ต้นหม่อน หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า “มัลเบอร์รี่” (mulberry) เป็นไม้ยืนต้น ที่อยู่ในวงศ์เดียวกับต้นปอสา ขนุน และโพธิ์ ฯลฯ มีคุณค่าทางแร่ธาตุและวิตามินมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทุกวันนี้ใบและผลหม่อนจึงถูกนำมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในลักษณะ “อาหาร และเครื่องดื่ม” หลากหลายรูปแบบ เช่น ชาวอีสานยังนิยมนำยอดหม่อนและใบหม่อนมาปรุงใส่อาหารเมนูพื้นบ้าน เช่น ต้มยำไก่ ฯลฯ นอกจากนี้ ใบหม่อน ยังสามารถแปรรูปเป็นชาชงดื่ม เพื่อลดความดันโลหิตสูง มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด
รู้ไหมว่า…เราสามารถมี “ผลหม่อนสด” ให้เก็บกินทุกวันได้ทั้งปี แค่ต้องใส่ใจดูแลต้นหม่อนนิดนึง และรู้จักเทคนิค “บังคับออกผลนอกฤดู” หมุนเวียนกันตลอดปี ทีนี้ก็จะมีผลหม่อนหวานๆ เปรี้ยวๆ ไว้ลิ้มรสกันทุกวัน ลองมาดูกันว่าต้องทำยังไงบ้าง

การปลูกหม่อนให้มีผลสดรับประทานตลอดปี
อยากมี “ผลหม่อนสด” ไว้กินทั้งปี ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ต้องรู้จักวางแผนให้ดี และใส่ใจดูแลต้นหม่อนอย่างถูกวิธี วิธีนี้จะช่วยให้เรามีผลหม่อนทยอยสุกให้เก็บกินได้ทุกเดือน ไม่มีขาดช่วง แม้จะเจอสภาพอากาศไม่เป็นใจ เช่น อากาศร้อนจัดที่อาจทำให้ผลร่วงก่อนกำหนด ก็ยังมีต้นสำรองให้เก็บได้เสมอ
✅ ปลูกอย่างน้อย 4 ต้น (จะปลูกมากกว่านี้ก็ยิ่งดี)
เริ่มต้นด้วยการปลูกหม่อนอย่างน้อย 4 ต้น แต่ถ้ามีพื้นที่พอ แนะนำให้ปลูกเพิ่มเป็น 8 หรือ 12 ต้น เพราะเราจะใช้วิธีทำให้ต้นหม่อนแต่ละต้น “ออกผลเหลื่อมเวลากัน” ทำให้มีผลหม่อนทยอยสุกอยู่เสมอ สลับหมุนเวียนกันตลอดทั้งปี
✂️ โน้มกิ่งปีละครั้ง
การโน้มกิ่งเป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ต้นหม่อนออกดอกออกผลมากขึ้น ทำเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น แต่ต้องทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม (สามารถดูรายละเอียดช่วงเวลาที่แนะนำได้จากแผนผังหรือรูปภาพประกอบ)
✂️✂️ ตัดกิ่งแขนง + รูดใบ ปีละ 2 ครั้ง
หม่อนจะออกผลดีเมื่อมีการตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ ทุกปีควรตัดกิ่งแขนงเพื่อให้แตกกิ่งใหม่ พร้อมกับรูดใบออก โดยทำปีละ 2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการออกดอกและผลตามแผนการที่วางไว้
🍇 ช่วงเวลาเก็บผลหม่อน
ผลหม่อนสามารถเก็บได้ทั้งในช่วง
- ผลห่าม: สีแดงประมาณ 50% + สีม่วงประมาณ 50% รสชาติจะหวานอมเปรี้ยว
- ผลสุก: สีม่วงดำทั้งผล ให้รสหวานจัด
แต่ละต้นจะมีช่วงให้เก็บผลได้นานประมาณ 1 เดือน ทำให้สามารถจัดการช่วงเวลาเก็บผลให้สลับกันได้อย่างลงตัว

การปลูกต้นหม่อนผลสด
- ระยะปลูก สามารถปลูกเป็นแถว โดยให้ระยะห่างระหว่างต้น 4 เมตร เพื่อเผื่อพื้นที่พุ่มอย่างน้อย 2 เมตร หรือจะปลูกเป็นแบบแปลงสี่เหลี่ยม โดยใช้ระยะ 4 x 4 เมตร ก็ได้
- การเตรียมหลุมปลูก ขุดหลุมลึก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 10 กิโลกรัมต่อหลุม ใส่ปูนโดโลไมท์หรือปูนขาว ประมาณ 1 กิโลกรัมต่อหลุม และปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตรา 250 กรัมต่อหลุม หรือจะให้แม่นยำต้องใส่ตามค่าการวิเคราะห์ดิน คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วกลบหลุมด้วยหน้าดินให้พูนเล็กน้อย
