จังหวัดกำแพงเพชร
เชอรี่หวานออสเตรเลีย หรือ อะเซโรล่าเชอรี่ หลายท่านอาจจะเคยเห็น ผลไม้ทรงกลมป้อม เล็กสีแดงสด เมื่อสุกจัดจะมีสามสีอยู่บนต้น คือ เขียว จะเริ่มสู่สีส้มอมเหลือง พอแก่จัดก็จะเป็นสีแดงสดสวยงาม ประดับอยู่บนต้นทรงพุ่มเตี้ย ที่ดกเต็มต้น ตัดกับสีเขียวเข้มของใบ ดูแล้วสวยงาม ผลไม้ชนิดนี้หลายคนอาจจะส่ายหน้าไม่รู้จัก แต่ถ้าเห็นแล้วก็จะทราบว่าเป็นผลไม้เมืองร้อนทั่วไป พันธุ์พื้นเมืองบ้านเราก็มี ลักษณะเหมือนกัน ต่างกันที่รสชาติ ของไทยเราจะเปรี้ยวจัด ต้องจิ้มพริกเกลือ แต่พันธุ์จากออสเตรเลีย จะหวานอมเปรี้ยวรับประทานผลสดได้เลย มารู้จักที่มาของ อะเซโรล่าเชอรี่ และผลของการวิจัย อะเซโรล่าเชอรี่ (Acerola Cherry) อยู่ในพืชตระกูล Malpighiaceae ที่มีลำต้นเป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ สูงประมาณ 6 เมตร ออกดอกและผลเป็นช่อๆ ลักษณะคล้ายผลเชอรี่ เส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 1.25-2.5 เซนติเมตร มีผิวที่บางและช้ำง่ายมาก รสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลไม้ขนาดกลมป้อมนี้ มีวิตามินสูง จึงมีบริษัทอาหารเสริมต่างๆ ใช้เป็นส่วนผสม เพื่อชะลอวัย แต่วันนี้ได้นำพืชชนิดนี้มาเสนอให้ทุกท่านเลือกปลูกเพื่อรับประทานผลสดได้ที่บ้าน โดยการปลูกเป็นพืชที่มีประโยชน์ทั้ง
เมื่อเร็ว ๆนี้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมคณะที่ปรึกษา ได้เดินทางไปติดตามผลการดำเนินงานของโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านป่าคา ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมเชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในโครงการฯ จำนวน 300 ชุด และโอกาสนี้ได้พบปะเยี่ยมราษฎรชาวไทยภูเขา บ้านป่าคา บ้านโละโคะ และบ้านป่าหมาก เพื่อรับทราบชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพ โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านป่าคา จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ โดยมุ่งส่งเสริมอาชีพด้านการทำเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ให้กับราษฎร ชาวไทยภูเขาบ้านป่าคาและหมู่บ้านบริวาร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวได้น้อมนำพระราชดำริมาดำเนินการมีการดำเนินงานแบบบูรณา โดยมีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชรับผิดชอบหลัก โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระ
‘ตลาดมอกล้วยไข่’กำแพงเพชร – ตลาดริมทาง ‘ตลาดมอกล้วยไข่’ จ.กำแพงเพชร เป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เลือกมาส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาให้เป็น ‘ตลาดริมทาง’ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศให้เข้มแข็ง จากชุมชนและท้องถิ่นฐานราก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มอบนโยบายให้กระทรวงพาณิชย์ ส่งเสริมยกระดับพัฒนาตลาดชุมชนให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และทำให้เกิดความเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ในจังหวัดนั้นๆ การเข้ามาส่งเสริมพัฒนาตลาดมอกล้วยไข่ ของกรมการค้าภายใน เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ช่วยให้เกิดกิจกรรมการค้าขายและการท่องเที่ยวควบคู่กันไป ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในชุมชน เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างโอกาส และช่องทางการกระจายสินค้าเกษตร และสินค้าอื่นๆ แก่ผู้ค้าของชุมชน และสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าดีมีคุณภาพ มาตรฐาน ราคาเป็นธรรม ตลาดริมทาง ‘ตลาดมอกล้วยไข่’ จ.กำแพงเพชร เป็น 1 ใน 5 ตลาดริมทาง บนถนนสายหลักของประเทศขึ้นภาคเหนือที่ผ่านแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งหลายจังหวัด นับเป็นจุดซื้อขายสินค้าที่น่าแวะ และยังสามารถเชื่อมโยงเดินทาง
“กล้วยไข่” เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดกําแพงเพชร เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกกล้วยไข่พันธุ์กําแพงเพชร ในระยะห่าง 2×2 เมตร มีการตัดแต่งหน่อทุกระยะการเจริญเติบโตและหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิต แปลงปลูกกล้วยไข่จะให้ปุ๋ย 2 ครั้ง คือ หลังปลูกประมาณ 1 เดือน และหลังเก็บเกี่ยว 1 เดือน ปุ๋ยเคมีที่นิยมใช้ คือ ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15, 46-0-0 ใส่ครั้งละ 0.5-1 กิโลกรัม ต่อต้น ส่วนปุ๋ยอินทรีย์จะใช้มูลไก่และกากชานอ้อย อัตรา ไร่ละ 1,000 กิโลกรัม ด้านการเก็บเกี่ยว เกษตรกรจะอาศัยการสังเกตก่อนเก็บผลผลิต โดยใช้วิธีการนับอายุดูสี ดูเหลี่ยมของผล ดูขนาดผลและนับวันกล้วยไข่ออกดอกบานถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 45 วัน เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมซื้อขายกล้วยไข่โดยใช้หน่วยในการขายเป็น “ตั้ง” มีเป็นส่วนน้อยที่ทําการซื้อขายโดยชั่งเป็นกิโลกรัม กล้วยไข่คุณภาพดี ต้องมีขนาดหวีสมบูรณ์ 6 หวี ในแต่ละหวี มีไม่น้อยกว่า 12 ผล “ปุ๋ยอินทรีย์” ตัวช่วยลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิต ปัจจุบัน เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่อยากได้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยลดต้นทุน และเพิ่มปริมาณผลิตผล ควบคู่กับการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย ครูพิมลพรรณ พรหมทอง หรือ “ครูเอ๋” โทร. 086-421-313