ท่ามกลางความวุ่นวายของการทำงานประจำในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ในปี 2015 Katherine O’Brien ได้จุดประกายไอเดียธุรกิจเล็กๆ จากความต้องการง่ายๆ ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว เธอสังเกตเห็นโอกาสจากผู้คนที่สัญจรไปมา และจินตนาการถึงรถไอศกรีมที่จะดับกระหายคลายร้อน ด้วยงบประมาณที่จำกัด Katherine จึงไม่ได้หยุดอยู่แค่จินตนาการ แต่ได้มองหาทางเลือกที่เข้าถึงได้มากกว่า และนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Cream Cruiser ธุรกิจขายขนมหวานแช่แข็งทำมือด้วยจักรยาน ที่นำพาเธอไปสู่เส้นทางของผู้ประกอบการอย่างเต็มตัว
เรื่องราวของ Katherine ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เธอต้องทำงานประจำควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น และเผชิญกับความท้าทายที่ไม่คาดคิด แต่ด้วยการปรับตัวและการมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ในที่สุด เธอก็สามารถสร้างรายได้จาก “อาชีพเสริม” จนเติบโตแซงหน้างานประจำ และยังต่อยอดสู่ Bike Business University หลักสูตรออนไลน์ที่แบ่งปันความรู้และแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจในรูปแบบเดียวกัน เรื่องราวของ Katherine O’Brien เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงพลังของการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ การปรับตัวเมื่อเผชิญอุปสรรค และการมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน
Katherine O’Brien ผู้ก่อตั้ง Cream Cruiser บริษัทขายขนมหวานแช่แข็งทำมือและบริการจัดเลี้ยงในบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองในปี 2015 โดยที่ตอนนั้นยังทำงานประจำอยู่ แรงบันดาลใจของเธอเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ขณะเดินไปทำงานท่ามกลางผู้คนมากมาย เธอคิดว่ารถไอศกรีมคงเป็นสิ่งที่น่าสนใจในวันที่อากาศร้อน แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัด เธอจึงมองหาทางเลือกที่เล็กกว่าและเรียบง่ายกว่า จนกระทั่งได้พบกับธุรกิจจักรยานขายอาหารสั่งทำพิเศษ ซึ่งตอบโจทย์เธอได้ในทันที
ด้วยเงินลงทุนต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 350,000 บาท) Katherine เปิดตัว Cream Cruiser ภายในไม่กี่เดือน เริ่มจากตลาดเกษตรกร ก่อนจะขยายไปยังงานแต่งงาน งานบริษัท และวิทยาลัย เธอทุ่มเททำงานประจำควบคู่ไปกับการขายไอศกรีมนานกว่า 3 ปี เพื่อนำเงินกลับมาลงทุนในธุรกิจ จนกระทั่งในปี 2018 เธอตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อทำธุรกิจไอศกรีมอย่างเต็มตัว พร้อมขยายสู่การขายส่ง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2020-2022 ธุรกิจของเธอเผชิญกับความท้าทาย ทำให้เธอรู้สึกเหมือนไม่สามารถประคองตัวได้ จนกระทั่งการนำเสนอบริการจัดเลี้ยงเข้ามา ทำให้ธุรกิจกลับมามีชีวิตชีวาและสร้างรายได้ทดแทนช่วงที่ผ่านมาได้ ในปลายปี 2022 เธอตัดสินใจเลิกขายส่งและกลับไปทำสิ่งที่รัก นั่นคือการขายไอศกรีมจากจักรยานในงานอีเวนต์
จากความรักในธุรกิจจักรยานไอศกรีม Katherine ได้สร้าง Bike Business University หลักสูตรออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจโมเดลธุรกิจนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ธุรกิจจักรยานเป็นที่นิยมเทียบเท่ากับรถขายอาหาร
