ตลาดจีน
เผย ครึ่งปี 2567 จีน นำเข้าทุเรียนไทยลดลง ยอดซื้อเวียดนามพุ่ง ผู้สื่อข่าวรายงาน ข้อมูลจาก ศุลกากรแห่งชาติจีนฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว www.oosmoac.go.th/guangzhou เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศจีน อนุญาตให้นำเข้าทุเรียนผลสด จาก 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นประเทศล่าสุด ที่จีน อนุญาตให้นำเข้าทุเรียนผลสดได้ โดยได้มีการลงนามพิธีสาร ว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับการส่งออกทุเรียนสดจากประเทศมาเลเซีย ไปยังประเทศจีน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ทั้งนี้ จากสถิติศุลกากรแห่งชาติจีน ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 พบว่า ประเทศจีน มีการนำเข้าทุเรียนผลสด ปริมาณกว่า 833,675 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,968 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้น 5.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (ครึ่งปีแรกของปี 2566 มีปริมาณนำเข้า 786,937 ตัน) และมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อันดับที่ 1 ไทย มีปริมาณการนำเข้า 558,309 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,855 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีสัดส่วน 66.97% ของปริมาณการนำเข้าทุ
“ทุเรียนไทย” ครองใจผู้บริโภคและโตต่อเนื่องในตลาดจีน แต่อาจจะเผชิญการแข่งขันจากเวียดนาม หนานหนิง, 16 เม.ย. (ซินหัว) — ยามฤดูเก็บเกี่ยวและจำหน่าย “ราชาแห่งผลไม้” อย่างทุเรียนเวียนมาถึง ทุเรียนจากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะทยอยเข้าสู่ตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง โดยรสชาติที่อร่อยและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ทุเรียนเป็นที่รู้จักและชื่นชอบของผู้บริโภคชาวจีนเพิ่มขึ้น กลายเป็นหนึ่งในผลไม้ตัวเลือกของหลายครอบครัวชาวจีน “ไทย” ถือเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตและส่งออกทุเรียนแห่งสำคัญของโลก แต่ละปีส่งออกทุเรียนสู่จีนเป็นปริมาณมาก โดยปริมาณการส่งออกทุเรียนของไทยสู่จีนในปี 2023 เพิ่มขึ้นร้อยละ 81.7 เมื่อเทียบปีต่อปี และทุเรียนที่ส่งออกสู่จีนคิดเป็นร้อยละ 70 ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมดของไทย ขณะความนิยมทุเรียนในจีนเพิ่มขึ้นไม่หยุดและความต้องการของตลาดยังคงแข็งแกร่งในปี 2024 “ทุเรียนไทยอร่อยและมีกลิ่นหอมมาก แต่ละปีครอบครัวต้องซื้อทุเรียนหมอนทองของไทยมารับประทานกัน โดยตอนนี้นอกจากทุเรียนไทยแล้วยังมีทุเรียนเวียดนามให้เลือกซื้อ นี่เป็นเหมือนโบนัสของคนรักทุเรียนR
ซีพี เดินหน้า “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” ส่งสินค้า SMEs ไทย รุกตลาดจีน ตามที่ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกาศนโยบาย “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและเกษตรกรไทยให้มีความแข็งแกร่ง โดยใช้กลยุทธ์การผนึกกำลังร่วมกันของกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี ช่วยขยายโอกาสเพิ่มช่องทางการขายสินค้าผ่านธุรกิจค้าปลีกค้าส่งของเครือซีพีทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบัน “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” ได้สร้างผลลัพธ์เป็นที่น่าภาคภูมิใจ ติดปีกแบรนด์ไทย “เครื่องต้น” ชุดปรุงอาหารไทย ที่สามารถส่งออกซอสกะเพราและผัดไทย และแบรนด์ “ปลาณีต” ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป สู่ตลาดจีนสอดรับกระแสซอฟต์พาวเวอร์ เตรียมผลักดัน “มอลคาม” ผลิตภัณฑ์น้ำมะขามเปียกจากชัยภูมิสู่ตลาดต่างประเทศอีกราย นายเอกชัย ตั้งรัตนาวลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ซีดดิ้ง โซเซียลอิมแพคท์ จำกัด กล่าวว่า ซีพี ซีดดิ้งฯ ถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการเคลื่อนและสานต่อนโยบาย “แพลตฟอร์มแห่งโอกาส” ของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ซีอีโอ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยรวมไปถึงเกษตรกรให้เติบโต โดยผนึกกำลังของธุรกิจค
เปิดเทรนด์การค้าจีนปี 2024 “ราคา-เมืองรอง-Pop Culture” กับ S39 Digital Agency “ตัวจริงเรื่องจีน” ครบทุกโซลูชันกลยุทธ์ตลาดจีนต้นน้ำ-ปลายน้ำ พร้อมดันแบรนด์ไทยทะยานสู่แบรนด์ชั้นนำในจีน “ตลาดจีน” นับเป็นตลาดการค้าขนาดใหญ่ที่สุดทั้งด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจและประชากร ด้วยจำนวนประชากรมากกว่าประเทศไทยถึง 20 เท่าตัว และล่าสุดจากการวิเคราะห์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2566 มีการขยายตัว 4.9% (YoY) เพิ่มมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 4.6% (YoY) และด้วยมูลค่าทางการตลาดและกำลังซื้ออันมหาศาลนี้เอง จึงไม่แปลกที่เหล่าผู้ประกอบการไทยหลายรายอยากเข้าไปจับจองโอกาสทางธุรกิจนี้ แต่การที่ผู้ประกอบการไทยจะก้าวข้ามความท้าทายเพื่อเข้าใจเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคจีน เพื่อสร้างยอดขายและเติบโตในตลาดจีนได้อย่างมั่นคงนั้น กลับไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตาม โอกาสที่แบรนด์ไทยจะไปโตในตลาดจีนยังคงมีแนวโน้มที่ดี ด้วยปัจจัยหนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น 1. ศักยภาพด้านทำเลที่ตั้งใกล้กับจีนเอื้อต่อการส่งออก 2. นโยบายภาครัฐไทยที่ยังสนับสนุนการส่งออกไปจีน 3. ตลาดสินค้าจีนในกลุ่มฟู้ดและคอสเมติกมี
มังคุดไทยไปได้ดี ตลาดจีนถึงโลละ 70 บาท เร่งแผนพัฒนามังคุดพรีเมียม วันที่ 25 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ร.ต.อรุณ บุญวงศ์ ประธานกลุ่มมังคุดบ้านน้ำดำ (ชะอวดโมเดล) อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตอนนี้ราคามังคุดเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้าราคาลดต่ำลง เพราะมีผู้ประกอบการ (ล้ง) มาประมูลกันมากขึ้น 80-85% โดยกลุ่มมังคุดบ้านน้ำดำมีผู้ประมูลวันละ 6-7 ราย ล่าสุดราคาประมูลเกรดผิวมันรวมหรือเกรดส่งออกอยู่ที่ กก.ละ 57 บาท ผิวดำ 15-17 บาท ซึ่งราคามังคุดที่ผ่านการประมูลปรับราคาดีขึ้น และล้งจะช่วยซื้อเกรดที่ตกไซซ์ผิวดำที่มีปริมาณมาก ส่งตลาดภายในประเทศ คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนสิงหาคม ปริมาณมังคุดใกล้หมดรุ่น ราคาจะดีขึ้นเรื่อยๆ อาจจะถึง 60-70 บาท เพราะตลาดจีนไปได้ดี ซึ่งราคาประมูลเป็นราคาของผู้ส่งออก สูงกว่าแผงรับซื้อข้างทางและ กก.ละ 25-30 บาท ที่ชาวสวนขายแบบเทรวมไม่คัดเกรดจะแยกเฉพาะปัดดอก ปัดดำ (ผิวสีดำไม่สวย) การยื่นประมูลแม้มีรายเดียวราคาต้องสูงกว่าราคาตลาด 10% ป้องกันพ่อค้าฮั้วกัน หรือกดราคา มีบางรายยื่นราคาต่ำมาก “ราคาจะผันผวน 2 ช่วงทุกๆ ปี คือ ช่วงต้นฤดู ปริมาณมังคุดไม่มาก และล้งยังเปิดรับซื้อน้อ
บุกตลาดจีนต้องรู้! 6 เมืองใหญ่ ปักหมุดเมืองน่าค้าขาย มือใหม่ส่งออกห้ามพลาด ผู้ประกอบการที่ตีตลาดส่งออกใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ไปบุกตลาดจีน มักเข้าใจว่า ผู้บริโภคชาวจีน มักมีกำลังซื้อสูงเหมือนๆ กันหมด แต่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า จีนเป็นประเทศที่มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ ทำให้แต่ละเมืองมีขนาด กำลังซื้อ และพฤติกรรมการบริโภคของคนที่แตกต่างกันไป คุณอิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เลเวลอัพ โฮลดิ้ง จำกัด ได้ปักหมุดเมืองน่าค้าขายในประเทศจีน ในเว็บไซต์ POST Family ให้ผู้ที่สนใจทำการส่งออกไปประเทศจีน ได้ทำความเข้าใจกัน ดังนี้ คุนหมิง : เมืองสุดชิล คุ้นเคยสินค้าไทย นับว่าเป็นจุดหมายที่ผู้ประกอบการไทยหลายคนเลือกให้เป็นตลาดแรกในการบุกจีน เพราะคุนหมิงเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ๆ สิบสองปันนา ค่อนข้างจะมีความคุ้นเคยกับสินค้าไทยซึ่งถือเป็นจุดได้เปรียบ และด้วยความที่คุนหมิงเป็นเมืองที่มีความชิลคล้ายๆ กับเชียงใหม่ ดังนั้น สินค้าที่เหมาะจะขายในเมืองนี้ อาจไม่จำเป็นต้องพรีเมียมมากหรือมีความไฮเอนด์สูง สำหรับสินค้าไทยที่มีโอกาส เช่น ผลิตภัณฑ์สปา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และของใช้ทั่วไป เซี่ยงไฮ้, เซินเจิ้น : เมืองแ
เปิด สินค้าจากไทย ที่คนจีนชอบ ผู้ประกอบการอยากบุกตลาดต่างประเทศ ต้องรู้! จีนคือมหาอำนาจที่ทรงอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งในแง่ของประชากรมหาศาลที่มีกำลังซื้อ ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด-19 ชาวจีนมาเที่ยวเมืองไทยมากถึง 11,138,658 คน สะท้อนให้เห็นว่า คนจีนชื่นชอบเมืองไทยและคุ้นเคยกับสินค้าไทยเป็นอย่างดี ทั้งยังนิยมสั่งซื้อสินค้าไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Taobao, Tmall Global, JD.com, Pinduoduo, VIP.com หากคิดจะขยายธุรกิจให้เติบโต การเจาะตลาดชาวจีนก็นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เว็บไซต์ Krungsri Auto พาผู้ประกอบการที่สนใจจะขยายตลาดไปจีน ไปดูสินค้าไทยยอดฮิตที่คนจีนชอบ เพื่อเป็นแนวทางในการผลิตสินค้าเพื่อตอบโจทย์ ดังนี้ ผลไม้ไทยยังอนาคตสดใส ทั้งผลไม้สดและผลิตภัณฑ์แปรรูป ช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2565 ไทยส่งออกผลไม้ไปยังจีนมูลค่าสูงถึง 9.2 หมื่นล้านบาท โดยผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมในจีน ได้แก่ ทุเรียน มะพร้าวอ่อน มังคุด ลำไย ส้มโอ สับปะรด ชมพู่ และเงาะ ซึ่งนอกจากซื้อเพื่อบริโภคแล้วคนจีนยังนิยมมอบผลไม้เป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ อีก
