Featured
จากแอร์โฮสเตสสาวที่ลาออกมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ด้วยเงินสนับสนุนจากทางบ้าน หวังเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่นานร้านก็ต้องปิดตัว เพราะไม่ทำกำไร เธอไม่ยอมแพ้ ลองทำเบเกอรี่ฝากขาย แต่ก็ล้มเหลวอีกครั้งในเวลาเพียง 1 เดือน จนวันหนึ่ง การเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงทำให้เธอได้ลองชิม ‘พายหมูแดง’ นำมาสู่การคิดค้นสูตรพายที่ถูกปากคนไทย นี่คือเรื่องราวของ คุณอร–กนกกัญจน์ มธุรพร เจ้าของ April’s Bakery ที่สร้างยอดขายทะลุ 630 ล้านบาท! คุณอร มีพื้นเพเป็นชาวนครสวรรค์ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ด้านบริหารธุรกิจ และเคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของสายการบินต่างชาติอยู่ 2 ปีเศษ ก่อนตัดสินใจลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว โดยขอทุนทางบ้านมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ในคอมมูนิตี้แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่เปิดได้ไม่ถึงปีก็ต้องปิดตัว เพราะไม่ทำกำไร จากนั้นได้หันไปทำเบเกอรี่สไตล์อิตาเลียนฝากขายตามห้างสรรพสินค้า แต่ก็ ‘เจ๊ง’ ในเวลาเดือนเศษ เพราะไม่เคยศึกษาตลาด หรือพฤติกรรมของลูกค้ามาก่อน แต่คุณอรยังเหลือไว้ 1 สาขา พร้อมกับเปลี่ยนมาขายเค้ก คุกกี้ และมัฟฟินแทน แต่ยอดขายก็ยังไม่กระเตื้อง ขณะเดียวกันก็ยังคิดไม่ออก ว่าจะทำอะไรมาขา
ในยุคที่ไม่ว่าใครก็สามารถขายของได้บนโลกออนไลน์ ทำให้การมี “สินค้าที่ดี” อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะเกิดการแข่งขันสูง ลูกค้ามีตัวเลือกมากมาย และสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายกว่ายุคก่อน ทำให้สิ่งที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของการขายของออนไลน์ในตอนนี้ คือ การสร้างตัวตน หรือ Personal Branding นั่นเอง เพราะเมื่อแบรนด์มีเอกลักษณ์ ลูกค้าจดจำได้ ก็จะยิ่งขายได้ง่ายมากขึ้น วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาไปไขเคล็ดลับ “เทคนิคการปั้นแบรนด์โดยการสร้าง Personal Branding” ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ได้ซื้อของแค่จากร้านค้า แต่ซื้อจากเพื่อนที่รู้จักและไว้ใจ และยิ่งตัวตนชัดเจน แตกต่างจากคู่แข่ง จะสามารถเพิ่มยอดขายได้ในระยะยาว ทำไมต้องมี Personal Branding? อย่างแรกการสร้างตัวตนให้ชัดเจน จะเกิดความ “แตกต่างจากคู่แข่ง” ซึ่งไม่ต้องแข่งขันกันที่ราคาอย่างเดียวเท่านั้น ต่อมาเป็นการ “สร้างความน่าเชื่อถือ” ให้กับแบรนด์ ทำให้ลูกค้ากล้าซื้อเพราะรู้จักกับเรามากขึ้น และสุดท้ายก็จะกลับมาที่เรื่องของ “ยอดขาย” เมื่อผู้ติดตามเพิ่มขึ้น จะทำให้เกิดการซื้อขายกันต่อได้ในระยะยาว เทคนิคสร้างคาแร็กเตอร์ให้แตกต่าง 1. กำหนดบุคลิก เ
“ช่วงเวลาที่คนกรุงเทพฯ เข้างานมากที่สุดคือ 10 โมงเช้า ในขณะที่เชียงใหม่ ขอนแก่น อยู่ที่ 8 โมง การเดินทางไปทำงานไกลกว่า และอาจเสียเวลารถติดหรือเลี่ยงการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งก็นำไปสู่แนวคิดการสร้างย่านละแวกหรือนโยบาย ‘เมือง 15 นาที’ ที่ช่วยให้ผู้คนได้ทำงาน หรือมีบริการที่จำเป็นในย่านละแวกบ้าน ลดเวลาการเดินทางเพื่อนำไปใช้ชีวิตที่ต้องการได้” ‘คนส่วนใหญ่เข้างานเช้าแค่ไหน เลิกงานกันกี่โมง และมีเวลาไปทำกิจกรรมอื่นมากน้อยแค่ไหน’ ‘เมืองใหญ่มีพื้นที่ให้กับกิจกรรมแบบไหน มีเพียงพื้นที่ทำงาน