อุตสาหกรรมยางพารา
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 ณ โรงแรมบุรีศรีภู อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา – การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำโดย นายโกศล บุญคง รองผู้ว่าการด้านบริหาร กล่าวต้อนรับในการประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างประเทศสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หัวข้อ “โอกาส ความท้าทายและแนวทางแก้ไขร่วมมือกันเพื่ออนาคตที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า” เพื่อแลกเปลี่ยนความเข้าใจ ความพร้อม และมุมมองต่อกฎหมาย EUDR ในภาคส่วนยางพาราของประเทศไทย นายโกศล กล่าวว่า ทั่วโลกมีความตระหนักและความกังวล ในแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องปรับตัวให้ทัน จึงใช้โอกาสนี้หารือร่วมกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสต่างๆ ดังนั้น การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นเวทีที่มีประโยชน์สำหรับภาคเอกชนและภาครัฐในการระบุปัญหาและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากการทำลายป่า ซึ่งหวังว่าความรู้และความเข้าใจใหม่ๆ ที่ได้รับจากวิทยากร ทีมงานของ GIZ ในครั้งนี้ จะสามารถนำไปปรับปรุงโมเดลของอุตสาหกรรมยางพาราและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบในอนาคตได้อ
วันนี้ (4 กันยายน 2567) ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี นายณรงศักดิ์ ใจสมุทร รองผู้ว่าการด้านธุรกิจ เปิดกิจกรรม “Natural Rubber Startup Acceleration Program: Scale up project” ซึ่งจัดโดย การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ ต่อยอดงานวิจัย พร้อมนำเสนอผลงานนวัตกรรมสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปยางพาราเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยาง การพัฒนาด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สำหรับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยาง โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการ กยท. และ นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการ กยท. เป็นผู้มอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดประเภทต่างๆ ดร.เพิก กล่าวถึงนโยบายการผลักดันงานวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมยางพาราเชิงพาณิชย์ว่า มีแนวคิดปรับรูปแบบการนำเสนอสู่สาธารณชนแทนที่จะนำเสนอเฉพาะในแวดวงของ กยท. เพื่อเผยแพร่งานวิจัยในวงกว้างให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุน เป็นแนวทางหนึ่งที่จะนำงานวิจัย
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 ณ ห้องประชุมมหิศรภักดี กยท.จ.สงขลา – การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมโต๊ะกลม โดยมี ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เป็นผู้นำหารือ พร้อมด้วย นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ รักษาการแทนผู้ว่าการ กยท. ร่วมหารือกับ Malaysian Rubber Board (MRB) โดย Dato’Dr. Zairossani Mohd Nor ผู้อำนวยการ MRB, องค์กรพัฒนาเกษตรกรรายย่อยเพื่อลงทุนยางพารา (RISDA) และสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางแห่งมาเลเซีย (Margma) รวมถึงคณะผู้แทนจากภาคอุตสาหกรรมยางมาเลเซีย ร่วมนำเสนอความพร้อมในกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับยางของไทย ภายใต้กฎระเบียน EUDR หวังยกระดับผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรมยางพาราให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน พร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้า 2 ประเทศ ตลอดจนสำรวจโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนในภาคการค้ายาง ดร.เพิก กล่าวว่า ด้วยนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซียที่ต้องการจะพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราของทั้งสองประเทศให้มีประสิทธิภาพและมีมูลค่าเพิ่ม เพื่อประโยชน์ในด้านการค้า การลงทุน และภาคอุตสาหกรรมของยางพารากับทั้งสอง
(วันที่ 11 มีนาคม 2567) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมลงนาม MOU “การวิจัยพัฒนา การบริการวิชาการ และความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจยางพาราและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในนิคมอุตสาหกรรม” โดยมี ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการ กยท. และ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ กนอ. ให้เกียรติเป็นสักขีพยานในการลงนาม ระหว่าง นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. และ รศ.ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. เพื่อผสานความร่วมมือพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจด้านยางพารา ควบคู่การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สู่การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ณ ห้องประชุม 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พระนคร กรุงเทพฯ ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กยท. เป็นองค์กรกลางรับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบอย่างครบวงจร และมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพาราโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายหลักของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับภาคการเกษตร ต
วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2567) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกับ สภาวิจัยและพัฒนายางระหว่างประเทศ (International Rubber Research and Development Board: IRRDB) เปิดเวทีการประชุมวิชาการยางระหว่างประเทศ (International Rubber Conference : IRC 2024) ภายใต้แนวคิด “จุดประกายเสริมสร้างนวัตกรรมยางพารามุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน” โดยได้รับเกียรติจาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมฯ พร้อมมอบแนวทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยาง รับมือความท้าทายในทุกมิติ มุ่งผลักดันงานวิจัย-นวัตกรรม สู่การพัฒนาวงการยางตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยการประชุมจัดในระหว่างวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จังหวัดชลบุรี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ประเทศไทย ในฐานะประเทศสมาชิกที่เป็นผู้นำด้านการผลิตยางพารา มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการเกษตรเพื่อความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญและตระหนักถึงการกำหนดทิศทางในอนาคตของสินค้ายางพารา ซึ่งเป็นพืชที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและของโลก เวทีประชุมวิชาการครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสอันดีในการแลกเปลี่ยนความ
