จังหวัดศรีสะเกษ
ศรีสะเกษ, 21 พฤศจิกายน 2562 – บริษัท เจียไต๋ จำกัด ร่วมมือกับโรงพยาบาลราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ จัดกิจกรรมตรวจสุขภาพเกษตรกรในโครงการพริกปลอดภัยกว่า 120 คน ส่งเสริมให้เกษตรกรตระหนักถึงการดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง ณ โรงพยาบาลราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขานรับนโยบายการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ด้วยความมุ่งมั่นในการส่งมอบนวัตกรรมการเกษตรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าอย่างอย่างยั่งยืน เจียไต๋ได้ริเริ่มโครงการพริกปลอดภัย ในจังหวัดศรีสะเกษ โดยนำเทคโนโลยีการเพาะปลูก รวมถึงการส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร หรือ Chia Tai Agronomist ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับเกษตรกร เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้เกิดผลผลิตพริกปลอดภัยที่ได้รับการรับรองตามแนวทางการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) รวมถึงสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกพริกทั้งแง่ปริมาณและคุณภาพเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในโครงการ ทั้งนี้ นโยบายการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) นอกจากจะให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตเพื่อได้ผลผลิตที่ปลอดภัยแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการมีสุขอนามัยที่ดีของเกษตรกรด้วย เจียไต๋
เจียไต๋ ลงนามความร่วมมือกับจังหวัดศรีสะเกษ ขับเคลื่อนโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัยอย่างยั่งยืน นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และ นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัย โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมให้เกียรติเป็นสักขีพยาน ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง จังหวัดศรีสะเกษ บันทึกข้อตกลงฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงการผนึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนเกษตรกรที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนด้านนวัตกรรมเกษตรผ่านโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัย ในจังหวัดศรีสะเกษ นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวถึงการลงนามความร่วมมือโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัยครั้งนี้ว่า “พริก ถือเป็นหนึ่งในพืชผักที่อยู่คู่ครัวคนไทยมาช้านาน เพราะคนไทยนิยมบริโภคอาหารรสจัด เรารับประทานพริกกันมาก แต่พริกก็เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีสารเคมี
สัมผัสทัศนียภาพ เมืองศรีสะเกษ ที่หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ กับฝรั่งหัวใจไทย “แดเนียล เฟรเซอร์” พร้อมเรียนรู้ประเพณีชาวบ้านอย่าง “ตำข้าวโบราณ” ณ หมู่บ้าน สร้างเรือง และสืบสานเอกลักษณ์ท้องถิ่นประจำหมู่บ้านส้มป่อยอย่าง “รำกลองตุ้ม” เยือนถิ่นแลนด์มาร์คใหญ่ประจำจังหวัด ศรีสะเกษ ณ หอคอยศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติ ที่มีความสูงราว 84 เมตร ที่อยู่ในเกาะกลางน้ำกลางห้วยน้ำคำ หนึ่งในจุดชมวิวที่งดงาม โดยภายในมีนิทรรศการจัดแสดงประวัติ บุคคลสำคัญ และสถานที่สำคัญต่างๆ ในจังหวัดศรีสะเกษ จากนั้นไปยังหมู่บ้านสร้างเรือง พร้อมเรียนรู้ประเพณีชาวบ้านอย่างการ “ตำข้าวโบราณ” ซึ่งมีกรรมวิธีจากครกกระเดื่องหรือที่เรียกอีกชื่อว่าครกกระดก หนึ่งในของใช้พื้นบ้านที่ต้องใช้แรงคนขึ้นไปเหยียบเพื่อตำข้าว พร้อมละลายทรัพย์กับสินค้าเด็ดประจำถิ่น อย่าง โคมไฟจากกะลามะพร้าว, กระเช้าของขวัญจากต้นเถาวัลย์ และข้าวอินทรีย์ ปิดท้ายความสุขวิถีชุมชนสไตล์ ณ หมู่บ้านส้มป่อย ซึ่งมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยวงดนตรีเยาวชน พร้อมสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่าง “รำกลองตุ้ม” ซึ่งเป็นหนึ่งในประเพณีบุญบั้งไฟขอฟ้าขอฝนที่เต็มไปด้วยความเชื่อเกี่ยว
ชุมชนท่องเที่ยวโอท็อป นวัตวิถี นับเป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่ช่วยสร้างชุมชนเข้มแข็ง ยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อสร้างอาชีพและรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนในชุมชนไม่ต้องเข้าเมืองหารายได้ แต่นำผลผลิตที่มีมาต่อยอด เพิ่มค่าให้น่าสนใจ วันนี้เราได้มาเยือนถิ่น “ศรีสะเกษ” ที่เป็นแหล่งปลูกหอมแดงขนาดใหญ่ในภาคอีสาน ตั้งอยู่ใน 4 อำเภอ คือ อ.ยางชุมน้อย อ.ราษีไศล อ.กันทรารมย์ และ อ.วังหิน ที่ถือว่าเป็นหอมแดงที่มีคุณภาพดีกว่าที่อื่น เพราะมีกลิ่นฉุนแรง เก็บรักษาได้ยาวนาน เกษตรกรนิยมปลูกหลังจากช่วงเก็บเกี่ยวข้าวนาปี และยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก แต่ราคาหอมแดงที่ขึ้นลงตามกลไกตลาด และสารพัดอุปสรรค ทำให้ชาวบ้านบ้านเมืองแสน ต.คอนกาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ กลุ่มอาชีพพัฒนาสตรี จึงรวมกลุ่มคิดค้น “ชาหอมแดง” เพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบ “นางวิลาวัณย์ แก้วคำ” เกษตรกรต้นแบบบ้านยางชุมน้อย เล่าถึงที่มาให้ฟังว่า ปีนั้นหอมแดงราคาต่ำ ทางพัฒนาชุมชนจึงส่งกลุ่มของเราเข้าอบรมที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เพื่อแปรรูปหอมแดง จึงได้สูตรชาหอมแดงขึ้นมา โดยใช้หอมแดงอายุตั้งแต่ 75 วัน ขึ้นไ
คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มุ่งมั่นสนับสนุนการวิจัยและการสร้างนวัตกรรมที่ตอบสนอง การแก้ปัญหาและพัฒนาตามโจทย์สำคัญระดับจังหวัดในมิติเศรษฐกิจและอาชีพ และตอบสนองนโยบายการขับเคลื่อน Thailand 4.0 โดยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลงานวิจัยใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์เปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิม ไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ ที่เน้นการบริหารจัดการและเทคโนโลยี (Smart Farming) เปลี่ยนเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการ Smart Enterprises และ Startups บริษัทเกิดใหม่ที่มีศักยภาพสูง ซึ่งผลิตภัณฑ์ “ชาหอมแดง” จากผลงานวิจัยของ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ (มรภ.ศก.) โดย อาจารย์จิรายุ มุสิกา และคณาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เป็นหนึ่งในตัวอย่างผลงานวิจัยที่เข้าไปช่วยเปลี่ยนเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการ Smart Enterprises และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ “หอมแดง” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดศรีสะเกษ “หอมแดงยางชุมน้อย” ดีที่สุดในโลก หอมแดง เป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะอำเภอยางชุมน้อย มีพื้นที่ปลูกหอมแดงมากที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบัน อำเภอยางชุมน้อย มีพื้นที่ปลูกหอมแดง ประมาณ 14,000 ไร่ ให้ผลผลิ
หลายคนอาจจะเคยทานทุเรียนมาไม่กี่สายพันธุ์หรือจำกัดแค่สายพันธุ์ที่ตนเองชื่นชอบ บางคนก็จะบอกถึงรสชาติของทุเรียนว่ามันคงไม่แตกต่างกันเท่าไร วันนี้เรามีทุเรียนสายพันธุ์ใหม่ที่ใครๆ หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยได้ยินมาก่อน นั่นก็คือ “ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ” นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษกล่าวถึงความพิเศษของทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ว่าเป็นทุเรียนที่ปลูกอยู่แถบเขาพนมดงรัก ใกล้ชายแดนไทยกับกัมพูชา ลักษณะดินจะไม่ชุ่มน้ำ เนื้อทุเรียนไส้แห้ง เนื้อเนียนละเอียด กลิ่นฉุนน้อย ไม่หวานจัดรสชาติอร่อยไม่เป็นสองรองใคร ราคาไม่แพงมาก เราจึงคิดร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้ทุเรียนชนิดนี้ติดตลาด ก็ได้ข้อสรุปว่าต้องใช้กลยุทธ์การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ เปิดตลาดในหลายช่องทาง จนเป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคในวงกว้าง หากใครที่ไม่ชอบทุเรียนเละ ก็น่าจะชอบทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ เพราะเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงที่ไม่มีฝนเลย เนื้อทุเรียนจึงแห้งมาก นั่นเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษโดดเด่นไม่แพ้ใครจึงอยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยของทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ จ
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) จังหวัดศรีสะเกษ ปี 2561 พร้อมด้วย นายธงชัย เจริญพานิชย์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เกษตรกรและชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมงาน ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สร้างกลไกการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ สู่เกษตรกรผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “ศพก.” โดยหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้ร่วมกันนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีการปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสินค้าหลัก และเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่ เพื่อถ่ายทอดสู่เกษตรกร ให้เกิดองค์ความรู้ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในการประกอบอาชีพ โดยมีเป้าหมายสำคัญ 2 ระดับ คือ การทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงข้อมูลที่ต้องการเผยแพร่ และการทำให้กลุ่มเป้าหมาย นำข้อมูลไปใช้และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติก