เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured พืชทำเงิน เกษตรยั่งยืน

ปลูกผักกูด 1 ไร่ ไม่ง้อสารเคมี! เผยเทคนิคปลูก-ขายกิ่งพันธุ์ ขายออนไลน์ รายได้เดือนละหลักหมื่น

ในยุคที่ใครหลายคนกำลังมองหาเส้นทางชีวิตใหม่ โดยเฉพาะการที่ต้องกลับมาอยู่บ้านเกิด การมีเส้นทางอาชีพส่วนใหญ่การทำเกษตร จึงเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่หลายๆ คนเลือกที่จะลงมือทำ ซึ่ง คุณเอก-เป็นเอก ปาคำ ชายหนุ่มที่ทิ้งงานบริการและตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ด้วยการโบกมือลางานประจำจากเมืองใหญ่ เพื่อกลับมาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น เริ่มต้นชีวิตเกษตรกรเต็มตัวกับพื้นที่เพียง 1 ไร่ แต่สามารถปั้นพื้นที่แห่งนี้จนกลายเป็นแหล่งปลูกผักกูดคุณภาพ ส่งขายทั้งยอดสดและกิ่งพันธุ์ผ่านตลาดออนไลน์

จากสถานการณ์โควิด-19

ทำให้เห็นความสำคัญของเกษตร

คุณเอก เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเป็นพนักงานขับรถส่งผู้โดยสารทั่วไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังสถานการณ์โควิดระบาด จึงได้กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดจังหวัดแพร่ และได้รับจ้างกรีดยางในสวนของพี่สาว พร้อมทั้งได้ทดลองปลูกกล้วยเพื่อจำหน่ายหน่อพันธุ์ ในระหว่างนั้นเห็นช่องว่างในพื้นที่ดงกล้วยว่าสามารถปลูกพืชแซมได้ จึงได้ตัดสินใจนำผักกูดเข้ามาทดลองปลูกจนประสบผลสำเร็จ ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น จึงได้นำองค์ความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในพื้นที่ 1 ไร่ จนประสบผลสำเร็จเป็นอาชีพมาจนถึงปัจจุบัน

“การปลูกผักกูดให้ประสบผลสำเร็จ มันต้องมีพืชพี่เลี้ยงครับ พอผมเอามาปลูกในดงกล้วยมันงามดีมาก พอย้ายมาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ผมก็นำความรู้ที่ทำมาจากแพร่มาปรับใช้ที่นี่ ซึ่งการปลูกผักกูดให้ประสบผลสำเร็จ มันต้องมีพื้นที่ร่มพอสมควร พื้นที่ต้องไม่ร้อนก็จะช่วยให้ได้ผลผลิตที่ดีตามมา”

การปลูกต้องมีร่มเงา และแหล่งน้ำเพียงพอ  

และห้ามใช้สารเคมีทุกชนิด ในพื้นที่เด็ดขาด!!!   

คุณเอก เล่าต่อไปอีกว่า หลังจากที่ศึกษาข้อมูลพบว่า ผักกูดถือเป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมด้วยวิตามินเอ ซี ธาตุเหล็ก และใยอาหาร อีกทั้งยังเป็นที่นิยมในตลาดเพื่อสุขภาพ และร้านอาหารพื้นบ้านทั่วประเทศ ​

การเตรียมแปลงปลูกผักกูดไม่ได้มีวิธีที่ซับซ้อน โดยใช้พื้นที่บริเวณบ้าน 1 ไร่มาจัดการและเริ่มปลูกผักกูด และข้อควรระวังของผักกูดคือห้ามใช้สารเคมีในพื้นที่โดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผักกูดแห้งตายทั้งหมด เพราะผักกูดถือเป็นพืชที่ไวต่อสารเคมีเป็นอย่างมาก  

หลังจากเตรียมดินเรียบร้อย คุณเอกใช้วิธีปลูกผักกูดด้วย “กิ่งพันธุ์” ซึ่งเป็นการปักชำจากต้นแม่พันธุ์ที่แข็งแรง โดยมีอายุอยู่ที่ประมาณ 6-7 เดือน สูงประมาณ 7 คืบ นำมาลงปลูกห่างกันประมาณ 40 เซนติเมตรต่อหลุม และมีการคลุมโคนต้นด้วยฟางข้าวเพื่อรักษาความชื้นในดิน และหลังจากปลูกไปได้ประมาณ 1 เดือน ยอดผักกูดจะค่อยๆ แทงยอดพ้นออกมาจากฟางที่คลุมไว้

“การปลูกผักกูด​ผมจะเลือกพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เน้นพื้นที่ให้เป็นดินร่วนปนทราย ที่สามารถเก็บความชื้นได้ดี และปรับพื้นที่ให้มีร่องน้ำเล็กๆ เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติของผักกูด การรดน้ำของที่สวนผมก็จะรดเช้าเย็น เป็นระบบสปริงเกลอร์และสายยางจากมือ จะรดน้ำประมาณ 15-20 นาทีต่อครั้ง อย่างที่เรารู้กันคือผักกูดธรรมชาติของเขาค่อนข้างที่จะชอบพื้นที่แฉะ”

