เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
News พืชทำเงิน

บอย เทพจินดา ปลูกมะนาวแป้นทะวาย บนร่องสวนที่บ้านแพ้ว

มะนาว ถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร บ้านแพ้ว ในแต่ละวันจะมีผลผลิตมะนาวออกสู่ผู้บริโภค โดยผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะไปเดินทางรวบรวมนะนาวจากสวนต่างๆ ส่งตลาดค้าส่งที่สำคัญ เช่น ตลาดปากคลองตลาด ตลาดไท เป็นต้น

การคัดขนาดมะนาวก่อนส่งพ่อค้า

คุณสมใจ หรือ บอย เทพจินดา อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 9 ตำบลหนองสองห้อง อำเภอบ้านแพ้ว โทร.08-9826-4202 เป็นหนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกมะนาว ที่เน้นการจำหน่ายทั้งผลมะนาวและกิ่งพันธุ์มะนาว โดยมีพื้นที่ปลูกทั้งสิ้น  22 ไร่

คุณบอย บอกว่า ครอบครัวเทพจินดาได้ปลูกมะนาวกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว และได้หยุดไปปลูกองุ่นอยู่ระยะหนึ่ง ประมาณ 4 ปี  แต่การปลูกองุ่นต้องประสบปัญหาต้นทุนที่สูงมาก ทำให้รับไม่ไหว จึงปรับเปลี่ยนกิจกรรมการปลูกพืชกลับมาเป็นมะนาวเหมือนเดิมจนถึงทุกวันนี้

ผลผลิตมะนาวจากสวน

“มะนาวยังเป็นไม้ผลที่ให้ผลตอบแทนดี แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับราคาตลาดด้วย ถ้าราคาดี ไม่มีการให้นำเข้าจากต่างประเทศ นับเป็นพืชที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ดีชนิดหนึ่งทีเดียว”  คุณบอย กล่าว

ปัจจุบันที่สวนแห่งนี้จะมีผลผลิตมะนาวพันธุ์แป้นทะวายออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอทั้งปี

“สาเหตุที่เลือกปลูกมะนาวพันธุ์แป้นพวงนั้น  เพราะให้ลูกดอกและลูกใหญ่ ให้น้ำหอม เป็นที่ต้องการของตลาด”

 

การขนมะนาวที่เก็บมายังโรงคัด

เทคนิคการเลือกต้นพันธุ์มาปลูก

ส่วนสำคัญที่คุณบอยบอกว่าจะต้องใส่ใจมากที่สุดคือ ลักษณะการให้ลูกของมะนาว ว่าจะดอกหรือไม่

“เราจะซื้อต้นพันธุ์มะนาวมาจากที่ไหนสิ่งสำคัญผมมองว่า ต้องไปดูครับ ไปดูถึงสวนเขาเลยว่า มะนาวให้ลูกดกหรือไม่ พอได้เห็นเก็บข้อมูลทุกอย่างแล้วให้เอากลับมาประมวลดูว่าจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ ซึ่งถ้าดีตามที่เราต้องการก็ตัดสินใจได้เลย”

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่เป็นนิยมกันของเกษตรกรชาวสวนมะนาว โดยผ่านมุมมองของบอยคือ เมื่อมีต้นพันธุ์มะนาวมาปลูกไว้ในสวนแล้วหากต้องการปลูกมะนาวให้มากขึ้น จะไม่ใช้วิธีการไปซื้อมาเพิ่มเติม แต่จะใช้วิธีการคัดต้นมะนาวจากปลูกอยู่ในสวน ดูว่าต้นไม้เจริญเติบโตดี ให้ผลดก น้ำมาก จะคัดต้นนั้นเก็บไว้ทำแม่พันธุ์ และขยายพันธุ์มาปลูกเพิ่มเติมตามจำนวนที่ต้องการ

มะนาวจะเก็บได้เดือนละ 1 ครั้ง

“ในส่วนของกิ่งพันธุ์มะนาวที่เราทำจำหน่ายก็เช่นกัน เราจะคัดต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์ที่สุด เมื่อคัดแล้วก็จะดูผลผลิตว่าว่าติดลูกดกดีหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามที่เรากำหนดไว้ จึงจะดำเนินการขยายพันธุ์อกมาจำหน่าย ส่วนมากจะดูประมาณ 2 ปีหลังจากเริ่มติดผล ที่ต้องใช้เวลานานสาเหตุเพราะต้องดูให้แน่ใจเพราะบางที่ต้นที่เราคัดมากก็พบว่ามีกลาย ให้ผลไม่ดกก็มี” คุณบอย กล่าว

สำหรับกิ่งพันธุ์ที่ทำบอยจำหน่ายนั้นจะเน้นการตอนกิ่งเป็นหลัก

“ในเขตบ้านแพ้วจะนิยมปลูกด้วยกิ่งตอน ซึ่งจะให้ผลผลิตเร็วกว่า หากกิ่งพันธุ์เลี้ยงสมบูรณ์ดี ประมาณ 18 เดือน ก็สามารถเริ่มมีผลผลิตให้เก็บแล้ว”