- วิธีการปลูก ขุดดินบนหลุมที่เตรียมไว้ให้ลึกพอประมาณ แล้วนำต้นหม่อนที่เตรียมไว้ด้วยวิธีการต่างๆ ลงปลูกกลบดินให้แน่น
- การบังคับทรงต้น ต้นหม่อนที่ปลูกจากกิ่งชำชนิดล้างราก หรือชนิดชำถุง หรือปลูกด้วยท่อนพันธุ์จากกิ่งพันธุ์โดยตรง เมื่อต้นหม่อนเจริญเติบโตได้ประมาณ 6-12 เดือน จะต้องบังคับทรงพุ่มโดยตัดแต่งกิ่งให้เหลือเพียงกิ่งเดียวไว้เป็นต้นตอ มีความสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร จากพื้นดิน ปล่อยให้หม่อนแตกกิ่งใหม่หลายๆกิ่ง เก็บกิ่งที่สมบูรณ์ไว้ กิ่งที่ไม่สมบูรณ์ให้ตัดทิ้งเพื่อให้ด้านล่างโปร่ง ง่ายต่อการปฏิบัติดูแลรักษาด้านเขตกรรมต่างๆ เช่น การกำจัดวัชพืช การใส่ปุ๋ย การพรวนดิน การตัดแต่งกิ่งแขนงและการเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น อนึ่งสำหรับหม่อนที่ปลูกในปีแรกๆ ลำต้นและระบบรากยังเจริญเติบโตไม่มาก อาจจะหักล้มได้ง่าย ดังนั้นจะต้องทำการยึดลำต้นไว้ด้วยไม้ หรือไม้ไผ่ให้แน่นหนา
- การใส่ปุ๋ย ในปีที่ 2 ให้ใส่ปูนขาวหรือปูนโดโลไมท์ตามการวิเคราะห์ความต้องการปูนขาวของดินเพิ่ม ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อต้น ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 250 กรัมต่อต้น
- การให้น้ำ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้น้ำหม่อนในระยะที่หม่อนติดผลแล้ว (โดยปกติจะมีฝนหลงฤดูหรือฝนชะช่อมะม่วงผ่านเข้ามา จะทำให้ต้นหม่อนแตกตาติดดอก ถ้าไม่มีฝนหลงฤดู หลังโน้มกิ่ง รูดใบ ต้องให้น้ำกระตุ้นการแตกตาแทนน้ำฝน) หากขาดน้ำจะทำให้ผลหม่อนฝ่อก่อนที่จะสุก หรือทำให้ผลหม่อนมีขนาดเล็ก
- การตัดแต่งกิ่งและการดูแลรักษาทรงพุ่ม ตัดเฉพาะกิ่งแขนงที่ไม่สมบูรณ์และเป็นโรคทิ้ง เพื่อลดการสะสมโรคและแมลการบังคับให้หม่อนติดผลนอกฤดูกาล ใช้วิธีการบังคับต้นหม่อน เพื่อให้ได้ผลผลิตผลหม่อนในระยะเวลาที่ต้องการ มีวิธีการดังนี้
- ทำการโน้มกิ่งหม่อนที่ปลูกแบบทรงพุ่ม โดยการโน้มกิ่งให้ปลายยอดขนานกับพื้น หรือโน้มลงพื้นดิน รูดใบหม่อนออกให้หมด พร้อมทั้งตัดยอดส่วนที่เป็นกิ่งสีเขียวออกยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ใช้เชือกผูกโยงติดไว้กับหลักไม้ไผ่ ซึ่งปักไว้บนพื้นดินสำหรับยึดเชือกไว้
- หลังการโน้มกิ่ง 8-12 วัน ดอกหม่อนจะแตกออกพร้อมใบ จากนั้นจะมีการพัฒนาการของ ผลหม่อน โดยผลจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีขาว สีชมพู สีแดง และสีม่วงดำ ตามลำดับ โดยใช้เวลาประมาณ 45-60 วัน ผลจะเริ่มแก่และสุก สามารถเก็บไปรับประทานสดหรือนำไปแปรรูปได้ มีระยะเวลาในการเก็บผลประมาณ 30 วันต่อต้น เพราะผลหม่อนจะทยอยสุก เนื่องจากออกดอกไม่พร้อมกัน
- เมื่อต้นหม่อนมีอายุตั้งแต่ 2 ปี เป็นต้นไปจะให้ผลผลิตผลหม่อนประมาณ 1.5-35 กิโลกรัม(ประมาณ 750-1,850 ผลต่อครั้งต่อต้น) เพียงพอต่อการบริโภคผลสดทั้งครอบครัวทุกวัน ตลอดปี ซึ่งร่างกายต้องการวันละ 10-30 ผลเท่านั้น อีกทั้งยังมีผลหม่อนสดไว้แปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่มได้อีกหลายชนิด เช่น น้ำหม่อน แยมหม่อน เชอเบทหม่อน ฯลฯ
