รวม 10 แฟรนไชส์น่าลงทุน เดือนตุลาคม ตั้งแต่แบรนด์ติดแกลม-ของกินเล่นฮิตๆ งบหลักหมื่นก็เป็นเจ้าของได้
เข้าเดือนตุลาคม เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีแฟรนไชส์น่าลงทุนมาแนะนำ ทั้งแบรนด์ติดแกลม เครื่องดื่มสุดฮิต หรือของกินเล่นยอดนิยม ไปจนถึงของกินมื้อใหญ่ ให้ทุกคนสามารถสร้างรายได้เข้ากระเป๋าแบบปังๆ อย่างไม่ขาดสาย มีงบหลักหมื่นก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้
โดยแต่ละแบรนด์ล้วนมีความน่าสนใจ สามารถเลือกตามกำลังและความเหมาะสมของผู้ลงทุน จะมีอะไรบ้างมาดูกัน
1. เครปไส้แตก
เครปไส้แตก แบรนด์เครปยอดฮิต ด้วยจำนวนสาขากว่า 700 แห่งทั่วประเทศ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกเจเนอเรชัน ด้วยเครปหลากรสชาติถึง 10 รส ตั้งแต่แป้งชาร์โคล แป้งนมสด แป้งเผือกหอม ไปจนถึงแป้งรสผลไม้และชานม ไส้เครปเน้นๆ เต็มแผ่น ขายได้ทุกทำเล
แพ็กเกจแฟรนไชส์
SET 1 : อุปกรณ์ + ป้ายหน้าร้าน (สำหรับลูกค้าที่มีเคาน์เตอร์อยู่แล้ว)
ราคา : 29,990 บาท
ได้รับอุปกรณ์ครบกว่า 100 รายการ พร้อมป้ายหน้าร้าน
ฟรี คอร์สเรียนทำเครป 4 ชั่วโมง (สถานที่เรียน : ฉะเชิงเทรา, บางขุนเทียน)
SET 2 : อุปกรณ์ + เคาน์เตอร์
ราคา : 41,990 บาท
อุปกรณ์กว่า 100 รายการ พร้อมเคาน์เตอร์ พร้อมเปิดขายได้ทันที
เรียนทำเครปฟรี พร้อมแนะนำแบรนด์สินค้าวัตถุดิบไส้เครปต่างๆ
SET 3 : อุปกรณ์ + ซุ้มเครปไส้แตก
ราคา : 59,990 บาท
ได้รับซุ้มเครปไส้แตกพร้อมอุปกรณ์ครบกว่า 100 รายการ
ฟรี คอร์สเรียนทำเครป พร้อมเคล็ดลับการเลือกไส้ เพิ่มยอดขาย
ขั้นตอนในการเริ่มต้นธุรกิจ
1. ตรวจสอบทำเล : ส่งทำเลให้เราพิจารณา โดยที่ตั้งร้านต้องห่างจากสาขาอื่นประมาณ 5 กิโลเมตร
2. จองพื้นที่ : หากผ่านการอนุมัติ ชำระมัดจำ 50% ของราคาแพ็กเกจ
3. เรียนทำเครปฟรี : เรียนทำเครป 4 ชั่วโมง สถานที่เรียนที่ฉะเชิงเทรา, บางขุนเทียน หรือเรามีบริการไปสอนถึงที่ (ค่าเดินทาง 15 บาท/กิโลเมตร)
4. รับอุปกรณ์และชำระส่วนที่เหลือ
สิทธิประโยชน์
– ไม่ต้องจ่ายรายปี
– สูตรเครปและแป้งคุณภาพ พร้อมให้คำแนะนำการเลือกซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติม
– ไม่มีระบบผ่อนชำระ ชำระเพียง 2 งวดเท่านั้น
– รอผลิตเคาน์เตอร์/ซุ้ม : ใช้เวลาประมาณ 7-14 วันหลังการมัดจำ
ช่องทางการติดต่อ
โทร. : 085-083-3415
Line : @ZOV7716o
Facebook : เครปไส้แตก เพจหลัก ขายแฟรนไซส์
2. แม่ประณาม
แม่ประณาม ร้านลูกชิ้นที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันขยายสาขา 121 แห่ง ในเวลา 10 เดือน จากความโดดเด่นของหน้าร้านที่ดูทันสมัย การใช้แก้วกระดาษสกรีนลายสุดเท่ รวมถึงการตั้งปล่องภูเขาไฟเพื่ออุ่นน้ำจิ้มรสเด็ดและลูกชิ้นแบบต่างๆ ให้ร้อนอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งน้ำจิ้มของแบรนด์นี้มีรสชาติที่โดดเด่น สามารถเลือกได้ทั้งหวานน้อย, เผ็ดกลาง ที่ผสมพริกคั่วเกาหลี, เผ็ดมาก โรยพริกแห้งแบบไทย และเผ็ดหม่าล่า ที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับลูกชิ้น ในราคาเริ่มต้นไม้ละ 10 บาท
