การกำจัดปลาหมอคางดำ
การมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำที่เป็นระบบ และช่วยให้ ตั้งแต่การเข้ามาช่วยกันติดตามเฝ้าระวัง ตลอดจนการส่งเสริมการใช้ประโยชน์หรือแปรรูปนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ เพื่อใช้บริโภคช่วยลดค่าครองชีพในครัวเรือน และเป็นโอกาสร้างรายได้เสริมให้ชุมชน อย่าง แจ่วบอง ตราใบโพธ์ สินค้ายอดนิยม ของ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำ ตำบลโพพระ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เป็นตัวอย่างของการสร้างความมีส่วนร่วมของชุมชนเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส นายอดิเรก แก้วเจริญ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำตำบลโพพระ เล่าให้ฟังว่า กลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำสัตว์น้ำ ตำบลโพพระ มีสมาชิกอยู่ 28 คน ได้รับการส่งเสริมจากประมงจังหวัดนำปลาหมอคางดำมาทำผลิตภัณฑ์อาหาร เพิ่มมูลค่าเกิดประโยชน์สูงสุด ในแต่ละสัปดาห์สมาชิกจะนำปลาหมอคางดำที่จับได้มาหมักเป็นปลาร้า ปัจจุบัน กลุ่มหมักปลาร้าไว้ได้ 50 ถัง แต่ถังละบรรจุปลาร้าน้ำหนัก 80 กิโลกรัม นอกจากนี้ ชาวบ้านยังนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาคิด และต่อยอด สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์อาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้ง น้ำปลาร้าปรุงรส ปลาร้าส้มทอด ปลาหมอแดดเดียว หรือแม้แต่ของทานเล่น เ
ประมงจังหวัดราชบุรี เผยสถานการณ์ปลาหมอคางดำในจังหวัดราชบุรีอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และในลำคลองยังพบปลาพื้นถิ่นอาศัยอยู่หลายชนิด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อระบบนิเวศ ปีนี้ราชบุรียังคงดำเนินการต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูความสมดุลของระบบนิเวศและดูแลเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างเป็นระบบ วันที่ 17 มกราคม 2568 นายจิระพงศ์ ศิริวัฒน์ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนประมงจังหวัดราชบุรี มอบหมายให้นางสาวจินตนา นิธรรม หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง นางสายหยุดฤทธิ์ ช่วยประมง อำเภอโพธาราม พร้อมเจ้าหน้าที่และหน่วยงานพันธมิตร ได้ลงพื้นที่ทำกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” จับปลาหมอคางดำในคลองหนองบางงู ตำบลเจ็ดเสมียน อำเภอโพธาราม ตามแผนปฏิบัติการในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ตั้งเป้าจัดกิจกรรมจับปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติให้ครบทั้ง 6 อำเภอ ควบคู่กับการวางแผนการปล่อยปลาผู้ล่าลงในแหล่งน้ำเพื่อช่วยกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำ และในระยะต่อไปมีการวางแผนการปล่อยปลาพื้นถิ่นกลับคืนลงสู่แหล่งน้ำเพื่อทดแทนปลาที่ถูกกำจัดออก และเพิ่มความหลากหลายในระบบนิเวศ จังหวัดราชบุรี ยังพบปลาหมอคางดำในพื้นที่ 6 อำเภอ แต่มีปริมา