หม่อนลูกผสมที่ให้ผลผลิตใบสูง และผลมีขนาดใหญ่น่ากินนั้นได้แก่ บุรีรัมย์ 60, นครราชสีมา 60, ศรีสะเกษ 33, จีน เบอร์ 44 และหม่อนผลสดพันธุ์เชียงใหม่

หม่อนที่ติดผลดีที่สุดคือ พันธุ์เชียงใหม่ หรือนิยมเรียกว่า หม่อนผลสด หม่อนพันธุ์นี้จะให้ผลผลิตอยู่ระหว่าง 800-1,000 กิโลกรัม ต่อไร่ ประโยชน์ของผลหม่อนใช้ทำแยม น้ำผลหม่อน และไวน์ หม่อนผลสดพันธุ์เชียงใหม่มีผู้นำมาจากจีน และปลูกที่จังหวัดเชียงใหม่มานานแล้ว
การขยายพันธุ์นิยมใช้วิธีเพาะชำ หม่อนให้ผลเมื่อมีอายุครบ 3 ปี หม่อนพันธุ์เชียงใหม่มีดอกเพศผู้และเพศเมียในต้นเดียวกัน ดอกตัวผู้ ออกเป็นช่อ แต่ละดอกมีกลีบดอก 4 กลีบ หลังดอกบานก้านเกสรตัวผู้จะยืดยาวออกและขับละอองแตกปล่อยเกสรสีเหลืองไปผสมกับเกสรตัวเมีย ดอกตัวเมียจะออกเป็นช่อเช่นเดียวกับเกสรตัวผู้ กลีบดอกมี 4 กลีบ ห่อหุ้มรังไข่ ก้านเกสรตัวเมียและยอดเกสรตัวเมียไว้ ในรังไข่มีไข่อ่อน ส่วนปลายสุดคือ ยอดเกสรตัวเมีย ดอกที่ได้รับการผสมเกสรแล้วจะพัฒนาเป็นผลต่อไป
ผลที่ได้เรียกว่า ผลรวม ลักษณะรูปร่างคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี่ ผลอ่อนมีสีเขียว ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีชมพู แดง และสีดำคล้ำ ในธรรมชาติหม่อนจะออกดอกต้นเดือนมกราคม ผลจะสุกแก่ในเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนเมษายน แต่ปัจจุบันมีการค้นพบวิธีโน้มกิ่ง ลิดใบให้หม่อนออกดอกนอกฤดูได้
การปลูกหม่อนผลสด ใช้วิธีเดียวกับการปลูกไม้พุ่มทั่วไป ระยะปลูกที่ให้ผลดีที่สุดคือ 0.75×2.0 เมตร การโน้มกิ่งเป็นวิธีบังคับให้หม่อนติดผลนอกฤดูเพื่อเพิ่มผลผลิต หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนเมษายน ตัดแต่งกิ่งให้เตี้ยลง มีความสูง 70-100 เซนติเมตร
ต่อมาจะแตกกิ่งก้านใหม่ ปล่อยให้เจริญเติบโตพร้อมบำรุงให้สมบูรณ์จนครบ 6 เดือน กิ่งเกิดใหม่สูงประมาณ 1.50 เมตร จึงลิดใบและตัดยอดทิ้งประมาณ 30 เซนติเมตร รวบกิ่งของต้นตรงข้ามของแต่ละแถว ผูกมัดในลักษณะเป็นอุโมงค์ หรือกระโจมด้วยเชือกหรือลวด ภายใน 2 สัปดาห์ จะเริ่มให้ดอกและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเวลา 60 วัน หลังจากออกดอกแล้ว จากนั้นสามารถเก็บผลได้อีกเป็นเวลา 30 วัน
โรคสำคัญของหม่อนผลสด เช่น โรครากเน่า ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ทำความเสียหายให้หม่อนได้ทุกช่วงอายุ การระบาดรุนแรงจะทำให้ต้นหม่อนตายทั้งแปลง ระยะแรกใบจะเหี่ยวคล้ายถูกน้ำร้อนลวก ต่อมาใบจะเริ่มเหี่ยวจากส่วนยอดลงมา เมื่อขุดนำรากขึ้นมาพบว่า รากเน่าเปื่อย มีสีน้ำตาลปนดำ เปลือกรากและเปลือกบริเวณโคนต้นหลุดออกมีกลิ่นเหม็นรุนแรง
วิธีป้องกันกำจัด เมื่อพบต้นที่เป็นโรคให้ขุดต้นทั้งรากขึ้นมาเผาทำลายทิ้งไป ใส่ปูนขาวลงบริเวณหลุม พร้อมตากดินทิ้งไว้ 1-2 เดือน ก่อนการปลูกซ่อม ระหว่างพรวนดิน หลังการใส่ปุ๋ยระวังอย่าให้ต้นหม่อนเกิดบาดแผล การตัดแต่งกิ่งควรใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ที่คมและสะอาด คือก่อนและหลังตัดกิ่งต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้งในเขตที่มีโรครากเน่าระบาด ให้ปลูกด้วยกิ่งพันธุ์ที่ใช้พันธุ์ บร.4/2 เป็นต้นตอ และติดตาด้วยพันธุ์เชียงใหม่ การระบาดของโรคจะหมดไปในที่สุด