แพ็กเกจเริ่มต้น
แพ็กเกจแรก ราคา : 30,000-50,000 บาท
สิ่งที่จะได้รับ
– คีออสหรือรถเข็นสำหรับตั้งร้าน
– วัตถุดิบเริ่มต้น เช่น ลูกชิ้นหมู, ไส้กรอก, น้ำจิ้ม
– อุปกรณ์การขาย เช่น เตาปิ้ง, อุปกรณ์ทำความสะอาด, ป้ายร้าน
– การฝึกอบรมการจัดการร้าน การปิ้งลูกชิ้น และการทำการตลาดเบื้องต้น
แพ็กเกจขนาดใหญ่
ราคา : 80,000-100,000 บาท
สิ่งที่จะได้รับ
– ร้านแบบคีออสขนาดใหญ่ หรือรถเข็นขนาดใหญ่
– วัตถุดิบในปริมาณมากสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ
– อุปกรณ์การขายครบชุด เช่น เตาปิ้งขนาดใหญ่, ตู้แช่, อุปกรณ์เสริมอื่นๆ
– การสนับสนุนการตลาดเพิ่มเติม เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์
– สิทธิ์ในการใช้แบรนด์ และบริการตรวจสอบคุณภาพสินค้าตลอดอายุการทำธุรกิจ
ช่องทางการติดต่อ
โทร. : 096-986-4555
Facebook : แม่ประณาม
3. MUGO DRINK
MUGO DRINK ร้านเครื่องดื่มพรีเมียม มีเมนูซิกเนเจอร์คือ ชานมไต้หวัน, โกโก้ พรีเมียมเข้มข้น และกาแฟสด ที่เป็นเอกลักษณ์และอีกกว่า 50 เมนู ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มวัย ทำกำไรต่อแก้วสูง ลงทุนน้อย คืนทุนไว พร้อมอุปกรณ์และวัตถุดิบครบเซต เรียนรู้สูตรได้ไม่จำกัด
แพ็กเกจแฟรนไชส์
ราคาเริ่มต้น 39,500 บาท
จุดเด่น
– ลงทุนต่ำ แต่ได้กำไรดี
– ไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์ยอดขาย
– เรียนชงเครื่องดื่มได้ไม่จำกัด
– ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน/รายปี
– สิทธิการใช้เครื่องหมายการค้าฟรี
– มีทีมซัพพอร์ตให้คำปรึกษา 24 ชม.
– พร้อมดูแลตั้งแต่เริ่มต้น จนคุณมีธุรกิจเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
ช่องทางการติดต่อ
Line : 0972040072
โทร. : 097-204-0072
Facebook : MUGO DRINK
4. Mango Mania
Mango Mania แบรนด์สมูทตี้พรีเมียมมะม่วงน้ำดอกไม้ ธุรกิจร้านเครื่องดื่มที่ผสมผสานความสดอร่อยและประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยใช้ผลไม้เกรดส่งออกคุณภาพสูง ที่ผ่านการคัดสรรและส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาผลไม้ไทย
แพ็กเกจแฟรนไชส์
Package Take Away
ราคา : 180,000 บาท
– พื้นที่ขั้นต่ำ 9 ตารางเมตร
– สิทธิ์การใช้เครื่องหมายการค้า 3 ปี
– สิทธิ์ในการใช้สูตรเครื่องดื่มเอกลักษณ์ของ Mango Mania
– การอบรมเปิดร้าน ณ สถานที่จริง
– คู่มือการปฏิบัติงานสำหรับการดำเนินธุรกิจ
– ระบบ POS เชื่อมโยงการทำงานระหว่างสาขา
– การจัดกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์
Package Full Cafe
ราคา : 250,000 บาท
– พื้นที่ขั้นต่ำ 25 ตารางเมตร
– สิทธิ์การใช้เครื่องหมายการค้า 3 ปี
– สิทธิ์ในการใช้สูตรเครื่องดื่มเอกลักษณ์ของ Mango Mania
– การอบรมเปิดร้าน ณ สถานที่จริง
– คู่มือการปฏิบัติงานสำหรับการดำเนินธุรกิจ
– ระบบ POS เชื่อมโยงการทำงานระหว่างสาขา
