เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured News สูตรลับจากฟาร์ม

เปิดสูตรสำเร็จ THAPSAKAE SELECT พลิกสวนมะพร้าวแกง สู่มะพร้าวกะทิพันธุ์แท้ 100% ต่อยอดด้วยนวัตกรรม-ทำตลาดออนไลน์ สร้างรายได้เพิ่ม

ที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คือจุดกำเนิดของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการเกษตรกรรมไทย โดยเฉพาะในแวดวงการผลิตมะพร้าวกะทิ หนึ่งในผลผลิตที่หายากและมีมูลค่าสูง เกษตรกรรุ่นใหม่ในพื้นที่แห่งนี้ คือ คุณต้น – สมภพ แซ่ลิ้ม เกษตรกรสวนมะพร้าวกะทิล้วนได้ใช้ความรู้ ความกล้า และความเชื่อมั่นในการต่อยอดสวนมะพร้าวพื้นเมืองเดิม สู่การพัฒนา “มะพร้าวกะทิพันธุ์แท้” ผ่านเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ร่วมมือกับนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

คุณต้น เล่าให้ฟังว่า อดีตเดิมของสวนมะพร้าวในพื้นที่แห่งนี้ ครอบครัวได้ปลูกมะพร้าวแกงแบบดั้งเดิม ซึ่งต้องเผชิญกับราคาที่ผันผวนและปัญหาผลผลิตตกต่ำ ทำให้เมื่อได้กลับมาอยู่บ้านและต้องการต่อยอดสวนแห่งนี้ จึงเริ่มตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรให้สวนมะพร้าวของบรรพบุรุษก้าวข้ามข้อจำกัดดังกล่าวได้ คำตอบที่พบคือ “มะพร้าวกะทิ” พืชที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่วัยเด็กและรับรู้ว่ามีความพิเศษในตลาด เป็นของฝากที่หายากและสร้างความตื่นตาให้กับผู้พบเห็น

จากการคัดเลือกพันธุ์ สู่การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

สำหรับการคัดเลือกสายพันธุ์มะพร้าวให้กลายเป็นมะพร้าวกะทิล้วน ในระยะเริ่มต้นการปลูกมะพร้าวกะทิ คุณต้นยังอาศัยวิธีคัดเลือกต้นพันธุ์จากต้นดั้งเดิม นำต้นที่เคยให้ผลเป็นกะทิมาเพาะต่อ แต่ปัญหาคือไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ผลผลผลิตที่ได้จากการปลูกใหม่จะให้ผลเป็นกะทิหรือไม่ ซึ่งความสำเร็จมีอยู่เพียง 10-20% เท่านั้น หากจะทำการขยายพันธุ์ในเชิงพาณิชย์มีความเสี่ยงสูงในเรื่องของการคาดการณ์ผลผลิต 

“สิ่งที่เราเจอคือมันไม่สามารถให้ผลผลิตเป็นไปตามที่เราคาดหวัง เราอาจจะต้องปลูกจำนวนเยอะหน่อย คัดเพาะจากต้นที่เป็นกะทิก็จริง แต่เวลาปลูกไม่ใช่ว่าทุกต้นจะได้ผลกะทิ มันจะมีบางต้นเท่านั้น อย่าง 1 ทะลายเจอ  1 ต่อ 5 หรือ 1 ต่อ 10 ที่จะเจอ และต้นที่เจอก็เจอไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น มันทำให้เราคาดการณ์ผลผลิตได้ยาก เราเลยมองหาลองศึกษาดูครับว่า ให้เราสามารถคาดการณ์ผลผลิตได้มากขึ้น”  

เมื่อเห็นถึงข้อจำกัดในเรื่องนี้ คุณต้นได้ตัดสินใจศึกษาแนวทางวิทยาศาสตร์ โดยนำแนวคิดเรื่องการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อไปปรึกษานักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ผลลัพธ์คือการวิจัยที่ทำออกมาสามารถพัฒนาต้นพันธุ์มะพร้าวกะทิแท้ได้สำเร็จ โดยสามารถตรวจสอบพันธุกรรมให้มีความมั่นใจได้ว่า มะพร้าวทุกต้นที่ผ่านการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเป็นกะทิแท้ 100% และสามารถให้ผลผลิตตรงตามที่คาดการณ์ได้

