ไร่อ้อย
วันก่อนได้ไปชิมน้ำอ้อยสดอินทรีย์ ที่ตลาดสุขใจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเจ้าของไร่อ้อยคือ คุณยุทธพงษ์ กอบกาญจนา วัย 51 ปี มาคั้นเองขายเอง จุดเด่นนอกจากจะเป็นน้ำอ้อยอินทรีย์แล้ว ยังให้ลูกค้าได้เลือกด้วยว่าจะใส่น้ำมะกรูด น้ำมะนาว หรือเป็นน้ำอ้อยล้วนๆ ลูกค้าหลายรายเลือกใส่มะกรูด พอดื่มแล้วต่างติดใจ เพราะมีรสเปรี้ยวผสมไปด้วย อีกทั้งมีกลิ่นหอมของมะกรูด ดื่มแล้วชื่นใจดี ปลูกแบบเคมี ค่าใช้จ่ายสูง ว่าไปแล้ว เจ้าของไร่อ้อยอินทรีย์รายนี้มีความน่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะการนำน้ำอ้อยมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยทำน้ำอ้อยคั้นน้ำเป็นหลัก และยังทำน้ำตาลทั้งแบบน้ำตาลปี๊บ และแบบน้ำตาลทราย รวมทั้งไซรัปด้วย ซึ่งคงมีชาวสวนน้อยรายที่สามารถทำแบบนี้ได้ คุณยุทธพงษ์ กอบกาญจนา ผู้เป็นเจ้าของไร่จอมยุทธ์ ในวัยหนุ่มหลังจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขาวิชาพืชไร่นา เขาเคยทำงานกับ บริษัท คาร์กิลล์เมล็ดพันธุ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของ นักธุรกิจชาวอเมริกัน ทำหน้าที่ส่งเสริมการขายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสม ที่จังหวัดสระแก้ว และที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ทำอยู่ 3 ปีกว่า จากนั้นมาช่วยกิจการโต๊ะจีนของครอบค
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 นายสมชัย สิบหย่อม อายุ 62 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจะใช้เงินเข้าไปดูแลราคายางกว่า 1 หมื่นล้าน ตนเองเห็นด้วย แต่อยากถามว่าชาวนาชาวไร่อ้อย รัฐบาลจะดูแลอย่างไร ขณะนี้ข้าวหอมมะลิที่รัฐบาลบอกว่าจะให้ราคาตันละ 15,000บาทนั้น หลุดไปอยู่ในมือโรงสีหมดแล้ว เกษตรกรชาวนาไม่เคยขายข้าวให้กับโรงสีได้ในราคาถึงหมื่นบาทต่อตัน จะขายก็ได้เพียง 7,000-8,000 บาทเท่านั้น นายสมชัยกล่าวอีกว่า อยากฝากถามไปยังรัฐบาลว่าที่ผ่านมาชาวนาชาวสวนพิจิตรได้รับผลกระทบหลายด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วมเรื่องราคาข้าวตกต่ำ รัฐบาลเคยคิดอยากช่วยเหลือหรือไม่หรือคิดแต่จะช่วยอุ้มเรื่องราคายางอย่างเดียว ตนเองไม่อยากให้รัฐบาลเป็น 2 มาตรฐาน หรือคิดว่าปกครองแบบคนจน ปกครองง่ายกว่าคนรวย จริงๆ แล้วรัฐบาลควรมองภาพรวมของประเทศ ว่ามีกลุ่มไหนบ้างที่เดือดร้อน นายสมชัยกล่าวอีกว่า อยากวิงวอนรัฐบาลออกมาดูแลชาวนาชาวสวนบ้าง ซึ่งชาวนาก็บ่นราคาข้าวไม่ดี ชาวไร่อ้อยก็บ่นราคาไม่ดี ซึ่งที่ผ่านมาไม่เป็นแบบนี้ หากจะแก้ ก็ขอให้แก้ทั้งหมดไม่ใช่แก้แต่ยางอย่างเดียว ดังนั้น ต
พิจิตร – นายปิยะ วงศ์ลือชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย พ.อ. ศุภฤกษ์ สถาพรผล รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิจิตร และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ประกอบกิจการโรงงานน้ำตาลในพื้นที่ ร่วมประชุมแนวทางการปฏิบัติการขนส่งอ้อยช่วงฤดูผลิตน้ำตาล 2560/61 ในการวางแนวทางปฏิบัติการเกี่ยวกับการขนส่งอ้อยจากไร่ของเกษตรกรเข้าสู่โรงงานผลิตน้ำตาล โดยโรงงานผลิตน้ำตาลจะเริ่มเดินเครื่องเปิดหีบอ้อยในต้นเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไปจนจบฤดูการผลิต ทั้งนี้ เพื่อให้การขนส่งอ้อยเข้าสู่โรงงานดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นการป้องกันมิให้การขนส่งอ้อยในช่วงเวลาดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั่วไปตลอดเส้นทาง จึงได้มีการวางแนวทางปฏิบัติทั้งหมด 19 หลัก เช่น ห้ามไม่ให้รถบรรทุกอ้อยท่อนและอ้อยลำสูงไม่เกิน 4 เมตร ความยาวยื่นมาทางด้านหลังรถบรรทุกไม่เกิน 2.30 เมตร และควรมีสายรัดให้แน่นหนา ให้ติดธงแดงขนาดใหญ่ท้ายรถบรรทุกอย่างน้อย 2 ผืน ให้เห็นชัดเจนในเวลากลางวัน ติดสัญญาณไฟแดงในเวลากลางคืนอย่างน้อย 3 ดวง ส่วนผู้ที่ขับรถขนส่งอ้อยควรระมัดระวังมิให้อ้อยต
นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคแมลงศตรูพืชในขณะนี้พบว่าในพื้นที่จังหวัดราชบุรี อำเภอจอมบึง และอำเภอโพธาราม ซึ่งเป็นแหล่งปลูกอ้อย ที่ใหญ่อีกแห่งหนึ่งในภาคตะวันตกและจังหวัดใกล้เคียง ได้มีการพบว่ามีศัตรูพืช คือ ตั๊กแตนไฮโรไกลฟัส เข้าทำลายแปลงอ้อย เนื่องจากช่วงนี้ตัวอ่อนของตั๊กแตนไฮโรไกลฟัสเริ่มฟักออกจากไข่ ดังนั้นเกษตรกรชาวไร่อ้อยจึงควรหมั่นสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผลผลิตอ้อย และหากพบว่าพื้นที่ใดมีการระบาดของตั๊กแตนไฮโรไกลฟัสที่เข้าทำลายอ้อยให้รีบแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านดำเนินการควบคุมโดยทันที สำหรับรูปร่างลักษณะตัวเต็มวัยของตั๊กแตนไฮโรไกลฟัสเป็นตั๊กแตนที่มีขนาดกลางยาว 3-5 เซนติเมตร มีสีเหลืองปนเขียวหรือน้ำตาลปนเหลืองน้ำตาลแก่ ตัวอ่อนมีสีต่างๆ กัน เช่น เขียวอ่อน เหลืองอ่อน น้ำตาลแดงและดำทั้งตัว หน้ามีสีดำ ใต้ท้องมีสีดำตลอดตัว วงจรชีวิตของตั๊กแตนไฮโรไกลฟัส การผสมพันธุ์และวางไข่ในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม เป็นช่วงปลายฤดูฝน ไข่จะฟักตัวอยู่ในดินตลอดฤดูแล้ง อยู่ในดิน 7-8 เดือน ลักษณะไข
นายสุพจน์ หวังปรีดาเลิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและผู้จัดการโรงงาน บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ กลุ่มเคทิส กล่าวว่าว่า บริษัทฯลงนามในบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับภาครัฐ และภาคเกษตรกร ในจังหวัดนครสวรรค์ สร้างเครือข่ายประชารัฐ ตามนโยบายรัฐบาล เปลี่ยนนาข้าวเป็นไร่อ้อยมีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่ปลูกอ้อยอีกประมาณ 10,000 ไร่ คิดเป็นผลผลิตอ้อยเข้าหีบประมาณ 1 แสนตันอ้อย โดยอ้อยทั้งหมดกลุ่มเคทิส จะรับซื้อทั้งหมด ในบันทึกข้อตกลงนี้จะขับเคลื่อนและสนับสนุนการจัดโซนนิ่งในพื้นที่อำเภอบรรพตพิสัย และอำเภอพยุหะคีรี ซึ่งมีโรงงานน้ำตาลของกลุ่มเคทิสอยู่ “เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการจัดโซนนิ่งพื้นที่เกษตรกรรมให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม มีพื้นที่ปลูกข้าวที่พร้อมจะเปลี่ยนมาปลูกอ้อยในจังหวัดนครสวรรค์มากกว่า 4 ล้านไร่ ภาครัฐจะให้การสนับสนุนข้อมูล กลุ่มเคทิส ช่วยส่งเสริมให้คำแนะนำด้านการเพาะปลูกอ้อย และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการแล้วเห็นผลจะช่วยรณรงค์ต่อเนื่องไปยังผู้ที่ยังลังเลในการปรับเปลี่ยน” นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกลุ่มเคทิสรับซื้ออ้อยจากชาวไร่อ้อยประมาณ