– การจัดกิจกรรมการตลาดและการประชาสัมพันธ์
– ทุกแพ็กเกจแฟรนไชส์นี้เป็นการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตสูงในตลาดที่ผู้บริโภคต้องการความสดชื่นและสุขภาพ อีกทั้งการใช้ระบบ POS ที่เชื่อมโยงกับสำนักงานใหญ่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารร้าน และการมีทีมงานคอยให้คำปรึกษาและแนะนำให้แฟรนไชซีทุกคนเติบโตไปพร้อมๆ กัน
ช่องทางการติดต่อ
โทร. : 094-494-2696
E-mail : [email protected]
Line : @mangomania
Facebook : Mango Mania Thailand
Website : https://www.mangomania.in.th/
5. Colla Tea
Colla Tea แบรนด์ชานมไข่มุกเพื่อสุขภาพ มีวัตถุดิบพรีเมียมจากไต้หวันและคอลลาเจนคุณภาพดี ดึงดูดลูกค้าทุกกลุ่ม ใช้ใบชาเอิร์ลเกรย์แท้ นำเข้าจากไต้หวัน ให้รสชาติกลมกล่อม หอมละมุน ใส่คอลลาเจนเพื่อสุขภาพ ใช้ครีมเทียมมะพร้าว ไม่มีไขมันทรานส์ เมนูหลากหลาย มากกว่า 42 เมนู ราคาเข้าถึงง่าย ต้นทุนต่ำ กำไรสูง
แพ็กเกจแฟรนไชส์
เริ่มต้น 150,000 บาท (คืนทุนประมาณ 4-6 เดือน)
– ให้ลูกค้าหาทำเลและยื่นให้ Colla Tea ประเมินศักยภาพทำเล โดยจะตรวจสอบความเหมาะสมและการทับซ้อนสาขา
– นัดหมายกับ Colla Tea เพื่อคุยรายละเอียดและค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม
– ตกลงเงื่อนไขและชำระค่าแฟรนไชส์ พร้อมเซ็นสัญญาทั้ง 2 ฝ่าย
– ออกแบบร้าน โดยทีม Colla Tea จะทำการออกแบบหน้าร้านตามแบรนด์ พร้อมประเมินค่าก่อสร้างใน 5-7 วัน
– ก่อสร้างและตกแต่ง ใช้เวลา 15-30 วัน ดำเนินการตามแบบที่อนุมัติ
– อบรมการเตรียมชา การบริการลูกค้า บริหารสต๊อก รวมถึงการทำการตลาด
– เปิดร้าน Grand Opening ทำการโปรโมตร้านพร้อมโปรโมชันพิเศษ และโปรโมตผ่านช่องทางออนไลน์
สิ่งที่จะได้รับ
– ไม่มีค่ารายเดือน รายปี
– ป้ายไฟและป้ายเมนู สำหรับร้าน
– อบรมการชงชาและการบริหาร พร้อมเรียนรู้ระบบงานสำหรับพนักงาน 2 วัน
– วัตถุดิบครบชุด : มากกว่า 95 รายการ พร้อมขายทันทีในวันเปิดสาขา
ช่องทางการติดต่อ
โทร. : 086-374-9216, 097-213-7972, 065-601-9222
E-mail : [email protected]
Facebook : Colla tea Thailand ชานมไข่มุกผสมคอลลาเจน
Line ID : @collateathailand
6. วัวล้วนล้วน ไม่มีควายผสม
วัวล้วนล้วน ไม่มีควายผสม มาในคอนเซ็ปต์ นมปั่นจากนมวัวแท้ไม่มีส่วนผสมของน้ำแข็ง เจ้าแรกในประเทศไทย เน้นให้ลูกค้าสัมผัสกับรสชาตินมแท้โดยไม่เปลี่ยนแปลงรสชาติจนหมดแก้ว
โดยมีเมนูซิกเนเจอร์คือ วัวล้วนล้วน ไม่มีอะไรผสม, วัวล้วนล้วน มีโอริโอ้ผสม และวัวล้วนล้วน มีโกโก้ผสม แถมยังมีของทานเล่นอื่นๆ เช่น คุกกี้, บราวนี่, กล้วยอบ, ขนมปังสติ๊กสังขยา รวม 60 กว่าเมนู ในราคาเริ่มต้น 45 บาท
แพ็กเกจแฟรนไชส์
ราคา 200,000 บาท
ขนาดพื้นที่ 9-35 ตารางเมตร
รูปแบบบริการ
– Take Away ใช้พื้นที่น้อย ลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ
– ดีลิเวอรีผ่านแอปพลิเคชัน GRAB FOOD, LINE MAN, Foodpanda, และ Robinhood พร้อมค่า GP เริ่มต้นเพียง 20% เพื่อช่วยเพิ่มกำไรให้กับผู้ประกอบการ