 

สมใจ หรือ บอย เทพจินดา

ถนัดดูแลมะนาวที่ปลูกแบบยกร่อง

สำหรับรูปแบบการปลูกมะนาวของเกษตรกรในเขตอำเภอบ้านแพ้ว คุณบอยบอกว่า จะนิยมปลูกกันแบบยกร่อง มากกว่าการปลูกแบบไร่เหมือนกันในจังหวัดอื่นๆ ด้วยลักษณะเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ราบริมฝั่งคลองดำเนินสะดวกที่เชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำท่าจีนกับแม่น้ำแม่กลอง

“การปลูกในลักษณะยกร่อง ตามความรู้สึกผม นอกจากเป็นความค้นเคยที่คนบ้านแพ้วจะทำการเกษตรแบบยกร่องทั้งการปลูกผัก ไม้ผล นอกจากนี้ ผมยังคิดว่าช่วยทำให้การทำงานของเราง่าย โดยเฉพาะในการขนย้ายมะนาวออกมาจากสวนเพื่อส่งจำหน่ายหรือการนำปัจจัยการผลิตต่างๆ เช่น ปุ๋ยไปใส่ให้กับต้นมะนาว”

การคัดต้นเพื่อขยายพันธุ์จะเน้นต้นที่กดให้ผลผลิตดี

ทั้งนี้ระยะปลูก จะใช้ระยะปลูกระหว่างต้นตั้งแต่ 8ศอกขึ้นไป แต่บางคนก็จะปลูกระหว่างกว่านี้ เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการชนกันของกิ่งต้นมะนาวที่ปลูก

“อย่างของผมระยะ 8 ศอก ประมาณ ปีที่ 5 กิ่งก็เริ่มชนกันแล้ว แต่บางคนก็ปลูก 10 ศอก ซึ่งระยะการชนกันของกิ่งก็จะนานขึ้น ถ้ากิ่งมาชนกัน จะมีปัญหาว่าไม่ค่อยออกดอกติดผล เพรากิ่งมันทึบ ดังนั้นจึงต้องมีการตัดแต่งกิ่ง”

ลักษณะร่องสวนมะนาวของเกษตรกรที่บ้านแพ้ว

คุณบอย กล่าวต่อว่า สำหรับต้นมะนาว ถ้ามีการดูแลรักษาดีๆ ก็จะมีระยะเวลาการให้ผลผลิตได้นานถึง 8 ปี

“พอต้นแก่แล้วจะเหมือนเป็นกับเชื้อราเข้าทำลาย จะมีทยอยตายไปเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อถึงระยะเวลาที่เห็นว่าต้นมะนาวแก่แล้วจะมีการปลูกใหม่”

สำหรับการปลูกมะนาวในช่วงแรก สิ่งที่บอยกล่าวเสริมว่าเป็นเรื่องสำคัญ คือ การดูแลป้องกันเรื่องแมลงมากัดกินยอดอ่อน รวมถึงกากรป้องกันเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคแคงเกอร์ การป้องกันจะให้ยากันรา โดยจะฉีดพ่นทุก 7 – 8 วัน

การตากน้ำจะปล่อยน้ำออกมาให้มากที่สุด

นอกจากนี้จะต้องมีการให้ปุ๋ยเคมี โดยจะให้สูตร 16-16-16 หรือสูตรที่ตัวหน้าสูง ตามปกติจะให้ปุ๋ยเคมีเดือนละ 1 ครั้ง  รวมถึงการให้ปุ๋ยคอก โดยเน้นการใช้ขี้ไก่อัดเม็ด โดยใส่ประมาณ 3 – 4 เที่ยว ให้ต้นหนึ่งประมาณ 1 กิโลกรัม

การสังเกตว่ามะนาวที่ปลูกอยู่ในภาวะขาดปุ๋ยหรือไม่ คุณบอยมีข้อแนะนำว่า ให้สังเกตสีของใบ ต้นมะนาวที่ขาดปุ๋ยนั้นจะเริ่มแสดงอาการตั้งแต่ส่วนยอดก่อน โดยมีใบสีเหลืองปรากฏให้เห็นไล้ลงมา หากเห็นว่าส่วนยอดใบเริ่มเหลืองก็จะต้องใส่ปุ๋ยเคมีให้กับมะนาว

“ส่วนมากต้องอาศัยการเรียนรู้จากประสบการณ์ ทำไปศึกษาไป รวมถึงการแลกลเปลี่ยนพูดคุยกับเพื่อนฝูงที่ทำมะนาวเหมือนกัน แล้วนำมาปรับใช้ในสวนของเรา หากให้ผมมอง ผมก็มองว่าเรื่องการป้องกันโรคแมลงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”

ขณะที่การเก็บผลผลิตมะนาว คุณบอยบอกว่า วงจรของมะนาวจะเก็บผลเดือนละ 1 ครั้ง

“หลังจากเก็บมะนาวเสร็จ ก็จะเริ่มใส่ปุ๋ยเคมีให้กับต้นมะนาว วงจรการดูแลเรื่องปุ๋ยจะเป็นแบบนี้คือ เก็บผลผลิตเสร็จก็ใส่ปุ๋ย” คุณบอย กล่าว

