สวนยาง
นายการุณย์ มะโนใจ เกษตรอำเภอเชียงม่วน นางสาวชมพูนุช ชุมภูปฏิ นวส.ชำนาญการ สนง.กษอ.เชียงม่วน นางสาวพรพิมล ใจมะสิทธิ์ ตำแหน่งนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดพะเยา และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบแปลงยางพาราของเกษตรกรที่ยื่นเอกสารขอเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ระยะที่ 3 ณ แปลงยางพาราหมู่ที่ 8 ตำบลเชียงม่วน อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา ซึ่งได้ชี้แจงรายละเอียดความถูกต้องแก่เกษตรกรเป็นที่เข้าใจเรียบร้อยแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้
ปัจจุบัน พื้นที่ปลูกยางเดิมและดินพื้นที่ปลูกยางใหม่ เป็นดินเสื่อมโทรม มีความสมบูรณ์ต่ำ อันเกิดจากดินขาดอินทรียวัตถุ เกิดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน การสูญเสียธาตุอาหารพืชโดยติดไปกับผลผลิตสภาพแวดล้อมธรรมชาติเปลี่ยนแปลง สภาวะโลกร้อนทำให้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิต ทำให้ต้นทุนในการผลิตยางพารา ปาล์มน้ำมัน ตลอดจนไม้ผลสูง การปลูกพืชคลุมดินในสวนยาง เป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในสวนยาง ทั้งนี้ เศษซากพืชคลุมดินเมื่อย่อยสลายกลายเป็นอินทรียวัตถุจะช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดิน ช่วยปรับโครงสร้างดินและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ปุ๋ยเคมี ส่งผลให้การเจริญเติบโตดี เปิดกรีดได้เร็วขึ้นและให้ผลผลิตน้ำยางเพิ่มขึ้นด้วย การปลูกพืชคลุมดินไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน รักษาความชื้นในดิน ควบคุมการเจริญเติบโตของวัชพืช ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีกำจัดวัชพืช ตลอดจนเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในดิน ได้แก่ จุลินทรีย์ เช่น เชื้อรา และแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ และสัตว์ที่อา
สวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของภาคใต้ ในช่วงที่ราคายางและปาล์มสูง เกษตรกรมีความสุข การกรีดยางในชั้นแรกๆ ชาวสวนก็กรีดกันเองในครอบครัว หลังจากนั้นก็มีคนรับจ้างที่เป็นชาวอีสานหลั่งไหลไปเป็นกรรมกรเหมืองแร่และรับจ้างกรีดยาง ข้อตกลงในการกรีดยาง อยู่ระหว่าง 60 40 คือเจ้าของสวนได้ 60% คนกรีดได้ 40% ถือเป็นมาตรฐาน อาจมีแตกต่างกว่านั้นก็เป็นข้อตกลงเฉพาะ ในช่วงต่อจากนั้นเมื่อชาวอีสานเริ่มปลูกยางได้ ก็พากันกลับบ้าน คนงานชาวต่างด้าวซึ่งเป็นชาวพม่าได้เข้ามาแทนที่ จังหวะนั้นเป็นจังหวะที่ราคายางสูงลิบ ทั้งคนงานและเจ้าของสวนต่างมีความสุขดี ต่อเมื่อยางราคาตก ชาวพม่าค่อยๆ หนีไปทำงานก่อสร้างในเมือง ทิ้งให้ชาวสวนยางกรีดกันเอง เมื่อเจ้าของสวนลงมือกรีดยางเอง จึงพบว่า ช่วงที่ราคายางแพงนั้น ลูกจ้างชาวพม่าเอายาเร่งน้ำยางทามีดกรีดเพื่อให้ได้น้ำยางเยอะๆ ต้นยางจึงโทรมเร็ว ไม่สามารถกรีดได้ตามจำนวน 25 ปี ตามปกติ จึงเกิดวลีคำหนึ่งว่า “พม่ากรีด ไทยตัด” คือหลังพม่ากรีดยางแล้ว ไทยต้องโค่นยางทิ้งปลูกใหม่ เพราะต้นยางโทรมมาก ช่วงฝนที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปทำข่าว คุณชาตรี แสงทอง เกษตรกรชาวสวนยาง ที่บ้า
การเป็น “หนี้” ไม่ใช่ความล้มเหลวของชีวิต อาจเป็นเรื่องที่ทำพลาด แต่ไม่ใช่เรื่องที่ทำผิด ที่สำคัญต้องเป็นหนี้แบบมีวัน “จบ” และไม่ท้อ พร้อมลุกขึ้น “สู้” หาทางแก้หนี้ด้วยการหาความรู้เพิ่มเติม ลงมือสร้างโอกาสพลิกสถานการณ์เพื่อปลดล็อกชีวิตหนี้ “สายชล รักกำเหนิด” เคยติดกับดัก “ชีวิตหนี้” ที่แทบล้มทั้งยืน เพราะถูกโกงแชร์และคิดการใหญ่ลงทุนเกินตัว จนหนี้ท่วมมืดแปดด้านหาทางออกไม่เจอ จากหนี้แค่หลักแสนเบ่งบานกลายเป็นหนี้ก้อนโตถึง 3 ล้านบาท แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ พยายามวิ่งหาทุกโอกาสที่จะทำให้กลับมายืนได้ขึ้นอีกครั้ง จนวันนี้สามารถปลดล็อกหลุดจากกับดักก้าวสู่วิถีชีวิตใหม่ที่ “ปลอดหนี้” จุดเปลี่ยนจากมนุษย์เงินเดือนสู่ชาวสวนยาง สร้างหนี้หวังรวย เส้นทางชีวิตของ “สายชล” พลิกผันจากมนุษย์เงินเดือน ทำงานเป็นพนักงานด้านการเงินบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ใน จังหวัดภูเก็ต เรียกได้ว่าฐานะดีมีรายได้มั่นคงและมีชีวิตที่สุขสบาย ก้าวสู่การเป็นเกษตรกรสวนยางพารา เพราะต้องกลับบ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อทำหน้าที่ดูแลคุณแม่ที่อายุมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในการเปลี่ยนชีวิตต้องปรับตัวและเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด จากที