ระบบการปลูกมะพร้าวกะทิ

การจัดการสวนอย่างเป็นระบบเป็นสิ่งสำคัญ 

คุณต้น บอกว่า พื้นที่สวนทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 12 ไร่ โดยแบ่งการปลูกมะพร้าวเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ มะพร้าวพันธุ์ต้นสูง จะปลูกให้ระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 8×8 เมตร และมะพร้าวพันธุ์ต้นเตี้ย ระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 6×6 เมตร สำหรับการเตรียมแปลงมะพร้าวที่ต้องการปลูกใหม่ จะเน้นการเคลียร์พื้นที่ให้ปราศจากตอมะพร้าวเก่า ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของด้วง 

“วัสดุปลูกที่สวนผมจะทำการรองก้นหลุม ก็จะมีปุ๋ยหมักครึ่งกระสอบและก็โดโลไมท์ ใส่ยาป้องกันแมลงรองก้นหลุมนะครับ วัสดุรองก้นหลุมก็จะแค่นี้ครับหลักๆ จากนั้นก็นำต้นมะพร้าวกะทิล้วน ที่มีอายุ 1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปี นำมาปลูกได้ในหลุมที่เตรียมไว้” 

ในเรื่องของการรดน้ำให้กับต้นมะพร้าวกะทิภายในสวน คุณต้นจะใช้การให้น้ำเป็นแบบระบบมินิสปริงเกลอร์หัวประมาณ 100 ลิตรต่อชั่วโมง เนื่องจากในพื้นที่ของอำเภอทับสะแกเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนต่ำ การใช้น้ำจึงต้องใช้อย่างประหยัด เปิดครั้งละประมาณ 30 นาที โดยถ้าเป็นการปลูกในระยะแรกๆ จะรดทุกวัน หรือวันเว้นวัน

ส่วนการใส่ปุ๋ยบำรุงต้นพันธุ์มะพร้าวกะทิ จะใส่ปุ๋ยคอกปีละ 2 ครั้ง โดยถ้าเป็นช่วงที่ต้นเล็กใส่ต้นละครึ่งกระสอบต่อปี พอต้นมะพร้าวผ่านปีที่ 1 ไปแล้ว จะใส่ปุ๋ยคอกปีละ 1 กระสอบ และเมื่อเข้าสู่ปีที่ 2 สามารถใส่ได้ปีละ 2 กระสอบ โดยแบ่งการใส่ถี่เท่าไหร่ได้ยิ่งดี

“มะพร้าวกะทิที่สวน ผมไม่ได้ใส่แต่ปุ๋ยคอกอย่างเดียว ผมจะใส่โดโลไมท์ปีละครั้ง มะพร้าว 1 ต้นใส่ประมาณ 2 กิโลกรัม โรยให้รอบทรงพุ่มเพื่อช่วยปรับค่า pH ของดิน ส่วนปุ๋ยเคมีก็จะมีการใส่ทุก 6 เดือนครั้ง ปุ๋ยเคมีที่ใช้จะมีสูตรหมุนเวียน เช่น สูตร 13-13-21 สูตร 15-5-20 และสูตรเสมอ 16-16-16 ประมาณนี้ครับ”

ผลผลิตและศักยภาพเชิงเศรษฐกิจ

สามารถทำตลาดได้มากกว่าขายผลสด  

มะพร้าวกะทิเมื่อปลูกจนได้อายุ  4-5 ปี ต้นมะพร้าวจะเริ่มให้ผลผลิตได้ ซึ่งการให้ผลผลิตก็จะมีความต่างกันไปตามสายพันธุ์ โดยมะพร้าวพันธุ์ต้นสูงให้ผลผลิต 12 ทะลายต่อปี ส่วนมะพร้าวพันธุ์ต้นเตี้ยจะให้ผลผลิตสูงถึง 15-18 ทะลายต่อปี แต่ละทะลายสามารถให้ผลผลิตอยู่ที่ 6-10 ผล หากมีการให้น้ำและปุ๋ยอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ คุณต้นยังเก็บสะสมสายพันธุ์มะพร้าวกะทิไว้หลากหลายชนิด เช่น กะทิน้ำหอม กะทิไฟหัวชมพู หมูสี กะทิพวงร้อย กะทิทลายร้อย และกะทินกคุ้ม เพื่อเป็นฐานพันธุกรรมสำหรับการพัฒนาในอนาคตต่อไป 

ราคาต้นพันธุ์มะพร้าวกะทิแท้ หรือที่เรียกกันว่าต้นพันธุ์กะทิล้วน ทางสวนคุณต้นได้ผลิตออกมาจำหน่ายอยู่ที่ราคา 2,500 บาทต่อต้น โดยใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ปี ในการเพาะเลี้ยงในห้องแล็บและนำมาปรับสภาพในธรรมชาติจนพร้อมจำหน่าย ความมั่นใจของผู้ซื้ออยู่ที่กระบวนการผลิตที่มีการตรวจสอบพันธุกรรม และอ้างอิงข้อมูลทางวิชาการอย่างชัดเจน