หรือมีพื้นที่หลากหลายให้คนได้พักผ่อนหย่อนใจ’ ‘คนสูงวัยใน 4 เมืองใหญ่ใช้ชีวิตกันอย่างไร กระจายตัวทั่วเมืองหรือไม่ หรือกระจุกตัวอยู่ในย่านที่คุ้นเคย’ นี่คือตัวอย่างของคำถามที่นำไปสู่การค้นหาและเปิดโลกเรื่อง ‘เมือง’ ในโปรเจ็กต์ชื่อว่า ‘Dynamic Cities via Mobility Data หลากชีวิตในเมืองที่โลดแล่น’ โปรเจ็กต์ที่ใช้ข้อมูล Mobility จากทรู โดยมีหมุดหมายในการศึกษาชีวิตผู้คนและเมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ด้วยข้อมูลระดับ Big Data ที่มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เรียกได้ว่าโปรเจ็กต์นี้มีความแปลกใหม่และน่าสนใจ 3 แง่มุม คือ ห
ชี้เป้า 10 แหล่งขายส่งวัตถุดิบ อาหารคุณภาพดี พ่อค้าแม่ค้าเข้าถึงง่าย ใครอยากขายของแต่ยังไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อวัตถุดิบต่างๆ มาจากไหน ไม่ต้องกลัว วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีแหล่งซื้อขาย วัตถุดิบ อุปกรณ์ต่างๆ สำหรับผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ขายมาบอกให้ วัตถุดิบ ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างมากของพ่อค้าแม่ค้า เพราะหากจะทำอะไรออกมาขายแล้ว คุณภาพของวัตถุดิบจะช่วยทำให้สินค้าของเราออกมาแล้วประทับใจลูกค้า และในเรื่องของราคาต่างๆ ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับยุคสมัยนี้ด้วย จะว่าไปเดี๋ยวนี้เงินมีจำกัดแต่ความต้องการมีมากขึ้น ทำให้ต้องหาหนทางที่จะเพิ่มพูนรายได้ใส่กระเป๋าด้วยวิธีที่หลากหลาย และหนึ่งในวิธีที่หลากหลายคืออาชีพค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำหรือเป็นผู้ว่างงานก็ผันตัวมาขายของกันมากขึ้น และหาเส้นทางที่เหมาะกับตัวเอง เลือกสิ่งที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้ต้นทุนน้อย ขายได้ทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นการวางขายที่ตลาด ขายในออนไลน์ และกลุ่มลูกค้าที่เข้าถึงได้ง่ายๆ หากคุณคิดได้แล้วว่าจะทำอะไรดี แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นซื้อของจากที่ไหนได้บ้างถือเป็นประเด็นที่สำคัญเลยทีเดียว เพราะแหล่งซื้อวัตถุดิบ ตลอดจนร้านขายกล่
“ความ ล้มเหลว กลัว คนจริง” ประโยคที่กล่าวมานั้น คือ มุมมองการต่อสู้กับอุปสรรคทางธุรกิจ ในแบบของ ตัวพ่อแห่งวงการแฟชั่น อย่าง คุณลิ้ม-สมชัย ส่งวัฒนา ผู้ก่อตั้ง ฟลายนาว (FLYNOW) เสื้อผ้าแบรนด์ดังในตำนาน ที่ปัจจุบันดำเนินธุรกิจมาต่อเนื่องได้ราว 40 ปีแล้ว ว่ากันว่า การโบยบินของกิจการ ฟลายนาว นั้น ขยับปีกออกตัว ได้อย่างสวยสดงดงาม ชนิดประสบความสำเร็จทั้งชื่อเสียงและรายได้ตั้งแต่ปีแรกๆ ที่ออกสู่ตลาด เลยทีเดียว แต่แล้วช่วงปี พ.ศ. 2540 ต้องเผชิญกับ วิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งสร้างผลกระทบให้ฟลายนาว ต้องกลายเป็นหนี้ถึง หลักพันล้านบาท แม้ธุรกิจที่ปั้นมากับมือ จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก ชนิดหนี้สินล้นพ้นตัว แต่ผู้ก่อตั้ง ก็ไม่ยอมแพ้ และใช้เวลาประมาณ 7 ปี สามารถปลดหนี้พันล้านบาทได้หมด ทั้งปัจจุบัน ฟลายนาว ยังเป็นแบรนด์แฟชั่น ที่แม้จะไม่ “อลัง” เหมือนยุคก่อน แต่ยังมีลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ แห่ออร์เดอร์เสื้อผ้ากันข้ามปี จำนวนไม่น้อย การทำกิจการให้เล็กลง แต่แข็งแรง สร้างผลประกอบการได้ดี แถมอาจมีชื่อเสียงมากกว่าเดิม มีหลักคิดและแนวทางอย่างไร เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาไปหาคำตอบ กล่าวสำหรับ หนี้สินนับพันล้าน ขอ