ประมงจังหวัดสงขลา และ ประมงจังหวัดพัทลุง ยืนยันทะเลสาบสงขลายังไม่พบปลาหมอคางดำ ไม่นิ่งนอนใจจับมือเอกชนและชุมชนปล่อยลูกปลากะพงขาวลงแหล่งน้ำ ด้วยแนวทางเชิงป้องกัน สร้างแนวกันชนด้วยการปล่อยลูกพันธุ์ปลากะพงขาวลงในแหล่งน้ำ ป้องกันปลาหมอคางดำรุกเข้าไปในทะเลสาบสงขลา พร้อมผนึกพลังชุมชนและชาวประมงเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง นายภูษิต จันทร์เพชร ประมงจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ที่ผ่านมาประมงจังหวัดพัทลุงบูรณาการหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชน ชาวประมง และภาคเอกชนจัดการปัญหาปลาหมอคางดำ ทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลกับชุมชนในจังหวัด และชาวประมงที่อยู่รอบทะเลสาบเพื่อสร้างการรับรู้ปลาชนิดนี้ให้ช่วยกันสอดส่อง ยับยั้ง ป้องกัน เฝ้าระวังในพื้นที่บริเวณทะเลสาบสงขลา และรอยต่อระหว่างจังหวัดสงขลา และจัดชุดปฏิบัติการชาวประมงสำรวจปลาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันยังไม่พบปลาหมอคางดำในทะเลสาบสงขลา ทั้งนี้ พัทลุงไม่เคยนิ่งนอนใจให้ความสำคัญกับการดำเนินการเชิงป้องกัน ติดตามสำรวจปลาหมอคางดำในพื้นที่ ไม่รอให้เกิดการแพร่ระบาดไปในหลายพื้นที่ และในช่วงที่มีฝนตกชุกในพื้นที่ จังหวัดพัทลุงได้ปล่อยปลากะพงขาวขนาด 4 นิ้ว จำนวน
จังหวัดตราดดำเนินมาตรการป้องกันปลาหมอคางดำรุกพื้นที่ ผนึกกำลังทุกภาคส่วนติดตามสำรวจในทุกแหล่งน้ำสม่ำเสมอ ล่าสุด นายกุณสมบัติ ศิริสมบัติ ประมงจังหวัดตราด และ นายจำนงค์ศักดิ์ ทิพย์เนตร ปลัดอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด พร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ข้าราชการ และจิตอาสาร่วมปล่อยลูกปลากะพงขาว 3,000 ตัว ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ลงสู่แม่น้ำเวฬุ บริเวณใต้สะพานถ้าจอด ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด นายกุณสมบัติ เปิดเผยว่า ปัจจุบันจังหวัดตราดยังไม่พบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ แม้จะมีพื้นที่ติดกับจังหวัดจันทบุรี โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้ร่วมกับชาวประมงในท้องถิ่นติดตามเฝ้าระวังและสำรวจแหล่งน้ำอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้ จากการทอดแหในแหล่งน้ำต่างๆ ยังไม่พบปลาหมอคางดำ “การปล่อยปลากะพงขาวเป็นมาตรการเชิงป้องกันตามแนวทางของกรมประมง เนื่องจากปลากะพงเป็นปลานักล่าสามารถช่วยควบคุมประชากรปลาหมอคางดำ โดยการช่วยกินตัวอ่อนของปลาหมอคางดำเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดได้หากพบมีปลาหมอคางดำหลุดเข้ามาในแหล่งน้ำของตราด นอกจากนี้ ปลากะพงขาวยังเป็นปล
สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม ผนึกกำลังเกษตรกร และภาคเอกชน รวมทั้ง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ นำร่องโมเดลใหม่แก้ปัญหาปลาหมอคางดำ หลังจากปลาหมอคางดำขนาดใหญ่ถูกกำจัดออกจากแหล่งน้ำพร้อมกับช่วยเยียวยาเกษตรกร ผ่านกิจกรรม ‘สิบหยิบหนึ่ง’ ปราบปลาหมอคางดำ โดยสนับสนุนลูกพันธุ์ปลากะพงขาวให้เกษตรกรที่ร่วมโครงการนำไปปล่อยลงในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำช่วยกินตัวอ่อนของปลาหมอคางดำ บรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ลดความเสียหายของผลผลิต และสร้างการมีส่วนร่วมช่วยเพิ่มจำนวนพันธุ์ปลาเศรษฐกิจที่เป็นนักล่าช่วยกำจัดปลาหมอคางดำแบบบูรณาการเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม นายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า จากการระดมความร่วมมือของหลายหน่วยงานทั้งในระดับท้องถิ่นและภาคีภาคเอกชนบูรณาการจัดการปลาหมอคางดำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ครอบคลุมกว่า 70% ของแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในจังหวัด พบปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำเบาบางลงอย่างมีนัยสำคัญ ปลาหมอคางดำที่จับได้ตัวเล็กลง ปลาที่เป็นพ่อแม่พันธุ์หายไป เป็นแนวโน้มว่าปลาหมอคางดำในสมุทรสงครามลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ สมุทรส
ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม และประมงจังหวัดสมุทรสาคร ยืนยันว่ามาตรการจัดการปัญหาปลาหมอคางดำที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเกิดผลดี ส่งผลให้ทั้งสองจังหวัดพบปลาลดลงอย่างเป็นรูปธรรม ด้าน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ยังเดินหน้าสนับสนุนกรมประมงดำเนิน 5 มาตรการในการจัดการปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการสนับสนุนปลาผู้ล่าเพื่อปล่อยลงในแหล่งน้ำตามแนวทางของกรมประมง นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จากการดำเนินมาตรการกำจัดปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง จังหวัดสมุทรสาครสาครสามารถกำจัดปลาหมอคางดำได้แล้ว 1,662,879 กิโลกรัม จนถึงวันนี้ชาวประมงจับปลาหมอคางดำได้ลดลง จากเดิมเรืออวนรุนเคยจับปลาหมอคางดำได้เที่ยวละ 1-2 ตันแต่มาวันนี้จับได้เพียงเที่ยวละ 300 กิโลกรัม บางทีเหลือเพียง 100 กิโลกรัม ดังนั้น ประเมินได้ว่าแหล่งน้ำธรรมชาติในจังหวัดสามารถกำจัดปลาหมอคางดำแล้ว 70-80% ของปลาหมอคางดำที่อยู่ในแหล่งน้ำ ขณะที่ นายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ประมงจังหวัดสมุทรสงคราม อธิบายว่า จังหวัดสมุทรสงครามร่วมมือกับทุกภาคส่วนจับปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทุกวันนี้ปลาหมอคางดำที่จ
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งปัจจุบัน ท่านอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้ามากำกับดูแลกรมประมง โดยได้มอบนโยบายให้กรมประมงเร่งขับเคลื่อนการดำเนินมาตรการด้านต่าง ๆ ในเชิงรุกอย่างเข้มข้น เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นระยะยาวในการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะในมาตรการที่ 3 คือการนำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ อาทิเช่น การหมักปลาร้า ซึ่งล่าสุดสำนักงบประมาณ ได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นงบกลางจากรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567 – 2570 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ซึ่งมีเป้าหมายในการกำจัดปลาหมอคางดำออกจากระบบนิเวศให้ได้ 200,000 กิโลกรัม เป็นวงเงินทั้งสิ้น 4,900,000 บาท กรมประมงจึงได้เร่งจัดสรรงบประมาณอุดหนุนให้กับองค์กรชุมชนประมง
รายงานจากประมง 4 จังหวัด นครศรีธรรมราช สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทราสมุทรสาคร พบปลาหมอคางดำในพื้นที่เบาบางลง โดยเฉพาะสมุทรสาครโชว์มาตรการเป็นผลปลาหมอคางดำหายไปกว่า 70% นายกอบศักดิ์ เกตุเหมือน ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า โดยปกติชาวบ้านในจังหวัดนครศรีธรรมราช ใช้ประโยชน์จับปลาหมอคางดำขายเป็นปลาเหยื่อจับปูและปลามานานแล้ว อย่างไรก็ตาม ประมงจังหวัดระดมทุกสรรพกำลังเร่งจับปลาหมอคางดำในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ปากพนังและหัวไทร จัดกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” จับปลาหมอคางดำในคลองสายต่างๆ จับปลาหมอคางดำเพื่อส่งให้โครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อเกษตรกรชาวสวนยางแล้ว 21 ตัน และในเดือนกันยายนนี้ประมงนครศรีธรรมราชยังจัดสรรงบเพิ่มเติมสำหรับใช้จัดซื้อปลาหมอคางดำกิโลกรัมละ 15 บาทสำหรับส่งให้สำนักงานพัฒนาที่ดินสำหรับผลิตน้ำหมักชีวภาพและนำไปแจกจ่ายให้เกษตรกรซึ่งคาดว่าจะช่วยกำจัดปลาได้อีกกว่า 18 ตัน “แนวทางการจำกัดปลาหมอคางดำที่ดำเนินการมาสามารถกำจัดปลาในแหล่งน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แหล่งน้ำหลายแห่งมีปลาหมอคางดำน้อยลง ซึ่งจังหวัดมีแผนจะปล่อยปลาผู้ล่าเพื่อช่วยกำจัดลูกปลาหมอคางดำในช่วงปลายเดือนนี้ต่อไป”
