ย้อนไปราวปลายปี 2566 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ 11 ด้าน โดยหนึ่งในนั้นได้มอบหมายให้ นายชุมพล แจ้งไพร หรือ “เชฟชุมพล” คนดังแห่งวงการอาหารไทย เป็นประธานอนุกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มีหน้าที่รวบรวมข้อมูลและจัดทำนโยบายและแผน พร้อมทั้งแนวทางและมาตรการในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมด้านอาหาร
ผ่านไปเกือบ 2 ปี การทำหน้าที่ของอนุกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติไปถึงไหน ระหว่างทางต้องเจอกับปัญหาอุปสรรคอะไร และอีกไกลแค่ไหนจะถึงเป้าหมาย วันนี้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ชวนมาหาคำตอบ
“เป้าหมายของการขับเคลื่อน Soft Power อาหารไทย แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ส่วนที่หนึ่ง พัฒนาคน-ผลิตภัณฑ์ สอง พัฒนาธุรกิจ และ สาม พัฒนาการตลาด” เชฟชุมพล เกริ่นอย่างนั้น
ก่อนขยายความให้ฟัง การพัฒนาคน คือคนที่ทำอาหารไทย หากจะเป็นมืออาชีพ นอกจากทำอาหารเป็นแล้วต้องบริหารเป็นด้วย ซึ่งประเด็นจะทำอย่างไรให้พวกเขา “บริหารร้านอาหารเป็น” นั้น ต้องใช้องค์ความรู้ในการทำธุรกิจ อาทิ กฎหมายการลงทุนในโซนต่างๆ การคิดคำนวณต้นทุน การทำบัญชี ฯลฯ
ส่วนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ คือทำอย่างไรให้วัตถุดิบหลักพวกพืชผลทางการเกษตร อย่าง พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด โหระพา กะเพรา ฯลฯ ต้องได้มาตรฐานและสามารถส่งออกไปได้ทั่วโลก แต่ทุกวันนี้ ยังมีปัญหาเพราะโดนกีดกันทางการค้าบ้าง ผลผลิตมีสารตกค้างบ้าง ฉะนั้น ต้องสร้างองค์ความรู้ในเรื่องเหล่านี้ด้วย
เชฟชุมพล ขยายความต่อถึงงานสำคัญประการที่สอง “การพัฒนาธุรกิจ” คือต้องการสร้างผู้ประกอบการร้านอาหารไทยรายใหม่ โดยเข้าไปช่วยสนับสนุนในแง่ของงบลงทุน ซึ่งอาจจัดตั้งเป็นกองทุนส่งเสริมการลงทุน หรือหาแนวทางทำอย่างไรให้ธนาคารปล่อยกู้ผู้ประกอบการที่อยากไปเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศ
“ปัจจุบันร้านอาหารไทยมีอยู่ทั่วโลกประมาณ 20,000–25,000 ร้าน แต่เราจะขับเคลื่อนภายใน 5 ปี นับจากนี้ ต้องมีร้านอาหารไทยทั่วโลก 1 แสนร้าน
“ลองนึกภาพ ร้านอาหารไทย 1 ร้าน มีคนไทยทำงานอย่างน้อย 2 คน ถ้ามีร้านอาหารไทยทั่วโลก 1 แสนร้าน แปลว่ามีคนไทย 2 แสนคน ไปทำงานร้านอาหารไทยในต่างประเทศ และแรงงาน 1 คน สามารถทำเงินเฉลี่ยปีละ 1 ล้านบาทแน่ๆ นั่นหมายความว่าในปีหนึ่งจะมีรายได้ 2 แสนล้าน ที่คนไทยได้ประโยชน์” ประธานอนุกรรมการคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ระบุ
สำหรับงานด้านที่ 3 เกี่ยวกับการทำการตลาดนั้น เชฟชุมพล บอก อาจต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ก เข้ามาช่วยใช้เครื่องมือเทคโนโลยีปัจจุบัน อย่าง AI ช่วยทำให้กลุ่มธุรกิจร้านอาหารไทยเข้าถึงการรับรู้ของผู้บริโภคได้ทุกซอกทุกมุมของโลกใบนี้
“คำว่าซอฟต์พาวเวอร์ คือ ไปทำให้คนรัก คนชอบ โดยไม่ต้องบังคับ แต่จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศได้อย่างไร ก็มีงาน 3 ส่วนหลักที่กล่าวมา ถามว่าง่ายไหม ตอบเลยว่าไม่ง่าย และเรื่องท้อมีเสมอ แต่มองข้าม และพยายามเดินหน้าต่อไปถึงเป้าหมายที่วางไว้” เชฟชุมพล บอกอย่างนั้น
ก่อนเผยถึงอุปสรรคปัญหาสำคัญในการทำงานใหญ่ครั้งนี้
“กรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ส่วนมากมาจากภาคเอกชน แต่เงินทำงานจะตกไปที่องค์กรรัฐ คนมีอำนาจในการสั่งจ่ายคือผู้นำองค์กรรัฐนั้นๆ พอเอกชนต้องการนำเงินไปทำงานแต่คนจ่ายเงินไม่เห็นด้วย แล้วจะขับเคลื่อนยังไง ที่ผ่านมาพยายามทำความเข้าใจ ทำงานกันอย่างการให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่งานบางอย่างต้องยอมรับว่ารอไม่ได้” เชฟชุมพล ทิ้งท้าย