บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด
“การล้างมืออย่างถูกวิธี” เป็นการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีในการป้องกันตัวเองจากเชื้อโรค เนื่องจากในแต่ละวันเราใช้มือสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ มากมาย และแม้ว่าปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลงบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ ดังนั้นการรักษาความสะอาดด้วยการล้างมือบ่อย ๆ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด จัดโครงการ LION Handwashing Station “ไลอ้อน สถานีมือสะอาด” เพื่อสนับสนุนตู้ล้างมือ พร้อมผลิตภัณฑ์ โฟมล้างมือคิเรอิ คิเรอิ ให้กับสถานศึกษาในสังกัดเขตยานนาวา โดยได้เล็งเห็นความสำคัญของการล้างมือ ซึ่งโครงการดังกล่าวทางไลอ้อน ประเทศไทย ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลผู้บริโภคให้มีสุขภาวะที่ดีด้วยการปลูกฝังสุขนิสัยการล้างมืออย่างถูกวิธี สอดคล้องกับแนวทางขององค์กรคนดีในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม “นำความดีสู่สังคม สร้างสุขภาวะที่ดีสู่ผู้บริโภค” “บุญฤทธิ์ มหามนตรี” ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจพัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีขอ
เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้า ‘โครงการบริหารช่องปากผู้สูงวัยด้วย Kenkobi’ (ปากสวยสุขภาพดี) โดยร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ชุมชนทุ่งกราด (เทศบาลแหลมฉบัง) อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่ออบรมหลักสูตรการบริหารช่องปากแบบ Kenkobi พร้อมแนะนำวิธีการการดูแลสุขภาพภายในช่องปากให้กับผู้สูงวัยสำหรับการอบรมหลักสูตรการบริหารช่องปากแบบ Kenkobi ที่วิจัยหลักสูตรโดย Dr.Noriko Takei เป็นวิธีการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณช่องปาก ช่วยในการฝึกเคี้ยวอาหาร การฝึกกล้ามเนื้อใช้กลืน กระตุ้นต่อมน้ำลาย และกระตุ้นสมอง โดยต้องทำควบคู่กับการรักษาสุขอนามัยช่องปาก เพื่อป้องกันโรคฟันผุ โรคเหงือก กลิ่นปาก และโรคปอดอักเสบจากการสำลัก หากผู้สูงอายุหมั่นบริหารช่องปากแบบ Kenkobi อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า ผู้สูงอายุที่ได้รับการอบรมและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง มีสุขภาพช่องปากดีขึ้น ลดปัญหาอาหารหล่นจากปาก อาการคอแห้งลดลง การบดเคี้ยวและการกลืนดีขึ้น การสำลักอาหารลดลง
“รางวัลไลอ้อนเพื่อสุขภาพช่องปาก” (Lion Oral Health Award) เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสังคมที่ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นพัฒนาสินค้านวัตกรรม เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางธุรกิจเพื่อนำความดีสู่สังคม สร้างสุขภาวะที่ดีสู่ผู้บริโภค ได้ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง เป็นความร่วมมือกับชมรมทันตสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายเพื่อเชิดชูเกียรติ บุคคล คณะบุคคล หรือสถาบันที่มีผลงานดีเด่นด้านทันตสาธารณสุขและการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากของคนไทย รวมถึงส่งเสริมโครงการทันตสาธารณสุขของไทยให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น นำมาซึ่งการเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี โครงการนี้เป็นความมุ่งมั่นของ นายแพทย์ มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องการส่งเสริมและสร้างให้เกิดผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายสุขภาพในพื้นที่ รางวัลไลอ้อนเพื่อสุขภาพช่องปาก ได้มอบรางวัลไปแล้วทั้งสิ้น 39 รางวัล จาก 28 จังหวัดทั่วประเทศ ผลงานที่ได้รับรางวัลและผลงานที่ส่งเ