ปลูกแบบร่องก็ทำนอกฤดู

ตามปกติโดยธรรมชาติ มะนาวจะออกผลมาในช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคม ซึ่งคุณบอยบอกว่า เป็นหน้ามะนาวปี  ส่วนช่วงมะนาวขาดแคลนและมีราคาแพงจะอยู่ประมาณเดือนมีนาคม – พฤกษาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เกษตรกรจะทำมะนาวให้ออกนอกฤดูตรงกับช่วงที่มะนาวแพง

สำหรับการทำมะนาวนอกฤดูของเกษตรกรในเขตบ้านแพ้ว คุณบอยกล่าวว่า จะเริ่มทำกันตั้งแต่หมดฤดูฝน เริ่มด้วยการตากน้ำ ซึ่งหมายถึงการปล่อยน้ำออกจากร่องมากที่สุด เพื่อทำให้ผิวหน้าดินบริเวณร่องแห้ง

“การตากน้ำ บางก็ใช้วิธีการปล่อยน้ำแห้งเลย แต่บางคนก็ใช้วิธีการยุบน้ำในสวนหน่อยแล้วไม่ต้องรดน้ำให้กับต้นมะนาว โดยการตากน้ำจะใช้เวลาประมาณ 10 กว่าวัน แต่การจะตากน้ำหรือไม่ รวมถึงจะตากน้ำกี่วันนั้น ยังต้องมาดูอีกว่า ต้นมะนาวของเราเป็นอย่างไร อย่างของผมถ้าปีไหนมีลูกมะนาวติดอยู่เยอะจะไม่ตากน้ำ ถ้าเราตากไปลูกที่มีอยู่ก็จะเสียไป ถ้ามีเยอะจะปล่อยตามธรรมชาติ ซึ่งมะนาวนั้นจะมีการทยอยติดลูกทั้งปี เพียงแต่ว่ามีมากมีน้อยแล้วแต่ช่วงจังหวะที่มีดอก”

“โดยมากจะทำกันตั้งแต่พฤศจิกายน แต่ถ้ามีความสามารถ สามารถตากน้ำได้ก่อนและทำให้มะนาวออกดอกได้ในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม จะสามารถไปเก็บผลผลิตได้ในช่วงแพงพอดี แต่ถ้าฝนชุกทำไม่ได้ จะเน้นการใส่ปุ๋ยสะสมทางดิน  โดยเน้นให้สูตรปุ๋ยตัวหน้าสูง เช่น ยูเรีย  และหากช่วงจังหวะต้นเบาๆ หรือติดลูกน้อย มะนาวก็จะออกดอก ถ้าเราทำออกมาได้ จะสามารถไปเก็บได้ในช่วงราคาแพง”

“หลังจากใส่ปุ๋ยตากน้ำไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ ก็จะเห็นแล้วว่า มะนาวจะแตกออกมาเป็นยอดหรือตาดอก วิธีการสังเกต ถ้าเป็นดอกจะเป็นตุ่มกลมอกมา ถ้าเป็นยอดเป็นใบจะมีลักษณะแหลมออกมา”

ทั้งนี้ มะนาวที่เก็บมาจากต้นนั้น ด้วยวิธีการใช้ตระกร้อสอย เมื่อถูกลำเลียงมาสู่โรงคัด จะมีการนำมาเข้าเครื่องคัดขนาดมะนาว เพียงคัดขนาด ซึ่งมีด้วยกัน 5 ขนาดคือ  หนึ่ง ลอย สอง จัมโบ้ สาม ใหญ่  สี่ พิเศษ และห้า เบอร์คัดออก ซึ่งเป็นมะนาวที่สุกเหลืองและเป็นโรคแคงเกอร์ ซึ่งมะนาวแบบนี้แม่ค้าร้านส้มตำจะนำไปใช้

“มะนาวจากสวนจะมีพ่อค้าจากปากคลองตลาดมารับ ซึ่งในเขตนี้ส่วนมากจะมีพ่อค้าเจ้าประจำกัน หรือถ้ามีคนปลูกใหม่ ก็จะมีพ่อค้ามาติดต่อซื้อมะนาวจากสวน” คุณบอย กล่าว

ทั้งนี้คุณบอยบอกว่า ตลาดที่ร้องรับมะนาวนั้นไม่มีปัญหา แต่ที่มีปัญหาคือ ราคาที่ชาวสวนได้รับนั้น ถ้าเป็นช่วงมะนาวมาก บางปีอาจจะต่ำถึงกับไม่ได้กำไรเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งสวนหมดแล้วต่อการเก็บมะนาว 1 ครั้ง

“ช่วงแพงไม่มีปัญหาพออยู่ได้ แต่ถ้าช่วงราคาถูกเหลือเพียงลูกละ 30 สตางค์ ราคาแบบนี้อยู่ลำบากครับ เพราะหักค่าใช้จ่ายแล้วไม่เหลือเลย” คุณบอย กล่าวในที่สุด

Related Posts