อาชีพเสริมสุดปัง! ขนมครกบางกรอบ สูตรต้นตำรับนครสวรรค์ เปิดเดือนเดียว ไวรัลหนัก ขายดี 2,500 ชุด
HommKok (หอมครก) ร้านขนมครกบางกรอบที่กำลังเป็นไวรัล หลังเปิดหน้าร้านย่านบรรทัดทองมาได้ 1 เดือนเต็ม และขายไปแล้วรวม 2,500 ชุด
โดยแบรนด์นี้มีเจ้าของร่วมกัน 3 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยม แม้ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงานประจำ แต่ก็สามารถหาเวลามาปั้นธุรกิจร่วมกันได้อย่างลงตัว เปิดตลาดให้ขนมหน้าใหม่อย่างขนมครกบางกรอบที่หลายคนไม่คุ้นตาให้เป็นที่รู้จัก

ขนมวัยเด็กสู่ธุรกิจ
คุณชลธิชา สวัสดี หรือ ออย คุณตะวัน บุญยัง หรือ เพื่อน และ คุณอนุสรา คงห้วยรอบ หรือ โบ 3 หุ้นส่วนเจ้าของแบรนด์หอมครก วัย 27 ปี เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมที่จังหวัดนครสวรรค์ พวกเธอชอบกินขนมครกบางกรอบของป้าต้อย ซึ่งเป็นสูตรต้นตำรับของจังหวัดนครสวรรค์มากๆ
แต่เมื่อเรียนมหาวิทยาลัย และต่างแยกย้ายกันไปทำงานประจำด้านทนาย ธุรกิจส่วนตัว และนักบัญชี ทำให้การกินขนมครกเมนูโปรดในวัยเด็กไม่ง่ายเหมือนเดิม แต่มิตรภาพของทั้ง 3 คนยังแน่นแฟ้นเหมือนเดิม เพราะมีการนัดเจอกันทุกปี
จนกระทั่งได้มีโอกาสรวมตัวไปทานขนมครกป้าต้อย ร้านในวัยเด็กที่คิดถึงอีกครั้ง
“ขนมครกป้าต้อยยังอร่อยเหมือนเดิม พวกเราเลยอยากให้คนกรุงเทพฯ และคนส่วนใหญ่ได้ลองชิม” คุณออย บอกถึงความคิดของเธอและเพื่อนๆ

จากนั้นจึงได้ติดต่อป้าต้อย เพื่อเล่าแนวคิดการสร้างแบรนด์ให้ฟัง ซึ่งป้าต้อยก็เข้าใจในแนวคิด พร้อมสอนสูตรขนมครกให้ทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่วิธีการผสมแป้ง วิธีการหยอดแป้ง การแคะ การควบคุมไฟให้มีอุณหภูมิเหมาะสม การกวนไส้กะทิ ชาไทย รวมถึงเทคนิคต่างๆ ที่ทำให้ขนมครกบางและกรอบ
“ถึงพวกเราจะทำงานประจำ แต่ก็พยายามจัดสรรงานของตัวเอง แล้วนัดเวลาล่วงหน้า 2 อาทิตย์ เพื่อไปเรียนสูตรพร้อมกันที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เรียนเสร็จก็กลับมาฝึกทำ ระหว่างนั้นขั้นตอนไหนติดขัดหรือมีข้อผิดพลาดก็ติดต่อหาป้าต้อยตลอด โดยผ่านพี่เจี๊ยบที่เป็นคนในครอบครัวของป้า เพื่อช่วยกันปรับแก้
จนเราสามารถทำได้คล่อง แป้งกับไส้กะทิของเรายังเป็นสูตรต้นตำรับ 100% ส่วนไส้ชาไทย เราเอามาพัฒนาใหม่ให้เข้ากับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ด้วยการเพิ่มความเข้มของชาไทย และลดความหวาน และเพิ่มไส้ใบเตยเข้ามาเป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้า
เมื่อลูกค้าได้ทานจะสัมผัสได้ถึงความบางกรอบ ความเข้ากันได้ดีของไส้กะทิ ชาไทย ใบเตย ที่ท็อปปิ้งด้วยมะพร้าวอ่อนจากสวน รวมทั้งรสชาติไม่หวานแสบคอ ทำให้สามารถทานได้เรื่อยๆ” คุณออย เล่าให้ฟัง