การเปิดโอกาสและพัฒนาเยาวชนเข้าสู่ระบบการศึกษา นับว่าเป็นสิ่งที่หลายองค์กรธุรกิจให้ความสำคัญ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจคู่คุณธรรม พัฒนาสินค้านวัตกรรมและโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ความสามารถเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและเป็นผู้นำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในระยะยาว ประสานความร่วมมือกับภาครัฐ และสถาบันการศึกษา ภายใต้โครงการ “อาชีวศึกษาระบบทวิภาคี”ที่ผ่านมา บริษัทฯดำเนินโครงการประสานความร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ จ.ชลบุรี วิทยาลัยการอาชีพแกลง จ.ระยอง ในการจัดการเรียนการสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม สาขาวิชาซ่อมบำรุง และสาขาวิชาเมคคาทรอนิกส์ โดยมีรูปแบบการเรียนการสอนเป็นการเรียนวิชาพื้นฐานที่วิทยาลัย และการเรียนฝึกปฏิบัติที่โรงงานโดยทีมไลอ้อนเป็นผู้สอน “สายชล ศีติสาร” กรรมการบริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในวันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ประจำปี 2565 โครงการ “อาชีวศึกษาระบบทวิภาคี” ว่า “ไลอ้อน ประเทศไทย ได้เริ่มโครงการนี้ตั้งแต่ ปี
บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อคนไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจพัฒนาสินค้านวัตกรรม เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางการนำความดีสู่สังคม สร้างสุขภาวะที่ดีสู่ผู้บริโภค ได้จัด “โครงการ LION Goodness Market – Season 1” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจ SMEs 53 ร้านค้า ให้เดินหน้าต่อไปได้ในช่วงวิกฤต โควิด-19 โดยโครงการดังกล่าว เป็นการมอบสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การช่วยโปรโมทร้านค้า ช่วยโฆษณาสร้างยอดขายผ่านสื่อออนไลน์ รวมไปถึงให้คำแนะนำการทำตลาดออนไลน์ที่ร้านค้าสามารถนำไปใช้ได้จริงทั้งก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการ คุณสมบัติของร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการ มีดังนี้ – เป็นร้านที่มีเฟซบุ๊กแฟนเพจ หรือ มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ อย่างน้อย 3 เดือน – สินค้าภายในร้านต้องเป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย – สินค้าภายในร้านต้องไม่เป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ – เป็นร้านที่ไม่มีประวัติฉ้อโกง หากพบว่ามีการทุจริตจะถูกตัดสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการทันที – เป็นร้านที่มีหน้าร้านหรือภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
“ที่ผ่านมาการตรวจสุขภาพช่องปากมักจะตรวจเพียงแค่ฟันและเหงือก แต่อันที่จริงแล้วยังมีรอยโรคในส่วนของเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก (Oral Soft Tissue) ซึ่งบางรอยโรคก็จัดอยู่ในกลุ่มรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปาก บางรอยโรคก็อาจจะเป็นโรคที่เราไม่อยากให้เกิดไปแล้ว นั่นคือ โรคมะเร็งช่องปาก และจากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบว่า มะเร็งในช่องปาก เป็นโรคที่พบได้บ่อย 1 ใน 10 อันดับต้นๆ โดยในเพศชายพบได้เป็นอันดับที่ 6 ส่วนในเพศหญิงพบได้เป็นอันดับที่ 10” ทพญ.นิรมล ลีลาอดิศร หัวหน้ากลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวถึง ความสำคัญของการตรวจรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากและสถิติของการเกิดโรคมะเร็งช่องปาก ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการดำเนินโครงการ “ชุมชนตื่นรู้คัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปาก:ร้อยเอ็ดโมเดล” โดย “ทพญ.นิรมล ลีลาอดิศร หัวหน้ากลุ่มงานทันตกรรมโรงพยาบาลร้อยเอ็ด และคณะ” ที่เห็นความสำคัญของการตรวจคัดกรองรอยโรคในช่องปาก และมองว่าทันตแพทย์ ไม่ได้เป็นเพียงบุคลากรที่ทำหน้าที่แค่การรักษาเท่านั้น แต่ทำได้มากกว่าในด้านของการส่งเสริมและป้องกันการเกิดโรค จากประสบการณ์ในการปฏิบัติงานที่ได้พบเจอกับคนไข้จำน
แม้จะอยู่ในสถานะผู้พิการ ที่ร่างกายอาจจะไม่ได้สมบูรณ์เฉกเช่นคนอื่นทั่วไป แต่ความพิการนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงต่อการดำเนินชีวิต ขอเพียงได้รับโอกาสจากสังคม ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการสร้างงานสร้างอาชีพ เขาเหล่านี้ก็จะมีกำลังใจและรู้สึกถึงคุณค่าในตนเองมากขึ้น หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เห็นความสำคัญของการสร้างโอกาสให้กับผู้พิการให้มีช่องทางประกอบอาชีพ และหนึ่งในนั้นคือ “โครงการจากการจ่ายสู่การจ้างผู้พิการตามมาตรา 35” โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้อนุเคราะห์ผู้พิการในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการสนับสนุนเป็นจำนวนเงินและการสร้างอาชีพ ซึ่งมีผู้พิการทั่วประเทศจำนวนมากได้รับโอกาสจากโครงการนี้ ทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น “ประสพ ด้วงป้อ” อายุ 45 ปี ไม่ได้พิการแต่กำเนิด แต่เกิดจากอุบัติเหตุตกเขาจนทำให้เส้นประสาทไขสันหลังขาด และต่อมาได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว และได้รับโอกาสจาก บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ให้เข้าทำงานที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านจันทร์ จ.เชียงใหม่ ได้กล่าวเปิดใจถึงความรู้สึกว่า “ได้รับโอกาสที่ดีจาก บริษัทไลอ้อนฯ ให้เข้าทำงานที
บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภค ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 โดยมอบกล่องยังชีพ จำนวน 240 ชุด ซึ่งภายในบรรจุผลิตภัณฑ์อุปโภคที่จำเป็น อาทิ ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากซอลส์ และซิสเท็มมา, ผงซักฟอกเปา, โฟมล้างมือคิเรอิคิเรอิ เพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน (Home Isolation) ในโครงการ “ช่วยด้วย!” ช่วยดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ถึงบ้าน โดย Doctor A to Z แพลตฟอร์มระบบปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระดับสีเขียวและสีเหลือง โดยมีแพทย์จิตอาสากว่า 400 คนให้คำปรึกษาและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถเข้าร่วมโครงการผ่านการแอดไลน์ “ช่วยด้วย” https://lin.ee/I2Za99m และลงทะเบียนด้วยข้อมูลจำเป็น ระบบจะทำการอนุมัติเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป
ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขยายเป็นวงกว้างและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์กำลังต่อสู้กับวิกฤตินี้ สิ่งที่ประชาชนอย่างเราทำได้ก็คือการดูแลตนเองอย่างเข้มข้น อยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ เว้นระยะห่างระหว่างกัน ใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อย ๆ เป็นที่รู้กันดีว่าวิธีที่จะควบคุมการระบาดได้ดีที่สุด คือ ต้องทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนให้เร็วที่สุด แต่ระหว่างที่หลายคนยังต้องรอวัคซีนเพื่อเป็นอาวุธสู้สงครามในครั้งนี้ อีกหนึ่งความหวังที่หลายคนให้ความสนใจนั่นก็คือ สมุนไพร ที่จะเข้ามาเป็นทางเลือกในการช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายจากภายในด้วยวิธีธรรมชาติ เห็นได้จากความนิยมในการรับประทานฟ้าทลายโจร ขิง กระชาย ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ และที่น่าจับตามองมากในตอนนี้ ก็คือ “ตรีผลา” ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ประกอบไปด้วยผลไม้หรือสมุนไพรสามชนิดคือ สมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม เป็นตำรับยาที่มีปรากฏอยู่ในคัมภีร์อายุรเวชของอินเดีย “ตรีผลา” จะเป็นสมุนไพรแห่งความหวังที่จะช่วยต้านโควิด-19 ได้จริงหรือใหม่ มาไขข้อข้องใจจากผู้เชี่ยวชาญที่คลุกคลีอยู่กับกา
นางวรรณา ธรรมร่มดี ผู้จัดการบริหารสำนักกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตัวแทนบริษัทฯ ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งฝ่าวิกฤติเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมอบผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ยาสีฟันซิสเท็มมา, แชมพูคิวลีน, ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ, สบู่ก้อนฟลอเร่, แปรงสีฟันเดนเทอร์ โปรคลีน, แป้งเด็กโคโดโม, ผลิตภัณฑ์ล้างจานไลปอนเอฟเพียวรีฟาย, ผงซักฟอกเปาซิลเวอร์นาโน, สเปรย์ทำความสะอาดมือคิเรอิคิเรอิ, สเปรย์ทำความสะอาดมือเอสเซ้นซ์, ลุคผลิตภัณฑ์สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคสำหรับพื้นผิวอเนกประสงค์ และลุคผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น รวมมูลค่า 500,000 บาท ซึ่งเป็นสิ่งของจำเป็นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และใช้รองรับการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (ดอนเมือง) จำนวน 128 เตียง โดยมี พล.อ.ต.เพชร เกษตรสุวรรณ ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการแพทย์ทหารอากาศ กรมแพทย์ทหารอากาศ ให้เกียรติรับมอบ ณ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้