MOST POPULAR
พริกเป็นพืชในเขตร้อนหรือกึ่งร้อนที่ทนความแห้งแล้งได้ดีพอควร และสามารถปลูกในดินได้แทบทุกชนิด แต่ดินที่เหมาะสมที่สุดคือ ดินร่วนปนทราย เพราะมีการระบายน้ำดี น้ำไม่ท่วมขังหรือชื้นแฉะซึ่งจะทำให้รากเน่าและตายได้ ใครปลูกพริกแล้วเจอปัญหาเหล่านี้ “พริกไม่ดก ใบเหลือง” ไม่รู้จะแก้ยังไงดี วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านมีสูตรบำรุงต้นพริกทางใบ ที่ใครๆ ก็ทำได้ วัตถุดิบหาง่าย ใช้งบน้อย ติดดอก ติดผลเต็มต้น ในสูตรบำรุงมีส่วนประกอบของเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งในเครื่องดื่มชูกำลังมีวิตามินจำนวนมาก บำรุงพืชทางใบได้ผลดี และมีส่วนประกอบของยาพารา ซึ่งยาชนิดนี้ไม่ได้ช่วยรักษาโรคของคนเท่านั้น แต่ยังช่วยกำจัดเชื้อราในดินและบำรุงให้พืชผักเจริญเติบโต แข็งแรงอีกด้วย หากใครเจอปัญหาต้นพริกที่ไม่ค่อยออกดอก ติดผล ลองนำสูตรนี้ไปใช้กันได้ ทำตามได้ง่ายๆ วัตถุดิบ ยาพาราเซตามอล 1 เม็ด ถุงแกงหรือถุงพลาสติก 1 ใบ เครื่องดื่มชูกำลัง (ยี่ห้อไหนก็ได้) 1 ฝา น้ำเปล่า 1 ลิตร กระบอกฉีดน้ำฟ็อกกี้ วิธีการทำ 1. นำเม็ดพาราใส่ถุงแกง ทุบให้แตกละเอียด 2. หลังจากนั้นใส่เครื่องดื่มชูกำลัง 1 ฝา ผสมกับยาพาราที่ทุบไว้ให้เข้ากัน เสร็จแล้วจะได้หัวเชื้อบำรุง
คนไทยกับต้นกล้วยเป็นความผูกพันมาช้านาน แม้วันนี้เราจะใช้ใบตองกล้วยน้อยลง หรือเลิกใช้เชือกกล้วยไปแล้วก็ตาม แต่ประเพณีชีวิตคนไทยกับต้นกล้วยยังแยกกันไม่ได้ ไม่ว่าพิธีขึ้นบ้านใหม่ หรือขบวนแห่ขันหมากแต่งงานก็จะขาดต้นกล้วยไม่ได้ ไปจนถึงพระราชพิธีพระบรมศพก็ยังมีการแทงหยวกกล้วยเป็นลวดลายประกอบพระเมรุ ที่สำคัญคือ เครื่องบายศรีใหญ่น้อยทั้งหลายที่ใช้ในพิธีศักดิ์สิทธิ์ล้วนทำมาจากใบตองที่นำมารีดเป็นกลีบเป็นกรวยสวยงาม อันเป็นที่มาของคำสำคัญที่ผูกพันชีวิตคนไทยกับต้นกล้วยว่า “พิธีรีตอง” ข้างต้นเป็นเรื่องของกล้วยกับประเพณีไทย ในที่นี้จะขอกล่าวถึงการ “กินกล้วยเป็นอาหารและยา” ซึ่งดำรงอยู่ในวัฒนธรรมโภชนาการและแพทย์พื้นบ้านไทยมาแต่โบร่ำโบราณไม่ขาดสายมาจนถึงทุกวันนี้ คนไทยรู้จักกินกล้วยหลายชนิด แต่ที่ฮิตที่สุดก็คือ “กล้วยน้ำว้า” นอกเหนือจากประโยชน์ทางด้านอาหารแล้ว กล้วยยังมีคุณค่าอนันต์ในทางยา หมอพื้นบ้านใช้ใบตองอ่อนที่ยังม้วนอยู่ นำมาอังไฟสำหรับประคบรักษาอาการปวดหน้าอก อาการอักเสบพุพองของผิวหนัง หรือนำมาต้มน้ำดื่มแก้ท้องเสีย บิด แก้ผื่นคัน สมัยที่ยาเพนิซิลินหายาก น้ำคั้นสดจากหยวกกล้วยช่วยเยียวยาโรคหนองใน
