สำหรับบางคน พัดสานอาจเป็นเพียงเครื่องมือคลายร้อนแบบบ้าน ๆ ไทย ๆ ที่หาไม่ได้มีคุณค่าหรือความหมายอะไรมาก แต่สำหรับชาวชุมชนบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พัดสานทุกเล่มคือส่วนหนึ่งของความทรงจำ คือเรื่องราวที่ถูกถักทอผ่านเส้นตอก และลวดลาย อีกทั้งยังเป็นมรดกแห่งภูมิปัญญาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น สานแน่นไปด้วยวัฒนธรรม ฝีมือ และสายใยความผูกพันของครอบครัว
เพื่อทำความรู้จักเรื่องราวของ “พัดสาน“ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขอพาลัดเลาะเข้าสู่ชุมชนบ้านแพรก หมู่บ้านเล็ก ๆ ริมน้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อพูดคุยกับ คุณจินดา ขนายนาม และคุณสมปอง ตรส์กุล สองคุณแม่วัย 70 ปี ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของงานจักสานไว้ได้อย่างมั่นคง เพราะที่นี่…พัดสานไม่ใช่เพียงของใช้ แต่คือชีวิต ลมหายใจ และคือสิ่งที่บอกเล่าถึงกาลเวลาที่เคลื่อนผ่าน โดยที่ความงดงามของวิถีดั้งเดิมยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย

สานภูมิปัญญา สู่ผลิตภัณฑ์ชุมชน
ชุมชนบ้านแพรกเป็นแหล่งผลิตพัดสานจากไม้ไผ่ที่มีเอกลักษณ์มากว่า 50 ปี ด้วยฝีมือของชาวบ้านกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่ร่วมกันสืบสานงานจักสานเป็นอาชีพหลัก วัตถุดิบทั้งหมดมาจากภายในชุมชน ตั้งแต่การปลูกไผ่ ตัดไม้ ย้อมสี จนถึงการประกอบเป็นพัดสำเร็จรูป เด็ก ๆ ที่นี่เรียนรู้การสานตั้งแต่อายุยังน้อย บางคนเริ่มตั้งแต่ ป.1 ป.2 เพื่อให้มรดกภูมิปัญญานี้ยังคงอยู่ต่อไป
แม่สมปองเล่าพร้อมยิ้มว่า “สมัยก่อนเราสานพัดใช้กันเองในบ้าน เวลามีแขกมาก็ทำเป็นของฝาก แต่เดี๋ยวนี้ลูกหลานเราขายพัดได้เป็นรายได้เสริม บางครอบครัวขายดีจนเป็นอาชีพหลักเลยนะ” งานฝีมือที่เคยเป็นแค่เครื่องใช้ในครัวเรือน ปัจจุบันกลับกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้ชุมชน และเป็นแหล่งจ้างงานให้ผู้สูงอายุได้มีอาชีพที่มั่นคง

