สวนลำไย
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า พื้นที่ตำบลหนองตอง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เดิมเกษตรมีการปลูกข้าวเป็นหลัก แต่เกิดสภาวะน้ำท่วมจึงปรับเปลี่ยนมาปลูกลำไย กระทั่งในปี 2561 จึงเริ่มรวมกลุ่มในรูปแบบของแปลงใหญ่ ปัจจุบันมีสมาชิก 154 ราย ผลผลิตเฉลี่ย 1,200 กิโลกรัมต่อไร่ ต้นทุน 11 บาทต่อกิโลกรัม ผลผลิตรวม 1,000 ตันต่อปี มีรายได้มากกว่า 120 ล้านบาท นอกจากนี้ทางกลุ่มมีการจัดกิจกรรมผ่านหลักสูตรร่วมกันเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้กับสมาชิก เช่น การทำปุ๋ยหมัก การทำชีวภัณฑ์ การตัดแต่งกิ่ง/ตัดแต่งช่อผล การเลี้ยงผึ้งช่วยผสมเกสร ระบบการให้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการทำการเกษตรให้ได้มาตรฐาน GAP การตลาดออนไลน์ การสร้างรายได้เสริมในสวนลำไย (เลี้ยงปลา) และการบริหารจัดการกลุ่ม เป็นต้น โดยสมาชิกในกลุ่มเน้นการผลิตและใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพที่ผลิตเองร่วมกับปุ๋ยเคมี ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีให้น้อยที่สุด เพื่อลดต้นทุนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ แปลงใหญ่ลำไยหนองตอง จังหวัดเชียงใหม่ มีการปลูกลำไยพันธุ์อีดอเป็นหลัก ซึ่งส่วนมากทำลำไยในฤดู และช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม เกษตรกรจะราด
เริ่มมีเกษตรกรหลายรายที่ได้หันมาปลูกลำไยคริสตัลกัน เพื่อเป็นผลไม้ทางเลือกใหม่ เพราะปลูกได้ง่ายๆ แค่ 2 ปีก็ออกลูกเก็บขายได้แล้ว และในตอนนี้ก็มีราคาที่สูงถึงกิโลกรัมละ 500 บาท และถึง 800 บาท เพราะว่ายังมีการลงทุนปลูกกันน้อยมาก…ที่จะพาไปดูเป็น คุณเผชิญศักดิ์ สาสุธรรม เจ้าสวนลำไยคริสตัลจัมโบ้สีม่วง อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งได้ปลูกลำไยคริสตัลจัมโบ้สีม่วงไว้กว่า 200 ต้น ซึ่งก็ปลูกมาแล้ว 3 ปี และตอนนี้เป็นช่วงที่ลำไยคริสตัลจัมโบ้กำลังให้ผลผลิตและเก็บขายได้ และเกือบทั้งหมด จะมีผู้สั่งจองไว้แล้ว แม้ว่าจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 800 บาทก็ตาม “แต่ว่าปีนี้ผลผลิตอาจจะไม่เต็มที่เท่าที่ควรเพราะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างหนัก” คุณเผชิญศักดิ์ บอกและยังบอกว่า ลำไยคริสตัลจัมโบ้ที่สวนมีอายุย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ปีเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วจะเริ่มติดผลตั้งแต่ 2 ปีแรกด้วยซ้ำ และยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี ทางด้านการตลาดคุณเผชิญศักดิ์บอกว่า ตอนนี้ราคาผลลำไยคริสตัลจัมโบ้สีม่วง ตกกิโลกรัมละ 500-800 บาท คาดว่าปีนี้จะได้ผลผลิต 300-500 กิโลกรัม ซึ่งผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ให้ผล
คุณประสิทธิ์ รัตนพรหม เลขที่ 1 หมู่ที่ 3 ตำบลเหล่ายาว อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน อดีตวิศวกร ผันตัวมาเป็นชาวสวนลำไยโดยการใช้น้ำหมักอินทรีย์บำรุงลำไย จากวัตถุดิบใกล้บ้าน หาง่าย ราคาถูก ต้นทุนถูกลงกว่าการใช้ปุ๋ยเคมี 20 เปอร์เซ็นต์ ใช้ต่อเนื่องสภาพใบและต้นลำไยดีขึ้นเห็นผลอย่างชัดเจน ที่สำคัญยังหารายได้จากการขายน้ำหมักอินทรีย์ได้อีกด้วย คุณประสิทธิ์ เล่าว่า ก่อนจะมายึดอาชีพเป็นชาวสวนลำไยอย่างเต็มตัวนั้น ตนเป็นวิศวกรในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ประสพกับช่วง 13 ปีที่แล้ว ภรรยาท้องลูกแฝด 3 คน ตนจึงต้องเสียสละลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูก อีกทั้งครอบครัวพ่อแม่ของตนก็มีอาชีพเป็นชาวสวนลำไยอยู่แล้ว ประกอบกับราคาลำไยช่วงนั้นค่อนข้างดี จึงหันมาเป็นชาวสวนลำไยอย่างเต็มตัว ปัจจุบันมีสวนลำไยอยู่ที่ 120 ไร่ มีต้นลำไย 1,400 ต้น สาเหตุที่หันมาใช้น้ำหมักอินทรีย์บำรุงต้นลำไย คุณประสิทธิ์บอกว่า เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน การทำลำไยให้มีคุณภาพที่สูงขึ้นจำเป็นต้องใช้สารเคมีสูง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลำไยนั้นสูงขึ้นตาม และพบว่าดินของลำไยมีปริมาณธาตุอาหารหลายๆ ตัวเกินสมดุล จึงมองหาความรู้ศึกษาแนวทางการปรับปรุงสภาพดิน นั่นคือก
คุณพุฒินันท์ พันธุ์เครือ หนึ่งในเกษตรกรคนเก่งที่พัฒนาเทคนิควิธีการเพาะเลี้ยงเห็ดตับเต่าจากประสบการณ์โดยตรง จนสามารถพัฒนาเชื้อเห็ดเพื่อการพาณิชย์ คุณพุฒินันท์ กล่าวว่า การเพาะเห็ดตับเต่า สามารถทำได้ไม่ยากเลย แค่จัดสร้างสภาพแวดล้อมง่ายๆ ด้วยการจัดให้มีพืชอาศัยของเห็ดแล้วใส่เชื้อเห็ดลงไปที่โคนต้น จากนั้นใส่ดินและสารอินทรีย์กลบเชื้อ คอยรดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ในเวลาไม่นานเชื้อเห็ดก็จะเจริญงอกงามสร้างเส้นใยไปทั่วรากไม้ที่มันอิงอาศัยอยู่ เทคนิคสำคัญที่ทำให้เกิดดอกเห็ดคือ ต้องบำรุงพืชให้มีรากมาก เพื่อหาอาหารได้เยอะๆ ด้วยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเป็นอาหารของเห็ดและพืช พร้อมทั้งรดน้ำให้มีความชุ่มชื้นมากๆ ซึ่งเป็นลักษณะการสร้างสภาพแวดล้อมเทียมหลอกเห็ดให้เหมือนกับว่ามันกำลังเติบโตในธรรมชาตินั่นเอง โดยธรรมชาตินั้น ช่วงเวลาที่สภาวะอากาศแห้งแล้ง เป็นระยะที่พืชสะสมอาหาร เมื่อเกิดฝนตกใหญ่หรือรดน้ำให้ผืนดินชุ่มชื้น เชื้อเห็ดจะเริ่มงอกงาม เกษตรกรเคยทดลองวิธีนี้ในสวนลำไย ที่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ปรากฏว่า ประสบผลสำเร็จ ทำให้เกิดเห็ดตับเต่านอกฤดูมาแล้ว ส่วนที่จังหวัดปทุมธานีและสุพรรณบุรีก็สามารถเพาะเห็ดกับส
คุณนิโรจน์ แสนไชย เกษตรกรวัย 70 ปี บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลวังผาง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน เกษตรกรผู้คร่ำหวอดกับวงการปลูกลำไยมานานมาก จนได้รับคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาการใช้วิชาการเกษตรที่ดีและเหมาะสม ตามโครงการจัดการระบบการจัดลำไยคุณภาพ เป็นศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร กิจกรรมเทคนิคการจัดทรงพุ่ม ได้รับการประกาศเกียรติคุณปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ระดับจังหวัด ประจำปี 2558 สาขาปราชญ์เกษตรดีเด่น ปัจจุบัน เป็นคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำพูน ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2559 ภายในสวนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่อบรมและให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกลำไยและการใช้ระบบน้ำเพื่อการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง พันธุ์ลำไยเด่น คุณนิโรจน์ แสนไชย ได้ให้คำแนะนำว่า ลำไยพันธุ์ดีที่มีอยู่ในจังหวัดลำพูน ได้แก่ พันธุ์อีดอ เป็นลำไยพันธุ์เบา ออกดอกและเก็บเกี่ยวผลได้เร็วกว่าพันธุ์อื่นๆ ทนทานต่อโรคและแมลงได้ดี นิยมปลูกมากในประเทศไทย ประมาณ ร้อยละ 90 พันธุ์ดอก้านอ่อน เมื่อแตกยอดใหม่ ใบอ่อนออกสีเหลืองตองอ่อน ก้านอ่อนโน้มลง เมื่อติดผลทำให้ช่อผลย้