สิ่งที่จะได้รับ
– สิทธิ์ในการใช้แบรนด์ “วัวล้วนล้วน ไม่มีควายผสม” (อายุสัญญา 3 ปี)
– การฝึกอบรมผู้บริหารร้านใหม่
– ทีมงานช่วยจัดการในวันเปิดร้าน
– คู่มือปฏิบัติงานแฟรนไชส์และสูตรอาหาร
– สื่อการตลาดสำหรับการเปิดร้าน
– ช่องทางขายทั้งหน้าร้านและดีลิเวอรีออนไลน์
– อัปเดตเมนูใหม่ฟรีตลอดอายุสัญญา
ช่องทางติดต่อ
Line : @wuabhfoods
Facebook : วัวล้วนๆ ไม่มีควายผสม
7. อ้วนนะ หมูกรอบชาชู
อ้วนนะ หมูกรอบชาชู มาพร้อมกับเอกลักษณ์ของเมนูฟิวชัน หมูกรอบแบบฮ่องกง ผสมผสานกับหมูชาชูสไตล์ญี่ปุ่น สูตรหมูกรอบชาชูนี้ถูกคิดค้นโดยทีมเชฟผู้ก่อตั้ง 3 พี่น้อง ที่มีประสบการณ์การทำอาหารระดับสากลมาจากออสเตรเลีย ด้วยจุดเด่นของหมูโคจิบุตะที่เลี้ยงด้วยธัญพืชหมัก ทำให้หมูมีเนื้อนุ่มและมันน้อย กรอบนอกนุ่มในอย่างลงตัว
แพ็คเกจการลงทุนแฟรนไชส์
Package Take away / Food Court
– 15 ตารางเมตรขึ้นไป
– 300,000 บาท
– สิทธิ์การใช้เครื่องหมายการค้า “อ้วนนะ หมูกรอบชาชู”
– สื่อ/กิจกรรมสนับสนุนการตลาดเปิดร้าน
– หลักสูตรการฝึกอบรมพนักงานทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
– ทีม SET UP ดูแลหน้างานให้ราบรื่นในวันเปิดร้าน
– หลักสูตรวิธีการทำ พร้อมคู่มือปฏิบัติการระบบแฟรนไชส์
– ทีมงานที่ปรึกษา และ Audit ตรวจสอบคุณภาพตลอดอายุสัญญา
– พร้อมเมนูใหม่ๆ อัปเดตให้ฟรี ตลอดอายุสัญญา
– ช่องทางขายทั้งแบบหน้าร้าน และแบบ Online Delivery
– พร้อมเมนูใหม่ๆ อัปเดตให้ฟรี ตลอดอายุสัญญา
– ฟรี ไม่มีค่าต่อสัญญา (อายุสัญญา 3+3 ปี)
Package Restaurant
– 60 ตารางเมตรขึ้นไป
– 390,000 บาท
– สิทธิ์การใช้เครื่องหมายการค้า “อ้วนนะ หมูกรอบชาชู”
– สื่อ/กิจกรรมสนับสนุนการตลาดเปิดร้าน
– หลักสูตรการฝึกอบรมพนักงานทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
– ทีม SET UP ดูแลหน้างานให้ราบรื่นในวันเปิดร้าน
– หลักสูตรวิธีการทำ พร้อมคู่มือปฏิบัติการระบบแฟรนไชส์
– ทีมงานที่ปรึกษา และ Audit ตรวจสอบคุณภาพตลอดอายุสัญญา
– พร้อมเมนูใหม่ๆ อัปเดตให้ฟรี ตลอดอายุสัญญา
– ช่องทางขายทั้งแบบหน้าร้าน และแบบ Online Delivery
– พร้อมเมนูใหม่ๆ อัปเดตให้ฟรี ตลอดอายุสัญญา
– ฟรี ไม่มีค่าต่อสัญญา (อายุสัญญา 3+3 ปี)
ช่องทางการติดต่อ
Facebook : แฟรนไชส์ อ้วนนะ หมูกรอบชาชู
Line : @aunan
E-mail : [email protected]
โทร. : 061-897-8994
8. อ้วนนะ Express
อ้วนนะ Express เป็นร้านบุฟเฟต์สุกี้หม่าล่าสายพาน มีเมนูฟิวชันเด่นที่หมูกรอบชาชูสูตรเฉพาะ พร้อมหมูชาชูย่าง หมูแดง และเป็ดย่าง รวมวัตถุดิบพรีเมียมกว่า 60 รายการ น้ำซุปให้เลือกหลากหลายทั้งซุปหม่าล่าสไตล์จีน ซุปทงคัตสึ ซุปน้ำดำ ซุปมะเขือเทศ และซุปเห็ดหอม โดยเริ่มต้นราคาเพียง 299 บาท/คน บริการในบรรยากาศสายพานสบายๆ สำหรับทุกวัย
แพ็กเกจแฟรนไชส์
ร้านสุกี้สายพานขนาดเล็ก (20 ที่นั่ง)
– ราคา : 390,000 บาท (ไม่รวม VAT)
– พื้นที่ : 80-100 ตารางเมตร
– สนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งเลือกทำเล ออกแบบร้าน ระบบ POS และครัวกลาง ควบคุมมาตรฐานให้เหมือนกันทุกสาขา
ร้านสุกี้สายพานขนาดมาตรฐาน (40 ที่นั่ง)
– ราคา : 390,000 บาท (ไม่รวม VAT)
– พื้นที่ : 120-150 ตารางเมตร
– รองรับระบบ POS และการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มีทีมที่ปรึกษาดูแลคุณภาพตลอดอายุสัญญา
– ทุกแพ็กเกจรวมการฝึกอบรมพนักงาน ระบบการตลาด ครัวกลาง และการสนับสนุนธุรกิจทุกขั้นตอน พร้อมให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในธุรกิจอาหารบุฟเฟต์ที่กำลังเติบโต
ช่องทางการติดต่อ
Facebook : แฟรนไชส์ อ้วนนะ หมูกรอบชาชู
Line : @aunan
E-mail : [email protected]
โทร. : 061-897-8994
9. Beard Papa’s
Beard Papa’s แบรนด์ครีมพัฟ น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดร้านครีมพัฟ เพราะ “Beard Papa’s” มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1999
รายละเอียดการลงทุน
– ค่าแฟรนไชส์ 200,000 บาท
– ค่า Ingredient Deposit 180,000 บาท
– Royalty Fee : 5% จากรายได้
– งบลงทุน 1.5 ล้านบาท
– พื้นที่ร้านค้าขนาดเล็กเพียง 6 ตารางเมตร
สิ่งที่คุณจะได้รับ
– ร้าน Pop-up ขนาด 3x2x3 เมตร พร้อมเริ่มขายใน 4 เดือน
– ระบบการดำเนินงานภายในร้านที่ทันสมัย คัสตาร์ดและพายพัฟทำสดใหม่ทุกวัน
– การอบรมพนักงาน การจัดการวัตถุดิบ และการสนับสนุนทางการตลาด
– ขั้นตอนการก่อสร้างร้านและการเปิดร้านสามารถเสร็จสิ้นได้ภายในไม่กี่เดือน
– การสนับสนุนการเปิดร้าน เช่น โปรโมชันออนไลน์และการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย
ช่องทางการติดต่อ
Facebook : Beard Papa’s Thailand
Line : Beardpapasth
10. TORA CHA
TORA CHA แบรนด์ชานมไข่มุก ที่เกิดจากความชอบในการดื่มชาและการสำรวจร้านชาต่างๆ ของผู้ก่อตั้ง จนกระทั่งเริ่มต้นธุรกิจร้านชาไทยและพัฒนาเพิ่มกาแฟสดจากอาจารย์ที่เป็นแชมป์บาริสต้าไทย ด้วยประสบการณ์กว่า 12 ปี หลังจากพบว่าผู้ก่อตั้งป่วยเป็นมะเร็ง จึงหันมาใส่ใจเรื่องการทำเครื่องดื่มที่สด สะอาด และลดน้ำตาล กลายเป็นแบรนด์ “โทระฉะ” ที่เน้นความใส่ใจต่อสุขภาพ ผู้บริโภคสามารถดื่มได้ทุกวัน ในราคาที่เข้าถึงได้ โทระฉะเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เป็นธุรกิจที่รวมความชอบกับการดูแลสุขภาพไปพร้อมๆ กัน
ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น
– 195,000 บาท สำหรับแฟรนไชส์ S (ชานม, อิตาเลียนโซดา, วอฟเฟิล)
– 250,000 บาท สำหรับแฟรนไชส์ M (ชานม, ชาผลไม้, กาแฟสด, อิตาเลียนโซดา, สมูทตี้, วอฟเฟิล)
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
– ค่าธรรมเนียม 4,000 บาท/เดือน เริ่มเก็บตั้งแต่เดือนที่ 4
– ค่าการตลาดที่เกิดขึ้นตามการออกแคมเปญร่วมกัน
– ค่าก่อสร้าง งานป้าย, เครื่องใช้ไฟฟ้า
สิ่งที่จะได้รับ
– อุปกรณ์และวัตถุดิบ
– ชุดเครื่องชงกาแฟสด 1 หัว, เครื่องบดเมล็ดกาแฟ, เครื่องปั่นสมูทตี้