เปิดเทรนด์ผู้บริโภคชาวจีน! วุ้นผลไม้ สินค้าดาวรุ่ง ยิ่งใช้วัตถุดิบธรรมชาติ โอกาสสูง เจาะตลาด สบาย! เว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ รายงานข่าว นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึง วุ้นผลไม้ ซึ่งเป็นสินค้าดาวรุ่งตัวใหม่ ที่มีโอกาสขยายเข้าสู่ตลาดจีน หลังมีการขยายตัวจากกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเด็กเข้าสู่กลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นและวัยทำงานเพิ่มขึ้น โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานเพิ่มเติมว่า เดิมตลาดวุ้นผลไม้เป็นขนมทานเล่นของเด็กๆ แต่ปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือวัยทำงาน ได้หันมานิยมบริโภคกันมากขึ้น โดยมีผลสืบเนื่องมาจากการที่แบรนด์วุ้นผลไม้แต่ละแบรนด์ในจีน ได้มีการยกระดับรสสัมผัสและคุณภาพของวุ้นผลไม้ ทำให้วุ้นผลไม้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคหลายกลุ่มและบริโภควุ้นผลไม้ในหลายสถานการณ์มากขึ้น เช่น ในศูนย์ความงาม โรงภาพยนตร์ ร้านกาแฟ ร้านน้ำชาตอนบ่าย เป็นต้น ทั้งนี้ ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าแบรนด์วุ้นผลไม้หลายแบรนด์ในจีน ได้ยกระดับสินค้าตามความต้องการของก
น้ำพริกจีนโตต่อเนื่อง เข้าใจตลาดเพื่อสร้างโอกาสรุกแดนมังกร นอกจากคนไทยแล้ว จีน ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่นิยมรับประทาน ‘น้ำพริก’ เช่นเดียวกัน โดยน้ำพริกที่พบเห็นได้บ่อยและมีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไปในตลาดจีน ได้แก่ น้ำพริกเนื้อวัว น้ำพริกหมู น้ำพริกไก่ และน้ำพริกล้วน นอกจากนี้ ยังพบว่า น้ำพริกในตลาดจีนได้รับการพัฒนาใส่ส่วนผสมและเครื่องปรุงรสอื่นๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่หลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ น้ำพริกรสกระเทียม น้ำพริกเนื้อวัวผสมเห็ดทรัฟเฟิล และน้ำพริกหมูผสมถั่ว ส่งผลให้มูลค่าของตลาดน้ำพริกจีนมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยพบว่า ตลาดอุตสาหกรรมน้ำพริกจีนตั้งแต่ปี 2017 มีมูลค่า 32,400 ล้านหยวน ส่วนในปี 2020 ขนาดตลาดน้ำพริกมีมูลค่าสูงขึ้นเป็น 37,300 ล้านหยวน มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีถึงร้อยละ 4.8 และคาดการณ์ว่าในปีนี้ตลาดน้ำพริกจีนจะมีมูลค่า 39,000 ล้านหยวน ปัจจุบันการพัฒนาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ทำให้ปริมาณยอดขายของแบรนด์น้ำพริกออนไลน์ขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งน้ำพริกที่มีชื่อเสียงบนแพลตฟอร์มออนไลน์และสื่อโซเชียลมีเดียของจีน จะเน้นเจาะตลาดผู้บริโภคระดับสูง ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญต่อผลิตภ
เปิด 10 อันดับ แบรนด์-สินค้าไทย ที่ขายดีในตลาดอีคอมเมิร์ซจีน เป็นที่ทราบกันดีว่า ลูกค้าชาวจีนนั้นคลั่งไคล้สินค้าแบรนด์ไทยกันเป็นอย่างมาก โดยปี 2020 ก็ยังเป็นยุคทองของแบรนด์ไทยที่ขายดีในตลาดจีนท่ามกลางโรคโควิด-19 คิดเป็นมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สกินแคร์ หมวดสินค้าในกลุ่ม health และ wellness ในการจัดมหกรรมช็อปปิ้งระดับโลก 11.11 เมื่อวันที่ 11 เดือน 11 ปี 2020 ของอาลีบาบา ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ สินค้าในกลุ่ม health และ wellness ซึ่งเป็นสินค้าประเภทอาหารเสริม สินค้าเครื่องนอนที่ทำมาจากยางพารา ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามอยู่ใน 10 อันดับสินค้าขายดีที่นักช็อปชาวจีนซื้อผ่านทีมอลล์ โกลบอล แพลตฟอร์มที่รวบรวมเอาหลากหลายสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ไทยให้ผู้บริโภคจีนได้เข้าถึง โดยเว็บไซต์ ธนาคารกรุงเทพ ได้รวบรวม 10 แบรนด์ไทย และ 10 สินค้าไทย ที่ได้รับความนิยมจากตลาดจีน มีดังนี้