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โชว์ผลการดำเนินโครงการเชิงรุกสนับสนุนกรมประมงกำจัดปลาหมอคางดำมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วมมือโรงงานปลาป่น จ.สมุทรสาครรับซื้อปลาหมอคางดำผลิตปลาป่นได้มากกว่า 1 ล้านกิโลกรัมแล้ว และยังเดินหน้ารับซื้ออย่างต่อเนื่องที่เป้าหมาย 2,000,000 กิโลกรัม พร้อมบูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อช่วยกันกำจัดปลาหมอคางดำให้หมดไป นายอดิศร์ กฤษณวงศ์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานรัฐกิจและเอกชนสัมพันธ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟร่วมมือกับโรงงานศิริแสงอารำพีเปิดรับปลาหมอคางดำเพื่อผลิตปลาป่นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมีนาคม และรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 15 บาทเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา จนถึงวันนี้ โรงงานสามารถรับซื้อปลาหมอคางดำได้แล้วมากกว่า 1,000,000 กิโลกรัม (1,000 ตัน) ขณะเดียวกันซีพีเอฟยังได้ร่วมสนับสนุนประมงจังหวัดหลายพื้นที่จัดกิจกรรมจับปลาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สนับสนุนกรมประมงใน 13 จังหวัดจับปลาได้กว่า 12,000 กิโลกรัมแล้ว และบริษัทยังเดินหน้าร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการลดจำนวนปลาหมอคางดำในทุกพื้นที่ นายปรีชา ศิริแสงอารำพี เจ้าของบริษัท ศิริแสงอารำพี จำกัด โ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าสนับสนุนกรมประมงในการขับเคลื่อนกำจัดปลาหมอคางดำอย่างเต็มกำลัง ผนึกพลังกับสำนักงานประมงจังหวัดใน 4 พื้นที่ ประมงสมุทรสงคราม ประมงสุราษฎร์ธานี ประมงนครศรีธรรมราช และประมงชุมพร จัดกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” จับปลาออกจากแม่น้ำลำคลอง และนำไปเพิ่มมูลค่าทำปลาทำน้ำหมักชีวภาพและอาหารเมนูต่างๆ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศในแหล่งน้ำอย่างเป็นรูปธรรม นายอดิศร์ กฤษณวงศ์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานรัฐกิจและเอกชนสัมพันธ์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทร่วมสนับสนุนกรมประมงโดยดำเนิน 5 โครงการเชิงรุกบูรณาการหลายภาคส่วนเพื่อกำจัดและควบคุมปริมาณปลาชนิดนี้อย่างจริงจังเพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ ร่วมมือกับประมงจังหวัดทั่วประเทศจับปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำอย่างต่อเนื่อง บริษัทสนับสนุนเครื่องมือจับสัตว์น้ำ อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งกำลังคนในการช่วยกำจัดปลาออกจากแหล่งน้ำ ล่าสุด ซีพีเอฟลงพื้นที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” ปฏิบัติการจับปลาหมอคางดำใน 4 จังหวัด สมุทรสงคราม สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และชุมพร ประมงสมุทรสงคราม จัดกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง” ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 6 นา