– ชุด POS พร้อมลิ้นชักเก็บเงิน และฟรีซอฟต์แวร์ 3 เดือน
– เครื่องซีลฝาแบบ Auto
– อบรม 5 วัน สำหรับ 4 คนต่อ 1 สาขา เน้นการเรียนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติตัวต่อตัว
– มีคู่มือ Operation Guide ครอบคลุมทุกขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ
– บริการส่งเสริมการตลาดและบริการอื่นๆ
– สร้างเพจร้าน Facebook แยกตามสาขา พร้อมอัปเดตคอนเทนต์ทุกเดือน มูลค่า 5,000 บาท
– ปักหมุด Google My Business (Google Map) มูลค่า 5,000 บาท
– โปรโมตโพสต์เพื่อสร้างการรับรู้บน Social Media
– บริการวางแผน Soft Opening และ Grand Opening มูลค่า 10,000 บาท
– บริการวางระบบ POS (25,000 บาท) ระบบบัญชีและคลังสินค้าแบบออนไลน์ Real-Time
– ระบบรองรับ Food Delivery และการชำระเงินแบบ Cashless Payment
รูปแบบร้านแฟรนไชส์
– Cafe Shop : มีที่นั่งบริการ, เบเกอรี่, เค้ก และอาหาร
– Grab & Go : ร้านที่ไม่มีที่นั่ง
– Food Truck : รถเคลื่อนที่ได้ รูปแบบที่ลงทุนต่ำแต่ตอบโจทย์การขายในหลายพื้นที่
– ค่าต่อสัญญา : 50,000 บาท ต่อสัญญาทุก 2 ปี
– ระบบไฟภายในรถ (สำหรับ Food Truck) : มีทั้งระบบโซลาร์เซลล์และไฟบ้าน 220V รองรับเครื่องใช้ต่างๆ
– มีการร่วมทำการตลาดกับ DTAC, TRUE และธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมยอดขายของแต่ละสาขา
– การรับประกันและบริการหลังการขาย
– มีการตรวจสอบมาตรฐาน (Audit) ของสาขา และบริการจัดหาพนักงานผ่านช่องทางโซเชียล
– มีบริการดูแลและสนับสนุนธุรกิจของคุณตลอดเวลา ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น
ช่องทางการติดต่อ
โทร. : 095-794-9646, 064-659-3564
Line : @ToraChaTH
Facebook : ToraChaTH
Website : www.torachath.com
ทั้งหมดนี้ เป็นแฟรนไชส์ที่ล้วนน่าสนใจ หากใครกำลังมองหาอาชีพหรืออยากลงทุน สามารถเลือกแฟรนไชส์ได้ตามความเหมาะสม โดยพิจารณาจากองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วยทั้งในด้านทำเล กลุ่มลูกค้า หรือเงินทุนที่มีอยู่ในมือ
อ้างอิงข้อมูลจาก
เพจของแบรนด์
เข้าสู่เดือนเมษาหน้าร้อนกันอีกครั้ง หลายคนเริ่มมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริม หรือลงทุนเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม และบริการอัตโนมัติ ที่ไม่เพียงทำเงินได้เฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น แต่ยังสามารถทำกำไรได้ตลอดทั้งปี วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มี 6 แฟรนไชส์น่าลงทุนในเดือนเมษายนมาแนะนำ มีทั้งของกิน เครื่องดื่ม ไปจนถึงธุรกิจตู้อัตโนมัติ ที่เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้ ลงทุนเริ่มต้นหลักพัน-หลักหมื่น ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ทำได้ Super Steak (ซูเปอร์สเต็กส์) แฟรนไชส์สเต๊ก ที่มาในคอนเซ็ปต์ More Steak More Delicious เป็นมากกว่าสเต๊ก มากกว่าความอร่อย เป็นความตั้งใจที่ทำแบรนด์นี้จากประสบการณ์กว่า 30 ปี