ตลาดบริโภคมะพร้าวกะทิขยายกว้างมากขึ้น

แต่กำลังการผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

สำหรับการทำตลาดจำหน่ายผลสดมะพร้าวกะทิในช่วงแรก คุณต้น เล่าว่า เริ่มจากทำตลาดออนไลน์และคนที่รู้จักในพื้นที่ การจำหน่ายมะพร้าวกะทิมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นแบบเนื้อน้ำใส และน้ำข้นเนื้อฟู ซึ่งกลุ่มน้ำใสผู้บริโภคจะไม่รู้จักมะพร้าวกะทิ เพราะเนื้อจะมีความคล้ายกับมะพร้าวแกงธรรมดา แต่เนื้อน้ำใสจะนำมาทำแช่แข็ง สำหรับร้านขนมหวานร้านเบเกอรี่ ภัตาคารที่ไปใช้ในร้านอาหารต่างๆ 

“มะพร้าวกะทิก็ถือว่ามีการขยายตัวค่อนข้างดี เพราะในช่วงแรกคนที่รู้จักมะพร้าวกะทิ ยังไม่กล้าลองบ้าง ไม่รู้จะเอามาทำอะไรทาน แต่เมื่อมีการโปรโมต ลูกค้าก็พอรู้จักมากขึ้น กล้าเอาไปใช้ในเมนูต่างๆ ของเขามากขึ้น ทำให้ตลาดขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างเนื้อแข็งๆ ตอนนี้ส่งขายผลผลิตประมาณ 2-3 ตันต่อเดือน ถ้าอย่างผลสดหลายพันผลต่อเดือน ขายอยู่ผลละ 130- 220 บาท แล้วต่อไซซ์ครับ” 

บทเรียนและแนวทาง

สำหรับผู้สนใจปลูกมะพร้าวกะทิ 

ปัจจุบันกลุ่มลูกค้ามีทั้งเป็นเกษตรกรที่ปลูกไว้บริโภคเอง และกลุ่มที่ปลูกเพื่อการค้า คุณต้นแนะนำให้ผู้สนใจศึกษาในเรื่องของตลาดในพื้นที่ของตนเองให้ดีก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการลงทุนโดยไม่รู้ทิศทางการจำหน่าย จากนั้นจึงค่อยๆ เรียนรู้และพัฒนาสินค้าต่อไป เพื่อให้การปลูกมะพร้าวกะทิสามารถทำตลาดได้กว้างขึ้น 

บทเรียนสำคัญจากคุณต้นเกษตรกรผู้พัฒนาสวนแห่งนี้ คือการไม่หลงเชื่อเพียงกระแสราคา แต่ต้องยืนอยู่บนความเข้าใจในตลาดและข้อมูลที่ถูกต้อง การลงทุนในมะพร้าวกะทิควรเริ่มจากความรู้ ความพร้อม และการประเมินศักยภาพของพื้นที่ตนเองอย่างรอบด้าน ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า

“ท่านที่สนใจอยากปลูกมะพร้าวกะทิ อันดับแรกเริ่มหาข้อมูลก่อน ไม่ว่าจะเป็นพืชชนิดไหน สิ่งแรกคือหาข้อมูลด้านการตลาด ด้านการปลูกผมว่าหาไม่ยาก แต่ข้อมูลด้านการตลาดต้องหาเรียนรู้ ดูว่าเราจะไปตลาดที่มันใหญ่หรือว่าตลาดที่ในพื้นที่ ถ้าเราสำรวจแล้วเห็นมีช่องทางตลาด ผมว่าก็ทำได้เลย” 

จากสวนมะพร้าวพื้นเมืองในอดีต วันนี้สวนมะพร้าวกะทิครอบครัวของคุณต้นในทับสะแกได้กลายเป็นต้นแบบของการเกษตรสมัยใหม่ ที่ผสานภูมิปัญญาพื้นบ้านกับวิทยาศาสตร์ได้อย่างลงตัว และอาจเป็นหนึ่งในความหวังใหม่ของการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคเกษตรไทยอย่างยั่งยืน 

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thapsakae Select – ทับสะแกซีเล็ค มะพร้าวกะทิแปรรูป หรือช่องทาง line official  : @kati888 หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 096-121-8317

Related Posts