สานฝัน สร้างโอกาสให้ชุมชน
สำหรับชาวบ้านแพรก พัดสานไม่ใช่แค่ของใช้เพื่อคลายร้อน แต่เป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เป็นทั้งอาชีพและความภาคภูมิใจของครอบครัว “แม่ภูมิใจมาก ส่งลูกเรียนจบมาได้สองคนก็เพราะสานพัดเนี่ยแหละ” แม่จินดาเล่าพร้อมย้อนถึงวันวานที่พัดเล่มหนึ่งขายได้เพียง 50 สตางค์ หรือสลึงเดียวสำหรับพัดขนาดเล็ก ในขณะที่ไม้ไผ่ที่ใช้สานพัดเคยมีราคาต่ำกว่าปัจจุบันมาก “สมัยก่อน ไม้ไผ่ลำหนึ่งแค่ 10-15 บาท เดี๋ยวนี้ปล้องละ 20 บาทแล้ว ราคาขายก็ต้องขึ้นตามต้นทุน“ แม้จะไม่ได้ทำให้ร่ำรวย แต่รายได้จากการทำพัดก็เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และเมื่อเหลือก็ยังแบ่งไปทำบุญตามวัด งานศพ หรืองานบวชในหมู่บ้าน “มันไม่ได้เหลือเป็นก้อนหรอกลูก แต่เราก็ภูมิใจ“
สิ่งที่แม่จินดาไม่เคยคาดคิดคือ งานจักสานของชุมชนเล็ก ๆ จะได้รับการสนับสนุนจนเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากการสนับสนุนจากหน่วยงานและบริษัทเอกชนหลายแห่ง “แม่ดีใจมากเลยลูก ไม่คิดว่างานฝีมือของชุมชนเราจะไปไกลขนาดนี้“ จากพัดที่เคยขายกันเฉพาะในหมู่บ้าน กลายเป็นสินค้าจำหน่ายในห้าง และถูกเลือกเป็นของชำร่วยสำหรับงานแต่ง งานศพ หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ “บางคนสั่งไปติดชื่อบ่าวสาว เขาบอกว่าพัดเราโบกไม่หลุด แม่เลยบอกไปเลย ถ้าโบกสองทีพัง ให้ฟรีเลยลูก!” การสนับสนุนของหน่วยงานหรือบริษัทเอกชนหลายๆ เจ้า ไม่เพียงทำให้พัดสานเย็นใจเป็นที่นิยมมากขึ้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นได้เติบโตและพัฒนาไปอีกขั้น
ปัจจุบัน ชุมชนบ้านแพรกยังคงต่อยอดงานจักสานให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น นอกจากพัดสาน ยังมีพวงกุญแจ กระเป๋า ตะกร้าทำบุญ ไปจนถึงของตกแต่งโรงแรมที่สามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงขึ้น “เราลองทำพัดลายใหม่ ๆ อย่างลายไทยประยุกต์หรือลายมงคล ลูกค้าชอบกันมาก” แม่จินดากล่าวเสริม อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมี โดยเฉพาะเรื่องสีที่อาจซีดจางเมื่อโดนน้ำ “ต้องค่อย ๆ แก้กันไป” แม้จะมีอุปสรรค แต่ด้วยความร่วมมือจากบริษัทเอกชนหรือหน่วยงานต่างๆ ผสานกับพลังของชุมชน งานหัตถกรรมไทยยังคงเดินหน้า พร้อมสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชุมชนบ้านแพรกต่อไป

สานต่อความเย็นจิต กับ “พัดสานเย็นใจ” ที่ซีเจ มอร์
เพื่อสืบสานภูมิปัญญา และส่งต่อเรื่องราวของชุมชน ซีเจ มอร์ เชิญชวนลูกค้าสมาชิกสบายการ์ดทุกคนมารับฟรี! “พัดสานเย็นใจ” ผลิตภัณฑ์จักสานจากชุมชนบ้านแพรก หรือเลือกเป็น น้ำดื่มคาราบาว 1.5 ลิตร เมื่อซื้อสินค้าครบ 300 บาท/ใบเสร็จ (เมื่อช้อปสินค้าที่ร่วมรายการ) ตั้งแต่วันที่ 12 – 24 เมษายน 2568 ที่ซีเจ มอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ แคมเปญพิเศษนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ พร้อมส่งต่อความเย็นกาย สบายใจ ให้กับทุกครอบครัวไทย
พัดแฮนด์เมดแต่ละชิ้นเป็นมากกว่าสิ่งของ แต่คือสัญลักษณ์ของมรดกทางวัฒนธรรมและความผูกพันที่เรามีต่อภูมิปัญญาท้องถิ่น

ซีเจ มอร์ ยึดมั่นในบทบาทในการเป็น “มากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต” โดยเป็น “พันธมิตรของชุมชน” ที่พร้อมสนับสนุนทั้งสินค้าและเรื่องราวจากท้องถิ่น ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์จากชุมชนมีตลาดที่กว้างขึ้น แต่ยังช่วยรักษาอาชีพดั้งเดิมให้คงอยู่และเติบโตไปพร้อมกับยุคสมัย
“ขอบคุณทุกคนเลยลูก ขอบคุณมาก ๆ ที่มาอุดหนุน ถ้าไม่มีเขาเราก็แย่ ขอบคุณทุกหน่วยงานเลย ขอให้เจริญๆ เถอะลูก แล้วมาสั่งพัดจากแม่เยอะ ๆ นะ จะได้ช่วยยาย ๆ ในหมู่บ้านด้วย“
เสียงสะท้อนจากชุมชนบ้านแพรกที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งและความหวังว่างานหัตถกรรมไทยจะยังคงได้รับการสานต่อและเติบโตไปพร้อมกับโอกาสใหม่ ๆ ที่ทุกคนร่วมกันสร้าง