ลำไย เป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาล มีพื้นที่เพาะปลูกในประเทศกว่า 1.10 ล้านไร่ แหล่งเพาะปลูกส่วนใหญ่กว่า ร้อยละ 81 อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ แถบจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา และน่าน ที่เหลือกระจายอยู่ในภาคกลางและภาคตะวันออก เช่น สมุทรสาคร จันทบุรี ฯลฯ ปัจจุบัน ผลผลิตลำไยส่วนใหญ่ถูกส่งออกในลักษณะลำไยสด ลำไยอบแห้ง ลำไยแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์ลำไย ฯลฯ ไปยังตลาดคู่ค้าหลักคือ จีน อินโดนีเซีย ฮ่องกง เวียดนาม แคนาดา มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศมากกว่าปีละหมื่นล้านบาท ทำให้เกษตรกรรายเก่าและรายใหม่สนใจที่จะลงทุนทำสวนลำไยเพื่อป้อนตลาดส่งออก ลำไย เป็นไม้ผลที่ต้องใช้ระยะเวลาปลูกนานพอสมควร ดังนั้น ระหว่างที่รอเก็บเกี่ยวผลผลิตตั้งแต่ปีที่ 4 ขึ้นไป เกษตรกรสามารถหารายได้เสริมในสวนลำไยได้หลายช่องทาง เช่น ปลูกผักหวานออกจำหน่าย โดยเริ่มจากขุดหลุมและรองก้นหลุมด้วยขี้วัว ปลูกผักหวานในระยะห่าง ประมาณ 1.5×2 เมตร จะปลูกผักหวานได้ 500 ต้น ต่อไร่ หากปลูกในระยะห่าง 2×2 เมตร จะได้ 400 ต้น ต่อไร่ ดูแลให้น้ำต้นผักหวานอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงแรกที่ปลูกจะให้น้ำท
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้บริหารหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมมอบเงินชดเชยเยียวยาเกษตรกร ชาวสวนลำไย แก่ตัวแทนจาก 11 อำเภอ ซึ่งเป็นเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 ทำให้เกิดปัญหาด้านราคาและตลาดรองรับ ซึ่งเกษตรกรบางส่วนประสบปัญหาขาดทุน คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยฤดูกาลผลิต 2563 ให้กับเกษตกรชาวสวนลำไยกว่า 200,000 ครัวเรือน ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร ในอัตราไร่ละ 2,000 บาท รายละไม่เกิน 25 ไร่ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกร ซึ่งจังหวัดกำแพงเพชรมีเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ได้รับการเยียวยาดังกล่าว จำนวน 1,176 ราย นอกจากนี้ ยังได้ติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายกรมส่งเสริมสหกรณ์ผลัก
แม้บรรพบุรุษจะทำการเกษตรมาก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะสืบทอดกันได้ทางสายเลือด เพราะต้องมีการเรียนรู้ ฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ ทั้งยังต้องมีความคิดต่อยอด นำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับแปลงเกษตรที่ทำอยู่ เช่นเดียวกับ จ.ส.