เข้าสู่เดือนเมษาหน้าร้อนกันอีกครั้ง หลายคนเริ่มมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริม หรือลงทุนเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม และบริการอัตโนมัติ ที่ไม่เพียงทำเงินได้เฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น แต่ยังสามารถทำกำไรได้ตลอดทั้งปี วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มี 6 แฟรนไชส์น่าลงทุนในเดือนเมษายนมาแนะนำ มีทั้งของกิน เครื่องดื่ม ไปจนถึงธุรกิจตู้อัตโนมัติ ที่เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้ ลงทุนเริ่มต้นหลักพัน-หลักหมื่น ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ทำได้ Super Steak (ซูเปอร์สเต็กส์) แฟรนไชส์สเต๊ก ที่มาในคอนเซ็ปต์ More Steak More Delicious เป็นมากกว่าสเต๊ก มากกว่าความอร่อย เป็นความตั้งใจที่ทำแบรนด์นี้จากประสบการณ์กว่า 30 ปี เพื่อเป็นแบรนด์สเต๊กสตรีตฟู้ด ที่ใครๆ ก็สามารถทานได้ รสชาติมาตรฐานสากล ผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้น 49 บาท รูปแบบการลงทุน รูปแบบที่ 1 : ราคา 9,000 บาท รูปแบบที่ 2 : ราคา 19,000 บาท รูปแบบที่ 3 : ราคา 29,000 บาท รูปแบบที่ 4 : ราคา 39,000 บาท ช่องทางการติดต่อ Facebook : ซูเปอร์สเต็กส์ Super Steak โทร. : 080-910-8199 ปังไม่สิ้น กลิ่นน้ำนม แฟรน
80 ยังแจ๋ว “ป้าตุ่น” ครีเอเตอร์รุ่นใหญ่ ไม่หยุดเรียนรู้ โชว์ทำขนมบนโซเชียล เป็นขวัญใจคนทุกเจน หากใครติดตามติ๊กต็อกช่อง Patun.preeya จะสัมผัสได้ถึงความน่ารัก และเสียงหวานๆ ฟังเพลินของ ป้าตุ่น-ปรียา อุทัยวัชรานันท์ ครีเอเตอร์วัย 80 ปี และเจ้าของ บ้านกาแฟป้าตุ่น ร้านที่ร่วมกันเปิดกับลูกชาย ขายกาแฟและเบเกอรี่ที่ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ ก่อนมาเป็น บ้านกาแฟป้าตุ่น ก่อนหน้านี้ ป้าตุ่นเคยเปิดร้านขายของชำ ซึ่งในสมัยนั้นบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีลูกค้าจากหมู่บ้านตรงข้ามแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย เพราะห้างสรรพสินค้ายังไม่ได้รับความนิยม อีกทั้งการจัดร้านของป้าตุ่นที่คล้ายซูเปอร์มาร์เก็ตก็ช่วยดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี มีความสะอาด หยิบสินค้าง่าย ไม่เหมือนใคร ส่วนพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งของร้าน ป้าตุ่นแบ่งไปเปิดร้านไอศกรีมโฟร์โมสต์ ซึ่งขายอยู่นานกระทั่งแบรนด์เลิกกิจการ ก่อนมีแนวคิดอยากเปิดร้านสะดวกซื้อชื่อดัง แต่ด้วยข้อจำกัดของทำเล จึงไม่สามารถเปิดได้ ทำให้ป้าตุ่นตัดสินใจเลิกกิจการขายของชำไปด้วย จากนั้นป้าตุ่นได้หันมาขายไอศกรีมบัสต์นานร่วมสิบปี จนแบรนด์เลิกกิจการไปอีกราย ประจวบเหมาะลูกช
จากปัญหาของเล่นล้นบ้าน สู่ Keimen Kids ธุรกิจเช่าของเล่นที่อยากช่วยเซฟโลก เซฟเงินในกระเป๋าพ่อแม่ ไปพร้อมๆ กับเสริมพัฒนาการเด็ก เพราะการซื้อของเล่นให้ลูกในแต่ละครั้ง นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และของเล่นเหล่านั้นอาจรกเต็มบ้านในไม่ช้า อีกทั้งในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้เช่าของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กสักเท่าไหร่ จึงนำมาสู่ไอเดียธุรกิจให้เช่าของเล่นและหนังสือเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก ‘Keimen Kids’ ของหุ้นส่วนทั้ง 3 คนคือ คุณอุ้ม-พิมพ์จุฑา