เปิดร้านหอมครก
หากนับเวลาตั้งแต่เริ่มแนวคิดการสร้างแบรนด์ เรียนสูตร และการหาทำเล พวกเธอใช้เวลาทั้งหมด 6 เดือน และเมื่อนับรวมเงินทุนตั้งแต่วันแรกถึงวันเปิดร้านใช้ไปทั้งหมดเกือบแสนบาท ซึ่งเฉลี่ยกันกับหุ้นส่วน 3 คน
ซึ่งการเปิดหน้าร้านหอมครก คุณออยและเพื่อนๆ ตัดสินใจเลือกทำเลย่านบรรทัดทอง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นทำเลทองที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้
“บรรทัดทอง เป็นเหมือนสถานที่ให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่มาแชร์ไอเดียธุรกิจและเราก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่อยากนำเสนอความแปลกใหม่ให้ลูกค้าได้ทาน ซึ่งการหาพื้นที่เป็นอะไรที่ยากมาก เราใช้เวลาหา 3-4 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เราต้องเรียนสูตรไปด้วย มีแอบท้อเหมือนกันว่าเราจะได้ขายกันจริงๆ ใช่ไหม
จนได้พื้นที่ชั่วคราว เจ้าของที่เขาแบ่งให้เช่า แถวสเต๊กลุงหนวด ซึ่งสัญญาใกล้หมดแล้ว แต่เราก็มองหาทำเลใหม่ไว้ ถ้าลูกค้าหาเราไม่เจอ ไปเจอกันได้ที่ซอย 14” คุณออย เล่าเสริม
ส่วนการดีไซน์ร้าน คุณออยและเพื่อนๆ ช่วยกันวางคอนเซ็ปต์ให้มีความน่ารัก จำง่าย มีมาสคอตเป็นโลโก้ เพราะขนมครกที่ขายไม่ใช่สไตล์โบราณ จึงวางเป็นคอนเซ็ปต์นี้

ออร์เดอร์ปังกว่า 200 ชุด
เมื่อถึงวันเปิดร้าน คุณออยกับเพื่อนนำวัตถุดิบไปไม่เยอะ เพราะอยากทดลองตลาด จึงนำไปขายเพียง 50 ชุด ในราคาชุดละ 65 บาท
“ตอนแรกกลัวว่าคนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราพยายามนำเสนอ เลยพยายามพรีเซนต์ลูกค้าว่านี่คือขนมครกบางกรอบ จะมีไส้กะทิ ชาไทย ใบเตย มีมะพร้าวอ่อนโรยหน้า ซึ่งลูกค้าก็น่ารักมาก เขาพร้อมเปิดใจและกล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ พอมีคนแรกเข้ามา ก็ตามกันมาเรื่อยๆ ทำให้วันแรกขายหมด 50 ชุด”
นอกจากนี้ ยังทำคอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดียควบคู่ เพื่อโปรโมตร้านให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเสริมอีกช่องทาง
“โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลมากสำหรับยุคนี้ และเราโชคดีมาก มีเพจใจดีช่วยลงคอนเทนต์ให้ ทำให้ลูกค้าให้ความสนใจร้านเยอะมากขึ้น ประกอบกับลูกค้าบอกปากต่อปาก ทำให้ปัจจุบันมีออร์เดอร์เพิ่มขึ้น”
ส่วนการเปิดร้าน หากเป็นวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เปิดตั้งแต่ 5 โมงครึ่งถึง 4 ทุ่ม ไม่เกิน 4 ทุ่มครึ่ง ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 5 โมงครึ่ง ถึง 5 ทุ่ม

ความภูมิใจ
สุดท้ายนี้ ถามถึงความภูมิใจในร้านหอมครกที่เปิดได้ 1 เดือน คุณออย เป็นตัวแทนบอกว่า “พวกเราภูมิใจมาก จากที่เราพูด แล้ววางแผนกันคร่าวๆ จนร้านเป็นรูปเป็นร่าง มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนและชอบในเมนูของเรา ชมว่าอร่อย มีหลายเพจมาถ่าย มีคนเอ็นดูเรา เลยภูมิใจมากๆ ที่เราปั้นแบรนด์นี้จนเปิดร้านได้สำเร็จ”
ติดตามรายละเอียดได้ที่ เพจ Hommkok