อ. นิกร บุญชัย อดีตข้าราชการทหาร ที่มีพ่อและแม่ทำสวนลำไย พันธุ์อีดอ ที่ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เห็นครอบครัวทำสวนลำไยมานานหลายสิบปี แต่ไม่เคยจับงานเกษตรในสวนลำไยแม้แต่น้อย กระทั่งปี 2546 ลาออกจากข้าราชการทหาร กลับมาเริ่มต้นจับสวนลำไยสืบทอดงานเกษตรกรรมต่อจากพ่อและแม่ ทั้งที่ไม่มีความรู้ในงานเกษตรเลย โดยเฉพาะในรุ่นของพ่อและแม่ทำสวนลำไย ก็ไม่ได้มีเทคนิคใดๆ ปล่อยให้ธรรมชาติดูแล และให้น้ำบ้างตามความต้องการของพืชอย่างลำไย ผลผลิตที่ได้จึงได้มากน้อยตามสภาพดินฟ้าอากาศของแต่ละปี ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ราคาลำไยแปรผันตามปริมาณลำไยที่ออกสู่ตลาดในแต่ละปี เมื่อ จ.ส.อ. นิกร กลับมา เขาจึงเริ่มตั้งใจอย่างจริงจัง ศึกษา จดบันทึก และปรับปรุง เพื่อให้มีเทคนิคใหม่ๆ เข้ามาใช้ในสวนของครอบครัว “ประมาณปี 2555 กว่าผมจะทำได้” จ.ส.อ. นิกร บอกว่า สิ่งสำคั
เป็นที่น่าสังเกตว่า ตามสื่อใหม่มักพบเห็นการนัดหมายเลี้ยงรุ่นกันมาก สาเหตุอาจจะเป็นเพราะเริ่มมีเวลาว่างและคิดถึงกัน ยิ่งช่วงอากาศเย็น ปลายปี ต้นปี มักถี่เป็นพิเศษ คนเรียนมาหลายสถาบัน ต้องจัดคิวเหมือนดารา สองปีมาแล้ว มีงานเลี้ยงรุ่นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ช่วงนั้นตรงกับปลายปี ในงานมีลำไยมาให้ได้กินกัน สอบถามแล้วเป็นของ คุณสาคร อาจสุโพธิ์…จริงๆ แล้วงานนั้นเป็นงานของเกษตรสุรินทร์..โกดกง 17 แต่คุณสาคร เป็นโกดกง 18 ด้วยความระลึกนึกถึงพี่ๆ ที่สนิทกัน เขาจึงมาร่วมงาน พร้อมกับผลผลิตลำไยนอกฤดู เกรดส่งต่างประเทศมาให้พี่ๆ ได้ลิ้มรสกัน โกดกง เป็นนิคเนมของเกษตรสุรินทร์ ซึ่งที่อื่นๆ ก็มี เมื่อเทคโนโลยีชาวบ้าน ไปทำรายงานพิเศษจังหวัดบุรีรัมย์ จึงถือโอกาสพูดคุยเรื่องราวการทำงานของ คุณสาคร หญิงเก่งและแกร่ง เริ่มต้นที่โรงงานผลไม้กระป๋อง คุณสาคร อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 12 ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ เธอเรียนจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ที่เกษตรสุรินทร์ เมื่อปี 2528 ขณะนั้นยังไม่ได้เปิดสอนระดับปริญญาตรีอย่างปั
ผบก.สภ.จว.สระแก้ว จะสอบสวนข้อเท็จจริง ตำรวจรีดไถ ชาวสวนลำไย เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน ถ้าผิดจริงดำเนินการทางวินัยอีกด้วย กรณี ที่ชาวสวนลำไย จ.สระแก้ว ยื่นหนังสือร้องเรียน เพื่อขอความเป็นธรรม ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว โดยกล่าวหาว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาฉกรรจ์ เรียกรับผลประโยชน์ จากการนำเข้าแรงงานจากประเทศกัมพูชา ทำให้ชาวสวนลำไยเดือดร้อน ทำให้ผลผลิตเกิดความเสียหายนั้น ทางด้าน พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เผยว่า กรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตำรวจในท้องที่ อ.เขาฉกรรจ์ ได้เรียกรับผลประโยชน์ จากผู้ประกอบการปลูกลำไย ทำให้ชาวสวนได้รับความเดือดร้อนนั้น เรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบแล้ว ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เที่ยวไปขอเงินเขา แต่ชาวสวนลำไยไม่ยอมให้ และขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว โดยมอบหมายให้ ผู้กำกับ สภ.เขาฉกรรจ์ ดำเนินการแล้ว และกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ เสร็จแล้วให้รายงานผล คาดว่าใช้เวลาประมาณ 7 วัน และสอบทางวินัยด้วย ขณะนี้ได้ให้ตำรวจคนนั้น ย้ายมาทำงานธุรการ ไม่ให้ไปสัมผัสกับประชาชนอีก ทางด้านนาย สหัส นุ่มนวล อดี