จิระวัฒน์พงศา คุณเกา หลี่ขุยหลิน (Gao Likuilin) และ คุณฝ้าย-พฤดา ตั้งพุทธสิริ ที่ร่วมกันก่อตั้งธุรกิจนี้เมื่อ 2 ปีก่อน ด้วยความตั้งใจอยากสร้าง Circular Economy ให้กับของเล่น คุณอุ้ม เล่าว่า ไอเดียธุรกิจนี้มาจากเพนพอยต์ (Pain Point) ของคุณเกา หุ้นส่วนชาวสิงคโปร์ที่มีลูกเล็กวัยเกือบ 1 ขวบ เขารู้สึกว่าในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้บริการเช่าของเล่นเสริมพัฒนาการ อีกทั้งการซื้อของเล่นมาจำนวนมาก ทั้งซื้อเพราะคิดว่าลูกจะชอบ ซื้อแล้วลูกเล่นครั้งเดียว จนของเหล่านั้นรกเต็มบ้านไปหมด จึงออกมาในคอนเซ็ปต์ให้เช่าของเล่นแบบรายเดือน โดยคิดค่าบริการเช่า เริ่มต้นที่ 700 บาท
ยำจนปัง! จากทำน้ำยำขายเป็นงานเสริม สู่ร้านยำสุดไวรัล “เอ๊ะอะยำ” ยอดขายพีกสุด 50,000 บาทต่อวัน จุดเริ่มต้นจากความชอบทานยำของ คุณดล-วุฒิพงษ์ งาเฉลา และ คุณไก่น้อย-นิรัตน์ งาเฉล ที่ต้องการจะหารายได้เสริมในช่วงที่ทำงานประจำ ทั้งคู่เริ่มจากขายน้ำยำออนไลน์จนกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเปิดเป็นร้าน “เอ๊ะอะยำ” ซึ่งมีเมนูไวรัลคือ “ยำหมูสับล้น” ที่ลูกค้าชื่นชอบและต่างพากันแซวว่าขายเอาสังคมใช่ไหม ปัจจุบันสามารถสร้างรายได้พีกสุด 50,000 บาทต่อวัน และมีลูกค้ามาต่อคิวมากกว่า 250 คิวต่อวัน จุดเริ่มต้นจากน้ำยำออนไลน์ “พวกเราชอบกินยำเลยลองทำน้ำยำขายในช่องทางออนไลน์ดูครับ” คุณดล เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้น หลังจากลองผิดลองถูก ทั้งคู่ได้พัฒนาสูตรน้ำยำของตัวเอง โดยมีการเรียนเพิ่มเติมจากยูทูบ และให้กลุ่มเพื่อนในออฟฟิศได้ลองชิม แม้ในช่วงแรกยอดขายยังไม่สูงมาก ประมาณ 40-50 กล่องต่อวัน แต่ความตั้งใจและการสร้างตัวตนผ่านโซเชียลมีเดียช่วยให้คนเริ่มรู้จักเอ๊ะอะยำมากขึ้น คุณดล เล่าต่อว่า “ตอนนั้นก็ได้มีการเปิดเพจหรือว่าทำการสร้างตัวตนให้กับตัวเอง ให้คนรู้จักมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ว่ารายได้ดี แต่เป็นอาชีพที่ส
เมื่อโลกเต็มไปด้วยทางเลือกและข้อมูลมากมาย มาตรฐานใหม่ในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของพ่อแม่ยุคใหม่จึงเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพสูง แต่ต้องมีนวัตกรรมที่ช่วยให้การเลี้ยงดูสะดวกยิ่งขึ้นและส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก รวมทั้งคำนึงถึงผลกระทบต่อโลก ทำให้สินค้าเด็กมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มาดูกันว่า 5 เทรนด์สินค้าสำหรับเด็กปี 2025 มีอะไรบ้าง 1. สินค้าปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกสินค้าของพ่อแม่ยุคใหม่ไม่เพียงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยต่อเด็กๆ แต่ยังต้องดีต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สร้างสังคมและโลกที่ดีกว่าสำหรับลูกหลานในอนาคต ทำให้ตระหนักถึงผลกระทบทั้งในแง่ของสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรงและกำลังพัฒนา พ่อแม่จึงเลือกสินค้าที่ปลอดภัยจากสารเคมีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องเด็กจากอันตรายทั้งต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกอาหารที่ปลอดสารเคมีและมาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายออร์แกนิก หรือของเล่นที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งการใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยังเป็นการสอนให้เด็กเติบโตขึ