ราคาพริก
แพงสุดในประวัติศาสตร์ พริกขี้หนูสวน ราคาพุ่ง กิโลกรัมละ 800 บาท แถมขาดตลาด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ขณะนี้ พริกขี้หนูสวน ซึ่งเป็นสินค้าที่ร้านอาหารและผู้บริโภคทั่วไปมีความต้องการใช้งาน กำลังมีราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะตอนนี้พุ่งขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 800 บาท ทำให้ลูกค้าต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อจากเดิมสั่งเป็นกิโลกรัม หรือครึ่งกิโลกรัม ซึ่งปกติพริกขี้หนูสวนกิโลกรัมละ 250 บาท แม่ค้าผักสดรายหนึ่งเปิดเผยว่า ราคาพริกขี้หนูสวนปรับราคาขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคม เพราะสินค้าเข้าสู่ตลาดน้อยจากภัยแล้งในหลายพื้นที่ แต่ความต้องการยังคงมีสูง โดยเฉพาะร้านอาหารที่จำเป็นต้องใช้พริกขี้หนูสวนทำน้ำจิ้ม หรือใส่ในส้มตำ และอาหารประเภทผัดต่างๆ ทำให้ราคาพริกขี้หนูสวนพุ่งขึ้นไม่หยุดจนปัจจุบันราคากิโลกรัมละ 800 บาท ถือว่าแพงที่สุดในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ แถมยังมีสินค้าน้อย บางวันไม่มีขายให้ลูกค้า เพราะชาวสวนไม่มีผลผลิตมาส่งให้ ที่มา มติชนออนไลน์
คุณธีรวัฒน์ รังสิกรรพุม เจ้าของสายมีฟาร์ม อยู่ที่ตำบลวังชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นเกษตรที่ปลูกพริกส่งออกยุโรปและญี่ปุ่น อาจเรียกว่าเป็นรายใหญ่ของไทยก็ว่าได้ โดยส่งออกพริกประมาณอาทิตย์ละ 2-3 ตัน หรือปีละ 100 ตันเลยทีเดียว ในเรื่องของสายพันธุ์พริกที่ปลูกจะเป็นสายพันธุ์เรดฮอท และชุปเปอร์เรดฮอท เป็นของบริษัทเพื่อนเกษตรกร จำกัด ทางบริษัทได้มีการพัฒนาพริกให้เป็นพันธุ์ลูกกผสม เพื่อให้ผลผลิตดกได้ประมาณผลผลิตต่อไร่สูง และที่สำคัญอายุการเก็บเกี่ยวสั้น “เรดฮอทเป็นพริกที่มีการพัฒนาสายพันธุ์มาไม่ต่ำกว่า 4 ปี ลักษณะพิเศษคือเป็นพริกที่มีผลสม่ำเสมอ ส่วนชุปเปอร์เรดฮอทเป็นพริกที่พัฒนามาได้ 1 ปีกว่าๆ ซึ่งตอนนี้กำลังทำตลาดอยู่ที่จังหัดขอนแก่น เป็นพริกที่พัฒนาสายพันธุ์เพื่อพัฒนาผลให้ใหญ่ขึ้น และมีสีที่เข้มขึ้น” คุณพิทักษ์ชน กล่าวให้ฟังถึงลักษณะของสายพันธุ์พริก มีประสบการณ์การปลูกพริก มากกว่า 7 ปี คุณธีรวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า เขาเป็นเกษตรกรที่ปลูกพริกอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 30 ไร่ และได้มีการทำเป็นเครือข่ายกับเพื่อนเกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ รวมแล้วอีกประมาณกว่า 200 ไร่ จึงทำให้พริกที่ปลูกสามารถส่งข
นักวิจัยถอดบทเรียน “ปลูกพริกพื้นที่น้อย เหลือเงินมาก” หนุนโครงการพริกแปลงใหญ่ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดแพร่ ถือเป็นตัวอย่างที่นำนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ของรัฐบาลมาดำเนินการและได้ผลดีเพราะมีการรวมกลุ่มวิสาหกิจดำเนินงานบนฐานงานวิจัย “พริกปลอดภัย” สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และหน่วยงานรัฐสนับสนุนต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จในการทำโครงการ “พริกปลอดภัย” ที่จังหวัดชัยภูมิในปี 2553 อาจารย์วีระ ภาคอุทัย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ประเมินภาพรวมทั้งจังหวัดพบว่า