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดย นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ร่วมกับ 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อขยายความร่วมมือโครงการยกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา (CARE) หวังสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการในทุกระดับ โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง นายณกรณ์ กล่าวว่า การลงนามหนังสือในครั้งนี้ เป็นการขยายความร่วมมือโครงการยกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา ร่วมกับ 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องการยกระดับห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยางพาราให้มีมูลค่าการส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์มากกว่า 680,000 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 6 ล้านคน โดยโครงการนี้จะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้เกษตรกรชาวสวนยางมีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผลักดันสินค้าและการบริหารจัดการให้ตรงตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้โมเดลเศรษฐกิจแบบ BCG เพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้ายางพารา รวมถึงให้ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจ การส่งออก การจัดการเงินทุน และความรู้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินโ
วันที่ 8 กันยายน 2565 ที่ศาลาประชาคม อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เป็นประธาน แถลงข่าวการศึกษาโครงการ “จัดตั้งพื้นที่บริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ” หรือ SECri หรือ Southern Economic Corridor of Rubber Innovation: SECri ตั้งอยู่ในขอบเขตการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC เพื่อสร้างโอกาสการพัฒนาพื้นที่ศักยภาพ รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา ไปพร้อมกับการสร้างประโยชน์แก่ชาวเกษตรสวนยาง คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบนและตอนกลาง นายณกรณ์ กล่าวว่า การยางแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการศึกษาพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขนาดพื้นที่ 38,520 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ในการกำกับดูแลของ กยท. ภายใต้โครงการ “จัดตั้งพื้นที่บริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ” หรือ SECri หรือ Southern Economic Corridor of Rubber Innovation: SECri ตั้งอยู่ในขอบเขตการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราในภาคใต้ตอนบนและตอนกลางได้ โดยแบ่งเป็น พื้นที่ 3,500 ไร่ ณ อำเภอช้างกลาง ศึกษาโอกาสการพัฒนาพื้นที่รองรับการทำธุรกิจ อุตสาหกรรมยางพ
การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่ในการกำกับดูแลของ กยท. ขนาดพื้นที่ 38,520 ไร่ ที่ตั้งอยู่ในขอบเขตการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC สร้างโอกาสการพัฒนาพื้นที่ศักยภาพ รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา ไปพร้อมกับการสร้างประโยชน์แก่ชาวเกษตรสวนยาง คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบนและตอนกลาง และจังหวัดนครศรีธรรมราช จากการลงทุนพัฒนาโครงการมูลค่าประมาณ 8.9 หมื่นล้านบาท นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กยท. ได้ดำเนินการศึกษาพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขนาดพื้นที่ 38,520 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ในการกำกับดูแลของ กยท. ภายใต้โครงการ “จัดตั้งพื้นที่บริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ” หรือ SECri หรือ Southern Economic Corridor of Rubber Innovation: SECri ตั้งอยู่ในขอบเขตการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราในภาคใต้ตอนบนและตอนกลางได้ โดยแบ่งเป็น พื้นที่ 3,500 ไร่ ณ อำเภอช้างกลาง ศึกษาโอกาสการพัฒนาพื้นที่รองรับการทำธุรกิจ อุตสาหกรรมยางพารา พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปยางพาราเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การต
คณะวิทย์ ม.อุบลฯ สุดเจ๋ง โชว์นวัตกรรม “ชุดตรวจแมกนีเซียมภาคสนามในน้ำยางพารา” ตรวจได้เองไม่ต้องพึ่งห้องแล็บ สะดวกรวดเร็วรู้ผลภายใน 1 นาที พร้อมจดอนุสิทธิบัตรเรียบร้อย เตรียมผลักดันต่อยอดเชิงการค้าหนุนเพิ่มศักยภาพในอุตสาหกรรมยางพาราของประเทศ ศาสตราจารย์ ดร.ศิริพร จึงสุทธิวงษ์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวว่า ปัจจุบันคณะวิทยาศาสตร์ได้ให้ความสำคัญในการผลักดันผลงานวิจัยและนวัตกรรมเด่น ๆ ออกสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆที่ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและชุมชน ล่าสุดได้เปิดตัวนวัตกรรมวิจัยเรื่อง“ชุดตรวจแมกนีเซียมภาคสนามในน้ำยางพารา”ซึ่งคิดค้นโดยคณาจารย์ภาควิชาเคมี สำหรับที่มาของผลงานวิจัยดังกล่าวเกิดขึ้นจากวิธีการตรวจวัดแมกนีเซียมในน้ำยางพาราภายในห้องปฏิบัติการของโรงงานแปรรูปน้ำยางในการวิเคราะห์ต่อหนึ่งตัวอย่าง จะต้องใช้สารทั้งหมด (สารตัวอย่างและสารเคมี) ประมาณ 300 มิลลิลิตร และยังคงต้องมีการเติมสารป้องกันตัวรบกวน (Masking reagent) เพื่อป้องกันการรบกวนการวิเคราะห์จากตัวรบกวนอื่น ๆ นอกจากแมกนีเซียม ซึ่งสารป้องกันตัวรบกวนที่นิยมใช้ ยกตัวอย่างเช่น สารโพ
กลุ่มไทยอีสเทิร์น จับมือ ม.เกษตร เดินหน้ายกระดับยางพารา ปาล์มน้ำมัน วางเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมเติบโตอย่างยั่งยืน คาดมูลค่าทะลุกว่า 2 หมื่นล้านบาท นายเฉลิม โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทไทยอีสเทิร์น เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และ บริษัท ไทยอีสเทิร์น อินดัสเตรียล แลนด์ จำกัด กับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ การทําวิจัยด้านยางพาราและปาล์มน้ำมัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความร่วมมือครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อภาคเกษตรกรรมโดยรวม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยางพาราและปาล์มน้ำมัน ได้แก่ 1. ด้านองค์ความรู้ เช่น การคิดค้นหลักสูตรเพื่อสร้างบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมเกษตรด้านยางพาราและปาล์มน้ำมัน รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรเพื่อพัฒนาคุณภาพและเพิ่มผลผลิตต่อไป 2. ด้านงานวิจัย จะร่วมกันวิจัย คิดค้น สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งจะผลักดันให้เกิดความร่วมมือและขยายผลสู่ระดับสากลในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มบ