เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
News

วิกฤต!ส้มเขียวหวาน ‘วังชิ้น’ ราคาตก เบอร์ใหญ่แค่ กก. 20 บาท หนุนชาวสวนรวมตัวทำเกษตรแปลงใหญ่

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ จ.แพร่ ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว ส้มเขียวหวาน เป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของ อ.วังชิ้น จ.แพร่ มีพื้นที่ปลูกกว่า 13,000 ไร่ ในลุ่มน้ำยม สามารถทำรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกส้มอย่างต่อเนื่องในอดีตที่ผ่านมา สำหรับฤดูกาลผลิตส้มเขียวหวานปีนี้ เกษตรกรมีส้มจำหน่ายถึง 2 รุ่น คือในช่วงเดือนพฤษภาคม และเดือนกุมภาพันธ์เป็นส้ม รุ่นที่ 2 ซึ่งส้มรุ่นนี้จะตรงกับเทศกาลตรุษจีน ทำให้ส้มมีราคาดีเป็นพิเศษ รุ่นนี้จึงเป็นความหวังของเกษตรกรที่จะทำรายได้ ทุกปีสามารถจำหน่ายผลส้มในช่วงเทศกาลตรุษจีนขนาดคละกันได้ถึง กิโลกรัมละ 30-40 บาท จากสวน

แต่ปีนี้แม้ผ่านวันตรุษจีนมาหมาดๆ เป็นเทศกาลที่มีการใช้ส้มในเทศกาล แต่ไม่ทำให้ราคาส้มเขียวหวานของอำเภอวังชิ้นกระเตื้องขึ้น ยังคงราคา 15-20 บาท เท่านั้น ซึ่งต้องคัดส้มที่มีสีสวยและขนาดใหญ่ คือ เบอร์ 0 เท่านั้น จึงจะสามารถจำหน่ายได้ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท

นายวีรชัย เข็มวงษ์ เกษตรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า เกษตรกรประสบปัญหาราคาส้มเขียวหวานตกต่ำ ไม่ใช่เรื่องคุณภาพส้ม แต่เกิดจากการปลูกและจำหน่ายของเกษตรกรที่ไม่รวมกลุ่มกัน ขาดการพัฒนาเทคโนโลยีทำให้ส้มมีคุณภาพเท่ากัน ผลส้มของอำเภอวังชิ้นถ้านำไปจำหน่ายในตลาดใหญ่ กทม. เชื่อว่าจะได้ราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 50 บาท ซึ่งในตลาดค้าปลีก ใน กทม. ผลส้มมีราคาสูงถึง กก.ละ 80 บาท แต่ทุกวันนี้ถูกกดราคา ตัดราคา อ้างถึงคุณภาพ เช่น สีผิว หรือแหล่งผลิตที่ไม่ใช่พื้นที่ผลิตหลักๆ ของประเทศ

แม้ที่ผ่านมา เกษตรจังหวัดแพร่ ได้ส่งเสริมการขายจัดเทศกาลส้มช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน เพื่อสร้างกิจกรรมให้เกิดการรู้จักส้มเขียวหวานวังชิ้นมากขึ้น แต่ไม่สามารถยกระดับราคาได้

“ทางออกที่ดีหลังจากนี้ไป เกษตรกรควรใช้โอกาสที่รัฐส่งเสริม เข้ามารวมตัวเป็นเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อพัฒนาคุณภาพไปพร้อมๆ กัน และทำให้ผลส้มสวยเป็นที่ต้องการของตลาด พร้อมทั้งทำอย่างไรให้ผลผลิตส้มทั้ง 13,000 ไร่ เป็นผลผลิตส้มปลอดภัยไปจนถึงส้มอินทรีย์ ถ้าเกษตรกรสามารถรวมตัวกันได้ รับรองว่าการสร้างตลาดใหม่ให้ส้มวังชิ้น จะทำให้เกษตรกรทำรายได้อย่างงดงาม ปัจจุบัน ส้มเขียวหวานของอำเภอวังชิ้นสามารถผลิตได้ไร่ละ 2,000 กิโลกรัม ถ้าจำหน่ายในราคา กิโลกรัมละ 50 บาท จะทำให้มีรายได้เข้าจังหวัดไม่น้อยกว่า 1,300 ล้านบาท

ปีนี้ถือเป็นปีเริ่มต้นที่เกษตรกรเริ่มรวมตัวกันพัฒนาแปลงปลูกให้ได้มาตรฐาน ตามโครงการเกษตรแปลงใหญ่ นำไปสู่การสร้างคุณภาพผลผลิตในฤดูกาลต่อไป ภายใต้การค้าขายที่เหมาะสม ตัดพ่อค้าคนกลางออกไปจะทำให้ราคาส้มเขียวหวานกลับมามีราคาที่เกษตรกรพอใจอีกครั้ง” นายวีรชัย กล่าว

Related Posts