มีมูลค่าการขายพริกประมาณ 900 ล้านบาท มูลค่าจ้างเก็บพริกประมาณ 300 ล้านบาท ทำให้มีการขยายผลโครงการไปยังพื้นที่อื่นๆ เช่น พริกผลใหญ่และพริกใหญ่พันธุ์ลูกผสม อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ และพริกพันธุ์พื้นเมืองในอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ซึ่งประสบปัญหาโรคและแมลงอย่างมาก ทั้งโรคกุ้งแห้ง ยอดเน่า รากเน่าโคนเน่า เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ไรขาว แมลงวันทองพริก หรือแมลงวันพริกและหนอนเจาะผล เป็นต้น ส่งผลให้ผลผลิตน้อยและราคาพริกที่เกษตรกรขายได้มีราคาตกต่ำ นักวิจัยระบุว่า ปัญหาหลักเกิดจากเมล็ดที่เก็บไว้เองมีเชื้อรา
คุณพิสุทธิ์ ต๊ะปิง หมู่ที่ 9 บ้านรักไทย ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก โทรศัพท์ (098) 593-7591 เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ คลุกคลี และผลิตลำไยนอกฤดูมานานเกือบ 20 ปี แต่เนื่องจากว่างในการทำลำไยนั้นซึ่งเป็นไม้ผลที่มีการดูแลรักษาไม่ได้บ่อยมากนัก ทำให้ตนเองมีเวลาว่างที่มองหาพืชชนิดอื่นที่น่าจะมาสร้างรายได้ ซึ่งก็มองเห็นว่า “พริก” มีศักยภาพในเรื่องของตลาด ราคาที่ดี ประกอบกับที่ก่อนหน้านั้นก็ได้มีโอกาสได้ทดลองปลูกมาบ้างในพื้นที่ที่ไม่มากเท่าไหร่ จนเห็นช่องทางการตลาดว่า พริกนั้นมีความต้องการใช้ค่อนข้างมาก มีตลาดในและต่างประเทศ ซึ่งหนึ่งในสายพันธุ์พริกที่ตลาดให้การยอมรับนั้นก็คือพริกพันธุ์ “ซุปเปอร์ฮอท” เนื่องจากพริก “ซุปเปอร์ฮอท” ซึ่งเป็นพริกขี้หนูเม็ดใหญ่ เม็ดเล็ก ผลยาว 5-7 เซนติเมตร มีลักษณะต้นแข็งแรง แตกแขนงดี ทรงพุ่มกว้างปานกลาง ต้นสูง 70-80 เซนติเมตร ติดผลดกมาก ผลชูเหนือทรงพุ่ม ผลดิบสีเขียว-เขียวเข้ม ผลสุกมีสีแดง-แดงเข้ม ผลสดเก็บได้นานโดยขั้วผลไม่เน่า ขั้วใหญ่ เนื้อหนา มีอัตราการสูญเสียน้ำหนักน้อย อายุเก็บเกี่ยว 60-65วันหลังการย้ายกล้า ทนต่อโรคและแมลงศัตรูได้ดี แล้วยังเก็บเกี่ยวไ
นายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่หมู่ 3 ต.ตะเครียะ อ.ระโนด จ.สงขลา เพื่อร่วมหารือและระดมความคิดเห็นในการเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับราคาผลผลิต และตลาดรองรับพริกเขียวมันที่ตกต่ำในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะปลูกพริกเขียวมันหลังฤดูน้ำหลาก (มกราคม-เมษายน) ของทุกปี โดยมีนายอำเภอระโนด เกษตรจังหวัด พาณิยช์จังหวัด เกษตรอำเภอ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน และเกษตรกร อ.ระโนด และใกล้เคียงเข้าร่วม โดย อ.ระโนด มีพื้นที่ปลูกพริกเขียวมัน ประมาณ 3,217 ไร่ มีเกษตรกร 1,257 ราย มีผลผลิตรวม 6,434,000 กิโลกรัม (กก.) ผลผลิตเฉลี่ย 2,000 กก./ไร่ โดยจะเก็บเกี่ยวประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ที่ผ่านมาราคาที่เกษตรกรขายได้สูงสุด 45 บาท/กก. ขณะที่ราคาขายได้ต่ำสุด อยู่ที่ 7 บาท/กก. สำหรับต้นทุนการผลิตอยู่ที่ประมาณ 15 บาท /กก. และมีค่าเก็บเกี่ยว 7 บาท/กก. ขณะที่ อ.กระแสสินธุ์ มีพื้นที่ปลูก ประมาณ 230 ไร่ เกษตรกร 160 ราย ผลผลิตรวม 460,000 กก. ส่วนใหญ่ช่วงเวลาปลูกจะเป็นหลังฤดูน้ำหลากเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน และช่วงเวลาเก็บเกี่ยวประมาณพฤษภาคม-กรกฎาคม ช่วงเดือนที่ผลผลิตสูงสุดเดือนมิถุนายน สำหรับตลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายราชิต สุดพุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่หมู่ 3 ต.