เพื่อเป็นแบรนด์สเต๊กสตรีตฟู้ด ที่ใครๆ ก็สามารถทานได้ รสชาติมาตรฐานสากล ผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้น 49 บาท รูปแบบการลงทุน รูปแบบที่ 1 : ราคา 9,000 บาท รูปแบบที่ 2 : ราคา 19,000 บาท รูปแบบที่ 3 : ราคา 29,000 บาท รูปแบบที่ 4 : ราคา 39,000 บาท ช่องทางการติดต่อ Facebook : ซูเปอร์สเต็กส์ Super Steak โทร. : 080-910-8199 ปังไม่สิ้น กลิ่นน้ำนม แฟรนไชส์ท
80 ยังแจ๋ว “ป้าตุ่น” ครีเอเตอร์รุ่นใหญ่ ไม่หยุดเรียนรู้ โชว์ทำขนมบนโซเชียล เป็นขวัญใจคนทุกเจน หากใครติดตามติ๊กต็อกช่อง Patun.preeya จะสัมผัสได้ถึงความน่ารัก และเสียงหวานๆ ฟังเพลินของ ป้าตุ่น-ปรียา อุทัยวัชรานันท์ ครีเอเตอร์วัย 80 ปี และเจ้าของ บ้านกาแฟป้าตุ่น ร้านที่ร่วมกันเปิดกับลูกชาย ขายกาแฟและเบเกอรี่ที่ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ ก่อนมาเป็น บ้านกาแฟป้าตุ่น ก่อนหน้านี้ ป้าตุ่นเคยเปิดร้านขายของชำ ซึ่งในสมัยนั้นบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีลูกค้าจากหมู่บ้านตรงข้ามแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย เพราะห้างสรรพสินค้ายังไม่ได้รับความนิยม อีกทั้งการจัดร้านของป้าตุ่นที่คล้ายซูเปอร์มาร์เก็ตก็ช่วยดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี มีความสะอาด หยิบสินค้าง่าย ไม่เหมือนใคร ส่วนพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งของร้าน ป้าตุ่นแบ่งไปเปิดร้านไอศกรีมโฟร์โมสต์ ซึ่งขายอยู่นานกระทั่งแบรนด์เลิกกิจการ ก่อนมีแนวคิดอยากเปิดร้านสะดวกซื้อชื่อดัง แต่ด้วยข้อจำกัดของทำเล จึงไม่สามารถเปิดได้ ทำให้ป้าตุ่นตัดสินใจเลิกกิจการขายของชำไปด้วย จากนั้นป้าตุ่นได้หันมาขายไอศกรีมบัสต์นานร่วมสิบปี จนแบรนด์เลิกกิจการไปอีกราย ประจวบเหมาะลูกชายกับเพื่อนม
จากปัญหาของเล่นล้นบ้าน สู่ Keimen Kids ธุรกิจเช่าของเล่นที่อยากช่วยเซฟโลก เซฟเงินในกระเป๋าพ่อแม่ ไปพร้อมๆ กับเสริมพัฒนาการเด็ก เพราะการซื้อของเล่นให้ลูกในแต่ละครั้ง นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และของเล่นเหล่านั้นอาจรกเต็มบ้านในไม่ช้า อีกทั้งในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้เช่าของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กสักเท่าไหร่ จึงนำมาสู่ไอเดียธุรกิจให้เช่าของเล่นและหนังสือเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก ‘Keimen Kids’ ของหุ้นส่วนทั้ง 3 คนคือ คุณอุ้ม-พิมพ์จุฑา จิระวัฒน์พงศา คุณเกา หลี่ขุยหลิน (Gao Likuilin) และ คุณฝ้าย-พฤดา ตั้งพุทธสิริ ที่ร่วมกันก่อตั้งธุรกิจนี้เมื่อ 2 ปีก่อน ด้วยความตั้งใจอยากสร้าง Circular Economy ให้กับของเล่น คุณอุ้ม เล่าว่า ไอเดียธุรกิจนี้มาจากเพนพอยต์ (Pain Point) ของคุณเกา หุ้นส่วนชาวสิงคโปร์ที่มีลูกเล็กวัยเกือบ 1 ขวบ เขารู้สึกว่าในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้บริการเช่าของเล่นเสริมพัฒนาการ อีกทั้งการซื้อของเล่นมาจำนวนมาก ทั้งซื้อเพราะคิดว่าลูกจะชอบ ซื้อแล้วลูกเล่นครั้งเดียว จนของเหล่านั้นรกเต็มบ้านไปหมด จึงออกมาในคอนเซ็ปต์ให้เช่าของเล่นแบบรายเดือน โดยคิดค่าบริการเช่า เริ่มต้นที่ 700 บาท