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักและคิดถึงทุกท่าน อย่าแปลกใจที่วันนี้ผมเก็บเรื่องราวรายละเอียดงานกิจกรรมคนปลูกป่ามาตั้งวงเล่าให้ฟัง ใน 3 ปีที่ผ่านมา การขับเคลื่อนในนามธนาคารต้นไม้ โดยมีการนัดพบพี่น้องสมาชิกจากทั่วประเทศมาพบกัน มีกิจกรรมย่อยในแต่ละครั้ง โดยใช้พื้นที่ของธนาคารต้นไม้สาขาป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เป็นที่นัดหมาย ความคืบหน้าของพี่น้องสมาชิกแต่ละท่านในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา หลายท่านลงมือปลูกแซมสวนยาง ปลูกป่าทั้งแปลง หรือปลูกผสมผสานในสวนไม้ผลที่มีอยู่ ขนาดและจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น ผ่านการบอกกล่าวในการร่วมเสวนาและการโยงใยในระบบเครือข่ายที่มีต่อกัน ไม้ป่าหลากหลายชนิดตามที่เจ้าของสวนชอบใจ อาทิ ยางนา ตะเคียนทอง จำปาทอง กันเกรา พะยูง เคี่ยม ประดู่ ชิงชัน แดง สาวดำ กระถินเทพา มะฮอกกานี ฯลฯ เมื่อได้ลงดินก็เจริญเติบโตตามเวลาและการดูแล ส่งผลต่อจิตใจของผู้ปลูกเป็นยิ่งนัก สิ่งหนึ่งที่อดยินดีมากขึ้นไปอีกไม่ได้นั่นคือ ผลพลอยได้ที่ได้จากการปลูกป่า เห็ดป่าหลากหลายชนิด ทั้งเห็ดโคน เห็ดไค เห็ดเผาะ เห็ดผึ้ง เห็ดระโงก เห็ดถ่าน เห็ดน้ำหมาก ฯลฯ เริ่มเกิดในป่าปลูกเหล่านั้น สร้างแหล่งอาหารและรายได้ให้
รมว.คลัง ร่วมประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เร่งเสริมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย ปี 62 ทั้งขยายเวลาชำระหนี้ 2 ปี และลดดอกเบี้ยเงินกู้อีกร้อยละ 3 ติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ภาคชนบท ทั้งการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว การดำเนินโครงการประกันรายได้ปาล์ม ข้าว ที่จ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรไปแล้วกว่า 34,600 ล้านบาท พร้อมเตรียมโอนประกันรายได้ยาง งวดแรก 1 พฤศจิกายนนี้ วันนี้ (28 ตุลาคม 2562) ณ ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. เป็นประธานในการประชุม ติดตามการดำเนินงานของธนาคารในการช่วยเหลือเกษตรกรและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดย นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ได้สรุปมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในระยะสั้นที่ดำเนินการไปแล้ว (ข้อมูล ณ 24 ตุลาคม 2562) ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2562/63 ในอัตราไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ วงเงิน 24,810 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 4.31 ล้านครัวเรือน ดำเนินการโอนเงินแล้ว จำนวน 3.99 ล้านครัวเรือน เป็นเงิน 23,929 ล้านบาท โครงการประกันรายได้เ
วันนี้ (12 ก.ย. 62) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาการใช้ยางภายในประเทศ พร้อมส่งเสริมสนับสนุนศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันแก่เกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ผลักดันสู่การแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางเพื่อใช้ในประเทศและส่งออก โดยมี นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการ กยท. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ และมอบรางวัลผลิตภัณฑ์แปรรูปยางพาราและไม้ยางพารา ปี 62 ณ โรงแรมแก้วสมุย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านธุรกิจและปฏิบัติการเผยว่า โครงการส่งเสริมและพัฒนาการใช้ยางภายในประเทศ เป็นการดำเนินงานเพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยาง นำวัตถุดิบยางพารามาพัฒนาต่อยอดการผลิตและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น ตามแผนยุทธศาสตร์ของการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งส่งผลดีต่อเกษตรกรที่ทำสวนยาง ให้มีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ในครอบครัว ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ซึ่งในปัจจุบันแนวโน้มตลาดสินค้าหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปยางพารายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในก
ปัจจุบัน พื้นที่ปลูกยางเดิมและดินพื้นที่ปลูกยางใหม่ เป็นดินเสื่อมโทรม มีความสมบูรณ์ต่ำ อันเกิดจากดินขาดอินทรียวัตถุ เกิดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน การสูญเสียธาตุอาหารพืชโดยติดไปกับผลผลิตสภาพแวดล้อมธรรมชาติเปลี่ยนแปลง สภาวะโลกร้อนทำให้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิต ทำให้ต้นทุนในการผลิตยางพารา ปาล์มน้ำมัน ตลอดจนไม้ผลสูง การปลูกพืชคลุมดินในสวนยาง เป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในสวนยาง ทั้งนี้ เศษซากพืชคลุมดินเมื่อย่อยสลายกลายเป็นอินทรียวัตถุจะช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดิน ช่วยปรับโครงสร้างดินและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ปุ๋ยเคมี ส่งผลให้การเจริญเติบโตดี เปิดกรีดได้เร็วขึ้นและให้ผลผลิตน้ำยางเพิ่มขึ้นด้วย การปลูกพืชคลุมดินไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน รักษาความชื้นในดิน ควบคุมการเจริญเติบโตของวัชพืช ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีกำจัดวัชพืช ตลอดจนเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในดิน ได้แก่ จุลินทรีย์ เช่น เชื้อรา และแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ และสัตว์ที่อา
เกษตรจี้จ่ายเงินชาวสวนยาง ให้ทันฉลองปีใหม่ ล็อตแรก 27-29 ธ.ค. กยท.ประเดิมงวดแรก 161 ล้านบาท นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในทีประชุมผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯว่า ได้สั่งการให้เร่งจ่ายเงินให้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ประมาณ 10% หรือประมาณ 1 แสนรายทั่วประเทศ ภายในวันที่ 27-29 ธ.ค.2561 เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ช่วยเหลือสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพเกษตรกรชาวสวนยางและคนกรีดยางภายใต้วงเงินเกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท โดยช่วยเหลือเป็นเงิน 1,800 บาทต่อไร่ ไม่เกินรายละ 15 ไร่ ให้แบ่งจ่ายกับเจ้าของสวน 1,100 บาท และคนกรีด 700 บาท “รอบแรกที่ลงทะเบียนแล้วควรจ่ายเงินให้ชาวสวนก่อนปีใหม่ ภายใน 27-29 ธ.ค.นี้ และให้กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็งเร่งรวบรวมยางพารา เพื่อปรับตัวเป็นผู้ส่งออก แข่งกับ 5 เสือให้ได้” ด้านนายสุนันท์ นวลพรหมสกุล รองผู้ว่าการด้านบริหาร กยท.กล่าวว่า หลังรัฐบาลมีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางตลอ
ขอ 1.8 หมื่นล้าน อุ้มยาง – นายกฤษฎา บุญราช รมว. เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 พ.ย.นี้ กยท. จะเสนอมาตรการช่วยเหลือช่วยสวนยางเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพเกษตรกรชาวสวนยางและคนกรีดยางภายใต้วงเงิน 18,604.95 ล้านบาท ตามที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หามาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางให้ได้ภายใน 7 วัน หลังราคายางตกต่ำ โดยช่วยเหลือเป็นเงิน 1,800 บาทต่อไร่ ไม่เกินรายละ 15 ไร่ ในจำนวนนี้ให้แบ่งจ่ายกับเจ้าของสวน 1,100 บาท หรือ 60% ของเงินชดเชยเพื่อช่วยยางพาราตกต่ำ คนกรีด 700 บาท หรือสัดส่วน 40% ของเงินจ่ายยางพาราตกต่ำ รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า เป้าหมายของมาตรการ เพื่อจ่ายให้เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนไว้กับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่มีเจ้าของสวนยางเปิดกรีด จำนวน 999,065 ราย คนกรีดยาง จำนวน 304,266 ราย คิดเป็นพื้นที่เปิดกรีดรวมประมาณ 10 ล้านไร่ สำหรับการใช้จ่ายในเงิน 18,604 .95 ล้านบาท ดังกล่าว แยกเป็นงบประมาณที่จ่ายให้ชาวสวนยางและคนกรีด 18,071.41 ล้านบาท งบชดเชยต้นทุนเงินให้กับธนาคาร