ควาย
นายพงษ์ศักดิ์ ศรีวรกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนหนองบัวลำภู กล่าวว่า ได้ร่วมกับ นายมงกุฎ จำนงค์นิต กรรมการสภาวิทยาลัยชุมชนหนองบัวลำภู พ.อ. ธนาวีร์ วิชาชัย รอง ผบ.กกล.รส.จังหวัดหนองบัวลำภู คณะกรรมการโครงการศึกษาวิจัยการเลี้ยงควายไทยแบบประณีต และกลุ่มอนุรักษ์ควายไทยจังหวัดหนองบัวลำภู แถลงข่าวการเปิดศูนย์อนุรักษ์ควายไทยหนองบัวลำภู ตามโครงการศึกษาวิจัยการเลี้ยงควายไทยแบบประณีต เพื่อการอนุรักษ์สืบสานจังหวัดหนองบัวลำภู กิจกรรม “ทำดีเพื่อพ่อหลวง” ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และอนุรักษ์ควายไทยไว้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของประชาชนไม่ให้สูญพันธุ์ไปจากจังหวัดหนองบัวลำภู “จากข้อมูลของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดหนองบัวลำภู พบว่า ปี 2553 มีควาย 7,360 ตัว ต่อมาปี 2558 ลดลงเหลือ 4,050 ตัว มีแนวโน้มจะสูญพันธุ์ วิทยาลัยชุมชนจึงมีแนวคิดอนุรักษ์ควายไทย โดยตั้งศูนย์อนุรักษ์ควายไทยสวยงามขึ้น เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ สืบสานให้เยาวชนและประชาชนร่วมอนุรักษ์ควายไม่ให้สูญพันธุ์ ขณะนี้กองทุนเพื่อการอนุรักษ์ควายไทยหนองบัวลำภูได้รับทุนจาก นายวิทวัส วธานิโยบล ประธานกรรมการสภาวิทยาลัยชุมชนหน
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดโรคระบาดในกระบือและเริ่มล้มตายเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดที่บ้านเขาด้วน หมู่ 9 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นกระบือเจ้าของเดียวกัน จำนวนทั้งหมด 47 ตัว เบื้องต้นได้ตายแล้ว 19 ตัว ซึ่งกระบือดังกล่าวมีนายสุทัศน์ สมทอง อายุ 31 ปี เป็นเจ้าของ หลังจากเกิดเหตุปศุสัตว์อำเภอกบินทร์บุรี ประสานไปยังปศุสัตว์จังหวัดปราจีนบุรี และปศุสัตว์เขต 2 ชลบุรี เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีกระบือทั้งเพศผู้และเพศเมียนอนตายเกลื่อนทุ่ง รวมถึงที่กำลังจะตายอีกจำนวนมาก จากนั้นนำกระบือที่ตายใส่รถบรรทุก เพื่อทำการฝังกลบต่อไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้าไปควบคุมโรคแล้ว สำหรับกระบือตัวที่ตายได้ทำการใช้วิธีฝังกลบ โดยใช้รถแบ็กโฮขุดหลุมลึกประมาณ 10 เมตร ก่อนนำกระบือที่ตายแล้วทั้งหมดนำมาใส่หลุม ก่อนฝังใช้ปูนขาวโรยลงไปหลุมและฉีดยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันโรคระบาด เบื้องต้นสันนิฐานว่าเป็นโรคคอบวม ขณะนี้ได้ส่งเนื้อเยื่อไปพิสูจน์ที่ปศุสัตว์เขต 2 ชลบุรี พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบและป้องกันโดยแยกกระบือไว้ห่างไกล ด้านนายสุทัศน์ สมทอง เจ้าของกระบือ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้
เมื่อเวลา 22.00 น.วันนี้ 17 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี รายงานว่ามีการแชร์ข้อความและภาพในโลกโซเชียล (เฟรชบุ๊ค) มีเหตุโรคระบาดทำให้เกิดควายตายกะทันหัน รวมจำนวน 19 ตัว สถานที่เกิดเหตุ หมู่บ้านเขาด้วน หมู่ที่ 9 ตำบลย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นจึงได้ติดต่อโทรศัพท์สัมภาษณ์ข้อมูลกับนาย นายวัลลภ ประวัติวงค์ นายอำเภอกบินทร์บุรี นายวัลลภ กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุกระบือหรือควายตายจริง ที่หมู่บ้านเขาด้วน นายสุทัศน์ สมทอง 31ปี 245 หมู่ 9 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในวันนี้หลังได้รับรายงานได้มอบหมายให้ปลัดอำเภออาวุโส อ.กบินทร์บุรีลงพบประชาชน และต่อมาเวลา 18.30 น.ได้ลงพื้นที่ด้วยตนเอง โดยได้ออกให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคระบาดกรณีกระบือตาย ที่หมู่บ้านเขาด้วน หมู่ที่ 9 ตำบลย่านรี โดยพบว่ามีปศุสัตว์จ.ปราจีนบุรี ปศุสัตว์ อ.กบินทร์บุรี นายด่านตรวจสัตว์ และทีมงานสัตว์แพทย์ ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมโรคอย่างเข้มแข็ง ต่อมาได้แจ้ง ให้นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ ผู้ว่าราชการ จ.ปราจีนบุรีทราบ เป็นลายลักษณ์อักษรณ์ ตามรายงานดังนี้คือ เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2559 ได้เกิดเหตุโรคระบาดในกระบ
นายสมบัติ ทำละเอียด นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย เปิดตัว ‘เจ้าเก้ามงคล’ ควายไทย เพศผู้ อายุ 14 ปี สูง 170 เซนติเมตร มีน้ำหนักกว่า 1,300 กิโลกรัม ที่ได้มาใหม่จากจังหวัดชลบุรี เพื่อนำมาพัฒนาศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามในการโคลนน้ำเชื้อ เพื่อสร้างควายไทยรุ่นใหม่ที่สวยงามและสุขภาพดี สำหรับเจ้าเก้ามงคลผ่านการประกวดเป็นควายไทยสุขภาพ และได้แชมป์ ปี 2558 มีลักษณะควายไทยที่สวยงาม คือตรงใต้คอต้องเป็นบั้งสีขาว มีจุดแต้มบนใบหน้า มีข้อเท้าขาว หนังและขนมีสีเทา เทาดำหรือเทาแดง สัดส่วนร่างกายสวยงาม ซึ่งเป็นลักษณะควายไทยชั้นดีจึงอยากพัฒนาสายพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นควายที่มีนิสัยเชื่อง ที่สำคัญยังสามารถเทียมเกวียน ไถนา นายสมบัติ กล่าวว่า ตนอยากจะส่งเสริมให้เกษตรกรหันกลับมาใช้แรงงานควาย เพื่อไถนาและทำการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้สารเคมีตามพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อสร้างรายได้และสร้างความมั่นคงแก่ชีวิตเกษตรกร รวมทั้งในอนาคตได้พัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องควายไทย แล้วยังสร้างการเรีย