงกุหลาบค่อนข้างมีการแข่งขันสูง เมื่อเทียบกับช่วงแรกที่เธอเริ่มทำในสมัยก่อน ซึ่งเธอเองมีการปรับตัวตามไปกับกระแสปัจจุบันด้วยคือ พยายามจัดการบริหารให้ไม้ภายในสวนมีต้นทุนที่ต่ำที่สุด แต่ยังคงคุณภาพของไม้เอาไว้ให้ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้นในการซื้อไม้ที่ได้ราคาย่อมเยา

The ambridge rose เป็นกุหลาบอังกฤษทรงพุ่ม

“มาระยะนี้ เราต้องทำให้ต้นทุนเราถูกที่สุด แต่ต้องให้คุณภาพไม้ของเราเหมือนเดิม ณ เวลานี้ราคานี้ บอกเลยว่าก็ลงมาสุดๆ แล้ว ซึ่งราคาของกุหลาบนอก ราคาต่ำสุดที่สวนจำหน่ายอยู่ที่ต้นละ 150 บาท และก็ราคาอื่นๆ ก็มีสูงต่ำแตกต่างกันไปตามอายุ ตามขนาดไซซ์ของไม้ ต้นละ 300-500 บาท สูงขึ้นไปก็ต้นละเกือบ 1,000 บาท ก็มี ต้องบอกก่อนเลยว่าราคานี้ ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับการดูแลเป็นปี กว่าเราจะนำออกมาจำหน่ายได้” คุณปาริชาต ให้เหตุผลเรื่องราคา

คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีกุหลาบปลูกเลี้ยงอยู่ที่บ้าน ไม้เจริญเติบโตได้ไม่สมบูรณ์เต็มที่เหมือนตอนที่ซื้อมาครั้งแรก คุณปาริชาตให้วิธีแก้ไขว่า ควรสำรวจเรื่องแสงแดดว่ามีเพียงพอต่อความต้องการของต้นกุหลาบหรือไม่ เพราะกุหลาบเป็นไม้ที่ต้องการแสงแดดเต็มวัน ส่วนเรื่องต้นมีความแคระแกร็นให้ดูดินว่ายังสมบูรณ์อยู่ไหม

“เมื่อเห็นว่าไม้ไม่ค่อยโต เราต้องสำรวจดินด้วยว่าหมดอายุหรือยัง เพราะนานไปสารอาหารในดินมันจะหมด สังเกตได้จากสภาพดิน ถ้ามันแฉะก็แสดงว่ามันเสื่อมสภาพแล้ว ส่วนดินอีกแบบที่เห็นบ่อยๆ คือดินที่แข็งเป็นคราบ รู้ได้เลยว่าเกิดจากการใช้ปุ๋ยเคมีมากไป ก็ต้องเปลี่ยนดินใหม่เลย พร้อมทั้งตัดแต่งไม้ ปลูกใส่ดินใหม่ เท่านี้กุหลาบก็จะกลับมาสวยเหมือนเดิม”

Ballerrina rose เป็นกุหลาบเลื้อย

ทั้งนี้ คุณปาริชาต ยังได้กล่าวแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจอยากปลูกเลี้ยงกุหลาบเพื่อเป็นงานสร้างอาชีพ ต่อไปอีกว่า

พื้นที่ภายในสวน

“การปลูกกุหลาบมันไม่มีอะไรตายตัว ต้องเรียนรู้ก่อนว่า กุหลาบมีอุปนิสัยอย่างไร ซึ่งคนที่ต้องการจะทำเป็นอาชีพ จะรู้เองว่าต้องปลูกกุหลาบแบบไหน ถึงจะเหมาะกับตัวเขาเองมากที่สุด ซึ่งถ้าจะให้บอกบางทีมันบอกได้ไม่หมด ซึ่งตัวพี่เองก็เรียนรู้จากประสบการณ์ เพราะฉะนั้น จะรู้ว่าพี่เป็นคนแบบนี้ จะต้องจัดการอย่างไรกับสิ่งที่เราปลูก ซึ่งการปลูก การติดตาขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน มีไม่เหมือนกัน ใครสนใจก็สอบถามได้ยินดีแนะนำ”

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณปาริชาต ธีรธรรมานนท์ หมายเลขโทรศัพท์ (081) 821-7604

Related Posts

จากลูกจ้างในตลาดผัก สู่เจ้าของแผง 'ขายมะเขือเทศ' มีลูกค้าประจำ ทั้งร้านอาหารดัง  ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงสายการบิน ขายเฉลี่ยวันละ 500 ลัง 
ไอเดีย สร้างอาชีพเสริมแบบไม่ต้องรอพร้อม ‘เช่าที่ปลูกดอกไม้กินได้’
อดีตพนักงานห้าง ปิ๊งไอเดีย ขายผักน้ำพริก เริ่มต้นแพ็กละ 10 บาท โกยรายได้ครึ่งแสนต่อเดือน
ออกจากงานประจำ มาขาย "เตยหอม" เจาะกลุ่มโรงงานขนม ร้านดอกไม้ พ่อค้าแม่ค้า วันละ 900-1,000 กิโลกรัม