ยำจนปัง! จากทำน้ำยำขายเป็นงานเสริม สู่ร้านยำสุดไวรัล “เอ๊ะอะยำ” ยอดขายพีกสุด 50,000 บาทต่อวัน จุดเริ่มต้นจากความชอบทานยำของ คุณดล-วุฒิพงษ์ งาเฉลา และ คุณไก่น้อย-นิรัตน์ งาเฉล ที่ต้องการจะหารายได้เสริมในช่วงที่ทำงานประจำ ทั้งคู่เริ่มจากขายน้ำยำออนไลน์จนกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเปิดเป็นร้าน “เอ๊ะอะยำ” ซึ่งมีเมนูไวรัลคือ “ยำหมูสับล้น” ที่ลูกค้าชื่นชอบและต่างพากันแซวว่าขายเอาสังคมใช่ไหม ปัจจุบันสามารถสร้างรายได้พีกสุด 50,000 บาทต่อวัน และมีลูกค้ามาต่อคิวมากกว่า 250 คิวต่อวัน จุดเริ่มต้นจากน้ำยำออนไลน์ “พวกเราชอบกินยำเลยลองทำน้ำยำขายในช่องทางออนไลน์ดูครับ” คุณดล เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้น หลังจากลองผิดลองถูก ทั้งคู่ได้พัฒนาสูตรน้ำยำของตัวเอง โดยมีการเรียนเพิ่มเติมจากยูทูบ และให้กลุ่มเพื่อนในออฟฟิศได้ลองชิม แม้ในช่วงแรกยอดขายยังไม่สูงมาก ประมาณ 40-50 กล่องต่อวัน แต่ความตั้งใจและการสร้างตัวตนผ่านโซเชียลมีเดียช่วยให้คนเริ่มรู้จักเอ๊ะอะยำมากขึ้น คุณดล เล่าต่อว่า “ตอนนั้นก็ได้มีการเปิดเพจหรือว่าทำการสร้างตัวตนให้กับตัวเอง ให้คนรู้จักมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ว่ารายได้ดี แต่เป็นอาชีพที่ส
เมื่อโลกเต็มไปด้วยทางเลือกและข้อมูลมากมาย มาตรฐานใหม่ในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของพ่อแม่ยุคใหม่จึงเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพสูง แต่ต้องมีนวัตกรรมที่ช่วยให้การเลี้ยงดูสะดวกยิ่งขึ้นและส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก รวมทั้งคำนึงถึงผลกระทบต่อโลก ทำให้สินค้าเด็กมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มาดูกันว่า 5 เทรนด์สินค้าสำหรับเด็กปี 2025 มีอะไรบ้าง 1. สินค้าปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกสินค้าของพ่อแม่ยุคใหม่ไม่เพียงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยต่อเด็กๆ แต่ยังต้องดีต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สร้างสังคมและโลกที่ดีกว่าสำหรับลูกหลานในอนาคต ทำให้ตระหนักถึงผลกระทบทั้งในแง่ของสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรงและกำลังพัฒนา พ่อแม่จึงเลือกสินค้าที่ปลอดภัยจากสารเคมีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องเด็กจากอันตรายทั้งต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกอาหารที่ปลอดสารเคมีและมาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายออร์แกนิก หรือของเล่นที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งการใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยังเป็นการสอนให้เด็กเติบโตขึ