เคยได้ยินกันไหม? ที่ว่ากินปลาแล้วจะฉลาด มีงานวิจัยจากคณะพยาบาลศาสตร์และสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ตรวจสอบการกินปลาของเด็กวัย 9-11 ปีในประเทศจีนจำนวน 541 คน พบข้อสรุปที่น่าสนใจว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 เข้าไปสะสมในสมองช่วยให้เด็กมีสภาพการนอนหลับที่สมบูรณ์ขึ้น ผลที่ตามมาคือพฤติกรรมด้านการเรียนรู้ดีขึ้น ก้าวร้าวน้อยลง ใช้เวลากับการเรียนได้มากขึ้น ความฉลาดจึงเป็นผลพวงที่ตามมาจากสภาพการนอนหลับที่ดีขึ้นนั่นเอง ปลาเป็นแหล่งของโอเมก้า 3 ที่ดีที่สุด และที่สำคัญปลาของไทยเราก็มีโอเมก้า 3 สูง ไม่แพ้ปลาแซลมอน แถมยังมีราคาที่ถูกและหากินได้ง่าย ในโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำ ทำให้ฉลาด และไอคิวดี ถ้าอยากได้โอเมก้า 3 ต้องเลือกกินปลาชนิดไหนดี ลองดูปริมาณโอเมก้า 3 ในปลาของไทยแต่ละชนิด มีประโยชน์มากมายขนาดนี้ 🐟ปลาทู ปลาทูมีไขมันทั้งหมด 3.8 กรัม มีโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.06 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.22 กรัม แต่ถ้าปลาทูนึ่งมีไขมันทั้งหมด 3.0 กรัม มีโอเมก้า 6 อยู่ที่ 0.03 กรัม มีโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.18 กรัม ข้อมูลโภชนาการ ต่อเนื้อปลา 100 ก
สูตรน้ำหมักไล่แมลงนั้นมีหลากหลายสูตรมากมาย โดยส่วนใหญ่ใช้เป็นสมุนไพรไทย แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า “พริกไทย” วัตถุดิบทำอาหารที่อยู่ในครัวบ้านเรา นั้นสามารถไล่แมลงศัตรูพืชได้เหมือนกัน โดยสูตรน้ำหมักพริกไทยไล่แมลงสูตรนี้ นอกจากจะไล่แมลงต่างๆ ได้ดีแล้ว ยังไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย และสามารถใช้ได้ผลกับพืชทุกชนิด เนื่องจากน้ำหมักจากพริกไทยนั้น มีกลิ่นฉุนรุนแรงและประกอบด้วยสารรสเผ็ด และสารที่มีกลิ่นฉุนและเผ็ดร้อน จึงทำให้สามารถมีฤทธิ์ในการขับไล่แมลงได้ดีทีเดียว สูตรที่ 1 วัตถุดิบ 1. เมล็ดพริกไทยดำ หรือเมล็ดพริกไทยขาว 4 ช้อนโต๊ะ 2. น้ำสะอาด 1 ลิตร ขั้นตอนการทำ 1. ตำพริกไทยดำและพริกไทยขาวให้ละเอียด (การตำจะช่วยให้สารที่ให้รสเผ็ดและสารให้กลิ่นฉุน ในพริกไทยออกมาได้ดีขึ้น) 2. จากนั้นนำพริกไทยที่ตำละเอียดดีแล้ว กรอกใส่ขวดที่บรรจุน้ำสะอาดไว้แล้ว 3. หมักทิ้งไว้ 1 คืน สามารถนำไปใช้ได้เลย สูตรที่ 2 วัตถุดิบ 1. เมล็ดพริกไทยดำ หรือเมล็ดพริกไทยขาว 4 ช้อนโต๊ะ 2. น้ำสะอาด 500 มิลลิลิตร 3. น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา 4. มะนาว 1 ผล ขั้นตอนการทำ 1. ตั้งหม้อบนเตา ใส่น้ำ 250 มิลลิลิตร ลงไปจากนั้นนำพริกไทย