ตะเครียะ อ.ระโนด จ.สงขลา เพื่อร่วมหารือและระดมความคิดเห็นในการเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับราคาผลผลิต และตลาดรองรับพริกเขียวมันที่ตกต่ำในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรจะปลูกพริกเขียวมันหลังฤดูน้ำหลาก (มกราคม-เมษายน) ของทุกปี โดยมีนายอำเภอระโนด เกษตรจังหวัด พาณิยช์จังหวัด เกษตรอำเภอ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน และเกษตรกร อ.ระโนด และใกล้เคียงเข้าร่วม โดย อ.ระโนด มีพื้นที่ปลูกพริกเขียวมัน ประมาณ 3,217 ไร่ มีเกษตรกร 1,257 ราย มีผลผลิตรวม 6,434,000 กิโลกรัม (กก.) ผลผลิตเฉลี่ย 2,000 กก./ไร่ โดยจะเก็บเกี่ยวประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ที่ผ่านมาราคาที่เกษตรกรขายได้สูงสุด 45 บาท/กก. ขณะที่ราคาขายได้ต่ำสุดอยู่ที่ 7 บาท/กก. สำหรับต้นทุนการผลิตอยู่ที่ประมาณ 15 บาท /กก. และมีค่าเก็บเกี่ยว 7 บาท/กก. ขณะที่ อ.กระแสสินธุ์ มีพื้นที่ปลูกประมาณ 230 ไร่ เกษตรกร 160 ราย ผลผลิตรวม 460,000 กก. ส่วนใหญ่ช่วงเวลาปลูกจะเป็นหลังฤดูน้ำหลากเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน และช่วงเวลาเก็บเกี่ยวประมาณพฤษภาคม-กรกฎาคม ช่วงเดือนที่
ราคาพริก ดิ่งเหว กิโลกรัมละ 25 บาท เหลือกิโลกรัมละ 9 บาท ในพื้นที่ จ.ตาก พบปัญหาขาดคนเก็บ เกษตรกรเจ้าของสวนต้องลงแขกช่วยกัน วอนรัฐบาลลงมาแก้ไขปัญหาด้วย ราคาพริก / เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเข้าฤดูหนาวที่ อ.พบพระ จ.ตาก เกษตรกรเริ่มเก็บผลผลิตพริกต่างๆ แล้ว และปลูกมากที่สุดคือ พริกซุปเปอร์ฮอท ที่ออกผลผลิตมาจำนวนมาก แต่พบว่าเกษตรกรหันมาปลูกพริกกันมากขึ้น ซึ่งปีนี้พริกให้ผลผลิตดีมากอีกด้วย แต่ราคาถูกกว่าปีที่ผ่านมา โดยราคาปัจจุบัน ขายกิโลกรัมละ 14 บาท ค่าคนงาน กิโลกรัมละ 5 บาท เกษตรกรเหลือกิโลกรัมละ 9 บาท นางเที่ยง สังข์ทัด อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.6 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก กล่าวว่า ตนและลูกได้ปลูกพริกซุปเปอร์ฮอท ในพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ ลงทุนไป 600,000 บาท โดยวันนี้เก็บพริกซุปเปอร์ฮอทแดง ขายได้ในราคากิโลกรัมละ 14 บาท เมื่อหักค่าคนงานไป กิโลกรัมละ 5 บาท ก็เหลือ กิโลกรัมละ 9 บาท ถือว่าขาดทุน นางเที่ยง กล่าวต่อว่า และปีนี้คนงานเก็บพริกหายากมาก เนื่องจากปีนี้ในพื้นที่ อ.พบพระ โดยเฉพาะ ต.รวมไทยพัฒนา และ ต.คีรีราษฎร์ เกษตรกรปลูกพริกกันจำนวนมาก แต่เกษตรกรที่เป็นเจ้าของ
“ดินแดนป่าสอนลอน สะออนสาวบ้านแต้ งามแท้แลคิ้งไกล น้ำพรมไหลผ่าน สงกรานต์ภูกุ้มข้าว นมัสการพระเจ้าองค์ตื้อ ลือพระไกรสิงหนาท พระธาตุกุดจอก นามบ่งบอกคือเกษตรสมบูรณ์” จากข้อความข้างต้นได้บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นผืนป่า ผืนน้ำ ความเจริญทางวัฒนธรรมประเพณีที่เก่าแก่สืบทอดกันมายาวนานของชาวเกษตรสมบูรณ์ เกษตรสมบูรณ์ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิในจำนวน 16 อำเภอ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัดชัยภูมิ ตอนกลางของพื้นที่อำเภอ เป็นที่ราบลุ่ม สลับเนินมีลำน้ำสายสำคัญได้แก่ “ลำน้ำพรม” ไหลผ่าน ลำน้ำสายนี้ถือเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชาวชัยภูมิตอนบนเกือบทุกอำเภอ และเป็นลำน้ำสาขาของน้ำพอง พื้นที่เป็นดินเหนียวปนทราย เหมาะแก่การปลูกข้าว ตอนเหนือของพื้นที่อำเภอเป็นที่ราบสลับเนิน เหมาะแก่การปลูกพืชไร่และเลี้ยงสัตว์ ทิศใต้และทิศตะวันตก เป็นพื้นที่ป่าไม้และภูเขา มีภูเขาสูงสลับซับซ้อน โดยเฉพาะด้านทิศตะวันตก มีเทือกเขาภูเขียวซึ่งเป็นพื้นที่ป่าไม้ที่เป็นแหล่งต้นน้ำขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ปัจจุบันได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติ (International Wetland) ด้วยเหตุผลดังก
ในช่วงนี้มีฝนตกชุกและมีความชื้นสัมพัทธ์สูง กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกพริกเฝ้าระวังการระบาดของโรคราขนแมว สามารถพบได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของพริก มักพบที่ยอดอ่อนและกิ่งอ่อน โดยแสดงอาการมีแผลช้ำฉ่ำน้ำ และแผลจะขยายลุกลามลงมาตามกิ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้กิ่งแห้งหักพับ หากต้นพริกแสดงอาการรุนแรง ใบและดอกพริกจะร่วงจนเหลือแต่ก้าน และต้นพริกจะไม่มีการแตกยอดใหม่ ส่วนที่ผลอ่อนจะเกิดอาการช้ำฉ่ำน้ำ เน่า และหลุดร่วงได้ง่าย กรณีที่ในอากาศมีความชื้นสูงมากๆ จะเห็นก้านใสของเชื้อราชูสปอร์คล้ายขนแมวขึ้นมาจากส่วนของพืชที่เป็นโรค ส่วนปลายของก้านใสที่เป็นส่วนขยายพันธุ์ของเชื้อราจะเห็นกลุ่มสปอร์เป็นตุ่มสีดำ สปอร์เชื้อราสาเหตุโรคสามารถปลิวแพร่ระบาดไปสู่พริกต้นอื่นได้โดยง่าย เนื่องจากอาศัยติดไปกับสิ่งที่เข้าไปสัมผัส อาทิ น้ำ ลม ฝน น้ำค้าง และแมลง ทำให้เกิดการระบาดรุนแรงมากยิ่งขึ้น เกษตรกรควรหมั่นสำรวจตรวจแปลงและกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกพริกอย่างสม่ำเสมอ และควรปรับระยะปลูกพริกไม่ให้แน่นจนเกินไป เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก และมีอากาศถ่ายเทสะดวก ในช่วงที่อากาศมีความชื้นสูงและร้อนอบอ้าว หากเริ่มพบต้นพริกแสดงอาการยอด
นายสำราญ แซ่ว่าง อายุ 47 ปี อาชีพเกษตรกร ชาวพบพระ จ.ตาก กล่าวว่า ราคาพริกในพื้นที่อำเภอพบพระ ตกต่ำลงมาก เมี่อเทียบราคาจากปีที่ผ่านมา ต่างกันหลายเท่าตัว ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนมาก โดยตนเองได้ปลูกพริกซุปเปอร์ฮอท ใช้พื้นที่ จำนวน 7 ไร่ มีพริกเขียว และพริกแดง แต่พริกแดงไม่มีพ่อค้าไปซื้อเลย ตามปกติช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขายพริกแดงในราคากิโลกรัมละ 60 – 70 บาท ปีนี้ลดลงเหลือราคา 14 – 15 บาท อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดูแล และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากพริกที่มีราคาลดลง นี้ กะหล่ำปี ก็มีราคาตกเช่นกัน อยู่ที่ราคา กิโลกรัมละ 1 บาท ซึ่งส่วนมากปลูกในพื้นที่ ตำบลคีรีราษฎร์ สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพริกขาย มีพื้นที่ปลูกพริก ประมาณ 1,000 ไร่ ซึ่งปีที่ผ่านมา มีชาวไร่ปลูกพริกมาก เนื่องจากมีราคาดี ทำให้ปีนี้หันมาปลูกพริกมากขึ้น แต่ต้องผิดหวังไปตามๆกัน ที่มา มติชนออนไลน์