เป็นอีกหนึ่งไฮโซสาวที่มีไลฟ์สไตล์น่าสนใจ หากใครได้ติดตามอินสตาแกรม “maymay_svan” ของเธอ คงอยากรู้ที่มาที่ไปของสาวคนนี้ไม่น้อย เพราะไอจีของเธอยังเต็มไปด้วยความหรูหราทั้งของแบรนด์เนม และเครื่องประดับหรู บางคราวก็มีรูปเธอไปร่วมในงานสำคัญ ๆ กับเหล่าเซเลบริตี้เมืองไทยอีกหลายครั้ง
จนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า เธอผู้นี้เป็นใคร มาจากไหน และทำงานอะไร ถึงได้ร่ำรวยมีเงินช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมแบบกระจุยกระจายได้ขนาดนี้ และมักจะปรากฏตัวในงานระดับซูเปอร์ปาร์ตี้ของเหล่าคนดังทั่วฟ้าเมืองไทย
เธอผู้นี้คือนักธุรกิจจากสะหวันนะเขต สปป.ลาว มีนามว่า “สองใหญ่ อินศรีเชียงใหม่” หรือเมย์ อายุ 28 ปี บุตรชายของ นายสุวรรณกร กาศรีซงเดช และนางวิไลวรรณ อินศรีเชียงใหม่
ครอบครัวของเธอทำธุรกิจเกรย์มาร์เก็ตนำเข้ารถยนต์หรู ชื่อบริษัท Phonesavanh Trading และยังมีธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้านำเข้าจากประเทศไทยส่งขายที่ประเทศเวียดนาม และอีกหนึ่งธุรกิจที่เมย์เริ่มต้นหยิบจับด้วยตัวเอง คือขายจิวเวลรี่ระดับไฮเอนด์ในเมืองลาว และมีการซื้อขายที่ดินเป็นงานอดิเรกประปราย เรียกว่าฐานะของครอบครัวอยู่ในระดับเศรษฐีเมืองลาวก็ว่าได้
เหตุนี้เองที่ทำให้เธอปรากฏตัวเมืองไทยเดือนละ 3-4 ครั้ง นอกเหนือจากการทำงานที่ต้องแวะไปดูช่างจิวเวลรี่แล้ว ภารกิจที่ขาดไม่ได้ทุกครั้งที่มาของเธอ คือต้องหอบหิ้วกระเป๋า Hermes และสินค้าแบรนด์เนมอื่น ๆ กลับบ้านที่ลาวอยู่เป็นประจำ
ดูเหมือนเมย์จะกลายเป็นลูกค้าคนพิเศษประจำห้างสรรพค้าเมืองไทยไปแล้ว เพราะหลังจากที่เธอกลับจากช็อปปิ้งจะมีกระเช้าดอกไม้ส่งมอบถึงห้องพักโรงแรมเคมปินสกี้ แทบจะทันที
“ส่วนใหญ่จะช็อปปิ้งเมืองไทย เพราะไม่มีเวลาไปเมืองนอก แต่ต้องชอบจริงนะถึงจะซื้อ” เมย์บอกเหตุผลของความชอบ โดยมองว่าคนเราจะเลือกสะสมของไม่กี่อย่าง เพราะทั้งบ้านและรถเธอก็มีพร้อมหมดแล้ว เครื่องประดับก็ขายเอง ที่ขาดก็คือกระเป๋า เสื้อผ้า และนาฬิกาที่เธอยังไม่มี
“บ้านเมย์ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เป็นบ้าน 3 ชั้น มี 6 ห้องนอน รถก็ไม่จำเป็นต้องนั่งโรลส์รอยซ์ เบนท์ลีย์ แม้คนอื่นจะขับเบนซ์ แต่เราขับรถยี่ห้ออะไรก็ได้ไม่มีปัญหา (ขับ BMW) ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเรามีความสุขกับชีวิตตรงไหน แต่ตอนนี้เราแฮปปี้มาก ด้วยอายุเท่านี้ เพิ่งเริ่มสะสมกระเป๋าเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะชอบ รู้สึกว่ามันมีรสนิยม ตอนนี้ก็มองว่าการซื้อกระเป๋าเป็นการลงทุน”
ดูเหมือนจะเป็นการลงทุนระยะยาวทีเดียว ทั้งปริมาณและราคาที่สูงลิบ ราคาตั้งแต่หลักแสนถึง 3 ล้านบาท การเดินทางมาช็อปปิ้งเมืองไทยแต่ละครั้ง เมย์ต้องจ่ายเงินค่ากิเลสที่เธอต้องการดับ เฉลี่ยสูงสุดเป็นตัวเลข 8 หลักกันเลยทีเดียว ใครอยากรู้จักเธอมากกว่านี้ ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมที่ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ที่มาอินสตาแกรม maymay_savan