ก้าวแรกสู่ความสำเร็จในธุรกิจเสริมของเธอคืออะไร? Katherine เริ่มจากการสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียชื่อ “Ice Cream Bike Lady” เพื่อแบ่งปันเรื่องราวการเป็นผู้ประกอบการร้านไอศกรีมเคลื่อนที่ เรียนรู้การตลาดดิจิทัล และถ่ายทอดประสบการณ์เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เธอยังเชื่อมต่อกับผู้ที่ต้องการคำปรึกษาและสร้างหลักสูตร “Bike Business University” จากสิ่งที่ผู้ติดตามต้องการ
ความท้าทายและวิธีเอาชนะ: ช่วงโควิด-19 ทำให้เธอรู้สึกเหมือนล้มเหลว แต่ความท้าทายนั้นกลับกลายเป็นโอกาสให้เธอปรับโฟกัสและสร้าง Bike Business University ขึ้นมา เธอเรียนรู้ว่าการเป็นผู้ประกอบการต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวอยู่เสมอ
ทำไมรายได้จากธุรกิจเสริมถึงแซงหน้ารายได้ประจำ? Katherine เปิดตัว Bike Business University ในรูปแบบพรีเซลล์ ก่อนที่หลักสูตรจะสมบูรณ์ แต่ปรากฏว่าภายในสัปดาห์แรก เธอสามารถขายคอร์สได้เกิน 10,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 350,000 บาท) และยอดขายก็เติบโตอย่างรวดเร็วจนสามารถแทนรายได้จากงานประจำได้ในที่สุด
ปัจจุบัน Katherine มีรายได้เฉลี่ย 20,000 ดอลลาร์ต่อเดือน (ประมาณ 700,000 บาท) จาก Bike Business University และคาดการณ์ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงซัมเมอร์ปี 2024
คำแนะนำจาก Katherine สู่ความสำเร็จ “จงเริ่มก่อนพร้อม และเชื่อมั่นในตัวเอง หากคุณรักในสิ่งที่คุณทำ คุณจะพบคำตอบระหว่างทาง การผิดพลาดและการเรียนรู้จากความยากลำบากเป็นเรื่องปกติ สิ่งสำคัญคือการเดินหน้าและเติบโตต่อไป” เธอยังเน้นย้ำถึงพลังของอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะการมีธุรกิจออนไลน์ควบคู่ไปกับการทำสิ่งที่รัก ซึ่งจะช่วยให้รายได้เติบโตแบบไม่ติดเพดาน
Latest Posts
“ข้าวเหนียวมะม่วง” เมนูของหวานไทยๆ ที่หารับประทานได้ทั่วไป แต่จะว่าไป อาจหาเจ้าที่อร่อยจริงๆ ได้ยาก แต่มีอยู่เจ้าหนึ่งที่การันตีความอร่อยและแตกต่าง ด้วยการใช้วัตถุดิบมีคุณภาพ ผ่านกรรมวิธีการทำที่เจ้าของศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมมาอย่างลึกซึ้ง จนกลายเป็นร้านที่เคยเกิดปรากฏการณ์ลูกค้าต่อคิวซื้อมาแล้ว ร้านที่ว่าคือ “อยู่ ดี มี สุข ข้าวเหนียวมะม่วง” ของ คุณเบสท์–ณัฐธนนท์ สิทธิปัญญพัฒน์ ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการ Haus Ari3 ซอยอารีย์ บริเวณเดียวกับร้านข้าวผัดอเมริกัน Lucky’s Hungry และมีบูธขายที่ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ เจ้าตัวเล่าว่า กว่าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้ ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมาไม่น้อย “ธุรกิจที่บ้านเจอวิกฤตทางการเงิน ผมจึงตัดสินใจเลิกเรียนกลางคัน ทั้งๆ ที่เพิ่งเรียนไปปีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นภาระของที่บ้าน” คุณเบสท์ เกริ่น ก่อนย้อนให้ฟังว่า “ครอบครัวเปิดร้านขายหมูในตลาดคลองเตย เรียกว่ามีฐานะปานกลาง แต่พอปี 2554 ทางบ้านประสบวิกฤตทางการเงิน เพราะพ่อกับแม่ทำการค้าแบบไม่มี Know How เลย ประกอบกับก่อนหน้านั้นมีสถานการณ์ทางการเมืองและน้ำท่วมใหญ่ อีกทั้งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยม
ในวงการขนมหวานชื่อดังเมืองเพชรบุรี หากพูดชื่อ “โรงงานลุงอเนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์” ถือว่าไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะเรื่องความอร่อย สดใหม่ การชูวัตถุดิบดั้งเดิมในท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดย โจ้-ประวิทย์ เครือทรัพย์ ทายาทรุ่นที่ 3 ได้ผันตัวจาก “พ่อค้าขายขนมในออฟฟิศ” ปรับตัว คิดนอกกรอบ สร้างความต่าง มาต่อยอดธุรกิจครอบครัว และเคยได้รับรางวัล Inventor Awards จากเวที 7 Innovation Awards 2024 ล่าสุดพัฒนาสินค้าใหม่ “ขนมหม้อแกงกะทิสดเผือกหอม ลุงอเนก” ส่งขายเฉพาะร้านเซเว่นฯ และสามารถแจ้งเกิดหลังวางจำหน่ายได้ภายใน 2 เดือน กลายเป็นสินค้า SME ขายดี สร้างยอดขายกว่า 400,000 บาทต่อวัน โจ้-ประวิทย์ เครือทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพชรบุรี ไทยดีเสิร์ท จำกัด ผู้บริหารหนุ่มลูกหลานเมืองเพชร วัย 42 ปี เล่าถึงความเป็นมาว่า ธุรกิจนี้เริ่มต้นจากขนมไทยรสชาติต้นตำรับรุ่นคุณย่า ที่ได้รับการสืบทอดเรื่อยมาจนมีโรงงานลุงอเนกขนมหวานเมืองเพ็ชร์ ที่หมู่บ้านลาดโพธิ์ ต.สํามะโรง จ.เพชรบุรี เป็นโรงงานผลิตขนมไทยโบราณ ไม่ว่าจะเป็น หม้อแกง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ถ้วยฟู ฯลฯ ที่คงรสชาติแต่โบราณ และคงวัตถุดิบท้องถิ่น ส่
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “มัทฉะ” ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมอย่างรวดเร็วในประเทศไทย จากเดิมที่อาจเป็นที่รู้จักในวงจำกัด ปัจจุบันมัทฉะได้แทรกซึมเข้าไปในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ ผู้ที่มองหาเครื่องดื่มที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมการดื่มชาแบบญี่ปุ่น ความนิยมนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่เครื่องดื่ม แต่ยังขยายไปสู่ขนมหวาน เบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีส่วนผสมของมัทฉะอย่างแพร่หลาย ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเทรนด์มัทฉะในไทยนั้นมีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นกระแสรักสุขภาพหรือความชื่นชอบในรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย จนทำให้มัทฉะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการดื่มของผู้บริโภคชาวไทยไปแล้ว เรื่องราวของ คุณวิน-นนท์นิพัทธ์ เสถียรบำรุงกิจ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจของหนุ่มรุ่นใหม่ที่มองเห็นโอกาสและหลงใหลในเสน่ห์ของมัทฉะอย่างแท้จริง ที่แม้จะเติบโตในแวดวงธุรกิจของครอบครัว แต่เสน่ห์อันลุ่มลึกของมัทฉะกลับตรึงใจเขาไว้อย่างแนบแน่น ความชื่นชอบนี้ได้จุดประกายความมุ่งมั่นอันแรงกล้า จนนำไปสู่การก่อตั้ง Koyo T
“สนใจเรื่องเมือง เพราะตอนเรียนสถาปัตย์ มีวิชาเกี่ยวกับการพัฒนาเมือง รู้สึกชอบเป็นพิเศษ แต่พอเข้าโหมดชีวิตจริง รู้สึกว่าสถาปัตย์ไม่ได้ทำเพื่อสังคมเลย เราใช้วิชาไปทำบ้านให้คนมีเงินกันมากกว่า ผมว่ามันย้อนแย้งอยู่เหมือนกัน” คุณชัช-ชัชวาล สุวรรณสวัสดิ์ สถาปนิกหนุ่มในวัยสามสิบกว่า เริ่มบทสนทนากับ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” อย่างนั้น เจ้าของเรื่องราวครั้งนี้ พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ ดีกรีปริญญาตรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ประกอบอาชีพสถาปนิกเป็นงานหลัก ชอบงานขีดเขียน เคยออกพ็อกเก็ตบุ๊กของตัวเองมาแล้ว 2 เล่ม ปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจรับออกแบบ ใช้ชื่อว่า Everyday Architect & Design Studio “เป็นสถาปนิกที่ชอบเขียนหนังสือเรื่องสังคม เรื่องคนจนเมือง ช่วงที่ออกจากงานประจำ ได้ไปทำงานชุมชน แนวสถาปนิกชุมชนลงพื้นที่คล้ายๆ เอ็นจีโอ แต่ไม่เข้มข้นขนาดนั้น โดยจะมีโจทย์สำรวจไปตามพื้นที่ต่างๆ แล้วคิดหาวิธีออกแบบเพื่อแก้ปัญหา สุดท้ายมีหนังสือตีพิมพ์ออกมา 2 เล่ม เล่มแรก ชื่อ อาคิเต็ก-เจอ และ สถาปัตยกรรม คณะเรี่ยราด” คุณชัช ย้อนประวัติให้ฟัง กระทั่งช่วงทำธุรกิจของตัวเอง เขาเริ่มนำงานเขียนที่สนใจเกี่