เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured Exclusive

หนุ่มเมกัน ลาออกจากงานประจำ มาทุ่มเทให้กับสิ่งที่รัก จนสามารถสร้างรายได้ 36 ล้านต่อปี 

หนุ่มเมกัน ลาออกจากงานประจำ มาทุ่มเทให้กับสิ่งที่รัก จนสามารถสร้างรายได้ 36 ล้านต่อปี 

Kyle Needham หนุ่มชาวสหรัฐฯ บุคคลที่เปลี่ยนความหลงใหลให้เป็นธุรกิจที่มีรายได้สม่ำเสมอทุกเดือน

Kyle Needham
Kyle Needham

ในปี 2554 Kyle Needham ได้ร่วมก่อตั้ง Oyster Party บริษัทให้บริการงานปาร์ตี้ส่วนตัว ร่วมกับ Samuel Keller 

แต่ก่อนที่จะเริ่มต้น ​Oyster Party เขาเคยทำงานอยู่ที่ บริษัทขายส่งอาหารทะเล​ในย่านแมนฮัตตัน​ และร้านขายปลีกปลาสดทั้งที่ ​โคลัมบัส เซอร์เคิล ​และ ​แกรนด์ เซ็นทรัล

เขาเริ่มทำงานเกี่ยวกับการปอกเปลือกหอยนางรมในงานปาร์ตี้ทั่วบรูคลิน จนทำให้ความรักที่มีต่อหอยนางรมเริ่มลดลงอย่างมาก เพราะทำบ่อยและกินหอยนางรมเป็นประจำ 

ในปี 2011 เขาจัดงานปาร์ตี้ที่บาร์แห่งหนึ่งในย่านวิลเลียมส์เบิร์ก โดยมีหอยนางรมและล็อบสเตอร์โรล เขาสั่งหอยนางรมมา 1,000 ตัว และทำล็อบสเตอร์โรล 50 ชิ้น ปรากฏว่าล็อบสเตอร์โรลขายหมดภายใน 1 ชั่วโมง ส่วนหอยนางรมก็ขายหมดเกลี้ยงในตอนกลางคืน ตอนนั้นเองที่เขารู้ว่าเขาไปได้สวย หลังจากนั้นเขาก็ยื่นใบสมัครเข้าร่วม Smorgasburg ตลาดอาหารแนวฮิปสเตอร์ และจัดตั้งบริษัท S corp 

หนุ่มเมกัน ลาออกจากงานประจำ มาทุ่มเทให้กับสิ่งที่รัก จนสามารถสร้างรายได้ 36 ล้านต่อปี 

เขาบอกว่า ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือการหาทางเชื่อมต่อกับลูกค้าและผู้บริโภคแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่ลองใช้วิธีแบบค่อยเป็นค่อยไป ทีละคน ซึ่งก็คือการขายให้กับลูกค้าทีละราย เขามั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเขาเสมอ และผู้คนเริ่มชื่นชมในสิ่งที่เขาทำ ซึ่งนำไปสู่ธุรกิจที่มากขึ้น

ในเรื่องของรายได้ เขาบอกว่า 

“เราโชคดีที่เห็นรายได้ต่อเดือนที่สม่ำเสมอตั้งแต่เริ่มต้น แรงผลักดันของเรามาจากความหลงใหล ดังนั้น เราจึงติดต่อบาร์ ตลาด และลูกค้าองค์กรต่างๆ รายได้ของเราตอนนั้นมากกว่าที่เราได้จากงานประจำเสียอีก”

ในปีแรกเขาคิดว่าธุรกิจนี้จะกลายเป็นแค่รายได้เสริมเท่านั้น ถ้าไม่ทุ่มเทให้มัน 100% แน่นอนว่ามันน่ากลัว แต่มันก็คุ้มค่า เพราะหลังจากที่ลาออกจากงาน ทำให้เขาทุ่มเทเวลาให้กับการเติบโตของธุรกิจได้มากขึ้น รายได้ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

ในส่วนของทีมงาน มีสมาชิกประมาณ 15 คน ปัจจุบันเขาได้ขยายกิจการครอบคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด และมีรายได้ประจำปีเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 36 ล้านบาท ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของเขาอย่างมาก

“การที่ได้ทำในสิ่งที่รักและหลงใหล มันทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้ง” เขากล่าว 

เขาบอกว่า ทำในสิ่งที่รักจะทำให้ชีวิตมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ลูกค้าได้ทานหอยนางรมแล้วมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหอยนางรมตัวแรกของเขา หรือความทรงจำเกี่ยวกับการกินหอยนางรมกับครอบครัวในสถานที่และช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง

สุดท้ายเขาได้ฝากคำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนธุรกิจเสริมให้เป็นธุรกิจหลักที่ประสบความสำเร็จไว้ว่า

“ก้าวกระโดดและเชื่อมั่นในตัวเอง ไว้วางใจตัวเองในการตัดสินใจที่ถูกต้องและรู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ อยากรู้อยากเห็นและอย่าชะล่าใจ”

ที่มา entrepreneur 

เผยแพร่แล้วเมื่อ: 14 พ.ค. 2024

Related Posts

เปิดจักรวาล Karun! ปั้นแบรนด์น้องใหม่ เจริญสังขยา, Summer Bowl และ Avery Wong ปี 66 รายได้รวม 100 ล้านบาท  
เปิดเทรนด์ผู้บริโภคยุคนี้ ไม่เน้นถูกสุด แต่ต้อง ‘คุ้มสุด’