การดูแลผักกูดให้ได้คุณภาพ น้ำและปุ๋ยปัจจัยสำคัญ

ช่วยให้ได้ผลผลิตคุณภาพ ขายได้ทั้งยอดและต้นพันธุ์  

สำหรับการใส่ปุ๋ยบำรุงผักกูดภายในพื้นที่ 1 ไร่ คุณเอก บอกว่า จะใช้ปุ๋ยคอกอย่างเช่นมูลวัว มูลกระบือ มาโรยให้ทั้งพื้นที่ในปริมาณไม่มาก พร้อมทั้งนำใบไม้ที่ผุพังมาใส่ให้กับผักกูดเช่นกัน และนำฟางมาคลุมบ้างให้เหมือนกับที่ปลูกครั้งแรก เพราะฟางจะช่วยในเรื่องของการกักเก็บความชื้นให้กับผักกูดได้เป็นอย่างดี ซึ่งปุ๋ยที่คุณเอกใช้จะไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลยแม้แต่เม็ดเดียว

การดูแลผักกูดให้ได้ขนาดที่พร้อมจำหน่ายได้นั้น คุณเอก บอกว่า อายุก็จะแตกต่างกันไปอยู่ที่ว่าต้องการนำไปจำหน่ายแบบไหน ถ้าใช้สำหรับเป็นกิ่งพันธุ์ไซซ์เล็กก็จะดูแลหลังปลูกประมาณ 5-6 เดือน หรือถ้าต้องการทำเป็นกิ่งพันธุ์ไซซ์ใหญ่บางครั้งก็จะต้องดูแลใช้เวลานานออกไปอีกเกือบ 10-12 เดือน

“ตั้งแต่ปลูกผักกูดมา ถือว่าเรื่องของโรคและแมลงศัตรูพืชไม่ค่อยมีครับ ผักกูดนี่ถือว่าเป็นไม้ที่ค่อนข้างแข็งแรง จะไม่ชอบอยู่อย่างเดียวก็จะเป็นในเรื่องของสารเคมีทุกชนิด อย่าได้นำมาใช้ในพื้นที่โดยเด็ดขาด แต่ถ้าช่วงไหนมีเจอหนอนบ้าง จากที่เห็นบางครั้งก็จะมีนกเข้ามาช่วยกำจัด แต่ถ้าระบาดมากๆ ก็อาจจะใช้พวกน้ำหมักเข้ามาช่วยได้ครับ”

ผักกูดพืชลงทุนปลูกครั้งเดียว

มีอายุให้การเก็บเกี่ยวได้นาน 10-20 ปี  

หลังจากที่ปลูกผักกูดได้อายุประมาณ 5-6 เดือน คุณเอก บอกว่า ต้นผักกูดจะค่อยๆ แตกยอดออกมาให้ตัดขายได้ ซึ่งยอดผักจะเริ่มงอกต่อเนื่องสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ซึ่งพื้นที่ 1 ไร่ สามารถเก็บยอดผักกูดขายได้เฉลี่ยสัปดาห์ละ 15-20 กิโลกรัม จำหน่ายอยู่ที่ราคา 60-80 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ ความต้องการผักกูดมีเข้ามามาก โดยเฉพาะคนที่สนใจอยากจะปลูกผักกูดไว้บริโภคเอง หรือหากคุณเอกได้ปรับการทำตลาดให้มีสอดรับต่อความต้องการของลูกค้า จึงได้ผลิตกิ่งพันธุ์ผักกูดจำหน่ายประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ในเวลานี้

“​กิ่งพันธุ์ที่ได้จากต้นแม่อายุ 7 เดือนขึ้นไป มีประมาณ 100 ต้น ผมจะขายอยู่ที่ชุดละ 199 บาท และถ้าเป็นไซซ์กลางอายุผักกูด 10 เดือนขึ้นไปขาย 100 ต้น ราคาอยู่ที่ 499 บาท และถ้าเป็นไซซ์ที่ 3 เป็นบิ๊กไซซ์อายุมากกว่า 1-2 ปี ประมาณ 20 ต้น ราคาอยู่ที่ 299 บาท ชุดนี้หลังไปปลูกแล้วประมาณ 3-5 สัปดาห์ต้นจะแตกยอดออกมา สามารถนำไปประกอบอาหารได้ทันที”

ตีตลาดออนไลน์ ช่วยให้ขายง่าย

เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป็นวงกว้าง

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีและสื่อโซเชียลมีเดีย เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมาก คุณเอกจึงใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพจสวน การถ่ายรูปและวิดีโอ การตอบแชตลูกค้า ไปจนถึงการจัดส่งเองแบบรวดเร็ว จึงช่วยการจำหน่ายสินค้าทั้งหมดใช้หลักการทำตลาดออนไลน์ทั้งหมด จึงทำให้ผักกูดแห่งนี้ตีตลาดได้ไกลและลูกค้ารู้จักเป็นวงกว้าง ​

“​ผมตั้งใจให้ลูกรู้ว่าผักกูดไม่ได้ปลูกยากและอร่อยกว่าที่คิด พยายามสื่อไปทางช่องทางออนไลน์ ทุกวันนี้ลูกค้าผมกระจายอยู่ทั่วประเทศ ตั้งแต่แม่บ้าน คนรักสุขภาพ ไปจนถึงร้านอาหารที่ต้องการวัตถุดิบสดใหม่และปลอดภัย ผมถือว่า​ผักกูดเปลี่ยนชีวิตผมนะ จากคนที่เคยคิดว่าเกษตรทำยาก แต่ตอนนี้ผมรู้สึกมีความสุขทุกเช้าที่ตื่นมาเดินในสวน ได้เห็นพืชงอกงาม ได้พูดคุยกับลูกค้า ได้ส่งต่อสิ่งดีๆ ไปถึงมือถูกค้าของผม​”​

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณเอก-เป็นเอก ปาคำ ฟาร์มตั้งอยู่ที่บ้านจอมบึง หมู่ที่ 8 ตำบลหัวนาคำ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น หมายเลขโทรศัพท์ 065-475-8962

Related Posts