ปลาส้ม
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เป็นคำกล่าวถึงความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทยในอดีต ด้วยวิถีชีวิตของคนไทยเรามีความผูกพันอย่างลึกซึ้งและแน่นแฟ้นกับแม่น้ำลำคลอง อาหารการกินอย่างปลาน้ำจืดจะหากินได้ไม่ยาก และหาได้ง่ายตามแม่น้ำลำคลอง เพียงแค่มีอุปกรณ์ในการจับปลา อย่าง เบ็ด แห อวน ลงมือลงแรงซักหน่อย ก็จะได้ปลาสดๆ เช่น ปลาช่อน ปลาขี้ขม ปลากระดี่ ปลาหมอ ปลาโสด ปลาซิว ปลาตะเพียน ปลาฉลาด ปลานิล หรือปลาอื่นๆ มาปรุงเป็นอาหารได้แล้ว วันไหนจับปลาได้มาก ก็จะแบ่งปันให้ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนบ้านได้กินกันอย่างทั่วถึงตามนิสัยโอบอ้อมอารีของคนในสมัยก่อน สำหรับส่วนที่เหลือก็จะเอาไปหมักเกลือทำเป็นปลาร้า ปลาส้ม ปลาเปรี้ยว หรือตากแดดย่างรมควัน แล้วแต่ความเหมาะสม ปลาส้ม การแปรรูปอาหารจากปลาชนิดหนึ่งของคนอีสาน เป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการถนอมอาหารจากปลา เมื่อปลาที่หามาได้มีจำนวนมากก็ต้องหาวิธีการแปรรูป เพื่อจะได้เก็บไว้กินนานๆ โดยเอาปลามาหมักกับเกลือ และข้าวสวย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะได้เมนูอร่อยๆ ที่เรารู้จักและเรียกกันว่า ปลาส้ม ปลาเปรี้ยว ส้มปลา นั่นเอง! สามารถนำมาประกอบเป็นอาชีพ และเสริมรายได้ให้ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลาแปรรูปบ้านโพธิ์ตาก ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 บ้านโพธิ์ตาก ตำบลบ้านผือ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น กลุ่มนี้สร้างรายได้จากปลาเส้น ปลาส้มก้อน ปลาส้มตัว และหม่ำปลา เป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็งสร้างรายได้ให้สมาชิกทั้งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้คนในชุมชนและต่างจังหวัด จนเป็นที่รู้จักกันดีในชุมชนเพราะเป็นการขายผลิตภัณฑ์สินค้าที่ทำด้วยคุณภาพจึงเป็นการบอกต่อแบบปากต่อปาก คุณบุบผา สาพรมมา หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม เล่าว่า ปลาเส้นที่ทำขาย วัตถุดิบที่ใช้ทำเป็นปลานวลจันทร์ ปริมาณปลาที่ใช้ผลิตปลาเส้น จะใช้ตกวันละ 400 กิโลกรัมต่อวัน ปลานวลจันทร์จะมีพ่อค้าคนกลางมาส่ง โดยทางกลุ่มจะซื้อกิโลกรัมละ 35 บาท แต่เมื่อทำเป็นปลาเส้นแล้วจะขายกิโลกรัมละ 300 บาท เมื่อได้ปลานวลจันทร์มาแล้วสมาชิกในกลุ่มจะนำปลามาตัดหัว แร่เอาเครื่องในและเอาก้างออก ตัดด้วยกรรไกรเป็นเส้นๆ กลุ่มมีจำนวนสมาชิกจำนวน 30 คน ปัจจุบันเหลืออยู่ 26 คน ตั้งครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2564 ครั้งแรกศูนย์รัตนาภา ที่ตั้งอยู่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นกลุ่มพัฒนาสังคมมาอบรม ตอนแรกคนที่มาจะได้ค่าจ้างวันละ 50 บาท รวมค่ารถวันละประมาณ 105 บาท ค่าอาหาร 50 บา
ชาวบ้านในจังหวัดพิษณุโลก อาชีพที่สร้างรายได้มีด้วยกันหลากหลาย ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่จะเกิดจากการทำเกษตรกรรม คือ การทำไร่ ทำสวน และการทำนา แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปและปัญหาอีกหลายประการ อย่างเช่นการเกิดภัยแล้งผลผลิตจำหน่ายได้ราคาที่ตกต่ำ ส่งผลให้การทำเกษตรต้องมีการหยุดตัวลงไม่สามารถทำได้ต่อเนื่อง จึงทำให้รายได้จากการทำเกษตรหยุดอยู่ช่วงระยะหนึ่ง ซึ่งในช่วงที่ว่างจากการทำเกษตรมีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยได้หารายได้เสริม ด้วยการใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนมาทำการแปรรูป และจำหน่ายเกิดเป็นรายได้เสริมที่ใช้จ่ายภายในครัวเรือนได้อย่างดี กลุ่มแปรรูปปลาส้ม ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เกิดจากการรวมกลุ่มของเกษตรกรในพื้นที่ โดยนำปลาหลายชนิด เช่น ปลาตะเพียน ปลานิล และปลายี่สก มาแปรรูปเพื่อให้เกิดมูลค่ามากขึ้น โดยนำสินค้าที่ได้ส่งจำหน่ายตลาดในชุมชนและพ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อ จนสามารถเกิดเป็นรายได้จากการแปรรูปป็นปลาส้ม ทำให้สมาชิกภายในกลุ่ม คือ เกษตรกรที่ว่างจากการทำเกษตรมีรายได้เสริมมาถึงทุกวันนี้ คุณจำเริญ เพ็ชรน้อย ประธานกลุ่มแปรรูปปลาส้ม เล่าว่า สมาชิกภายในกลุ่มส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาและ
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เป็นคำกล่าวถึงความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทยในอดีต ด้วยวิถีชีวิตของคนไทยเรามีความผูกพันอย่างลึกซึ้งและแน่นแฟ้นกับแม่น้ำลำคลอง อาหารการกินอย่างปลาน้ำจืดจะหากินได้ไม่ยาก และหาได้ง่ายตามแม่น้ำลำคลอง เพียงแค่มีอุปกรณ์ในการจับปลา อย่าง เบ็ด แห อวน ลงมือลงแรงซักหน่อย ก็จะได้ปลาสดๆ เช่น ปลาช่อน ปลาขี้ขม ปลากระดี่ ปลาหมอ ปลาโสด ปลาซิว ปลาตะเพียน ปลาฉลาด ปลานิล หรือปลาอื่นๆ มาปรุงเป็นอาหารได้แล้ว วันไหนจับปลาได้มาก ก็จะแบ่งปันให้ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนบ้านได้กินกันอย่างทั่วถึงตามนิสัยโอบอ้อมอารีของคนในสมัยก่อน สำหรับส่วนที่เหลือก็จะเอาไปหมักเกลือทำเป็นปลาร้า ปลาส้ม ปลาเปรี้ยว หรือตากแดดย่างรมควัน แล้วแต่ความเหมาะสม ปลาส้ม การแปรรูปอาหารจากปลาชนิดหนึ่งของคนอีสาน เป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการถนอมอาหารจากปลา เมื่อปลาที่หามาได้มีจำนวนมากก็ต้องหาวิธีการแปรรูป เพื่อจะได้เก็บไว้กินนานๆ โดยเอาปลามาหมักกับเกลือ และข้าวสวย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะได้เมนูอร่อยๆ ที่เรารู้จักและเรียกกันว่า ปลาส้ม ปลาเปรี้ยว ส้มปลา นั่นเอง! สามารถนำมาประกอบเป็นอาชีพ และเสริมรายได้ให้ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เป็นคำกล่าวถึงความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทยในอดีต ด้วยวิถีชีวิตของคนไทยเรามีความผูกพันอย่างลึกซึ้งและแน่นแฟ้นกับแม่น้ำลำคลอง อาหารการกินอย่างปลาน้ำจืดจะหากินได้ไม่ยาก และหาได้ง่ายตามแม่น้ำลำคลอง เพียงแค่มีอุปกรณ์ในการจับปลา อย่าง เบ็ด แห อวน ลงมือลงแรงซักหน่อย ก็จะได้ปลาสดๆ เช่น ปลาช่อน ปลาขี้ขม ปลากระดี่ ปลาหมอ ปลาโสด ปลาซิว ปลาตะเพียน ปลาฉลาด ปลานิล หรือปลาอื่นๆ มาปรุงเป็นอาหารได้แล้ว วันไหนจับปลาได้มาก ก็จะแบ่งปันให้ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนบ้านได้กินกันอย่างทั่วถึงตามนิสัยโอบอ้อมอารีของคนในสมัยก่อน สำหรับส่วนที่เหลือก็จะเอาไปหมักเกลือทำเป็นปลาร้า ปลาส้ม ปลาเปรี้ยว หรือตากแดดย่างรมควัน แล้วแต่ความเหมาะสม ปลาส้ม การแปรรูปอาหารจากปลาชนิดหนึ่งของคนอีสาน เป็นการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในการถนอมอาหารจากปลา เมื่อปลาที่หามาได้มีจำนวนมากก็ต้องหาวิธีการแปรรูป เพื่อจะได้เก็บไว้กินนานๆ โดยเอาปลามาหมักกับเกลือ และข้าวสวย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะได้เมนูอร่อยๆ ที่เรารู้จักและเรียกกันว่า ปลาส้ม ปลาเปรี้ยว ส้มปลา นั่นเอง! สามารถนำมาประกอบเป็นอาชีพ และเสริมรายได้ให้ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
ชาวบ้านในจังหวัดพิษณุโลกมีอาชีพที่สร้างรายได้ด้วยกันหลากหลาย ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่จะเกิดจากการทำเกษตรกรรม คือ การทำไร่ ทำสวน และการทำนา แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปและปัญหาอีกหลายประการ อย่างเช่น การเกิดภัยแล้ง ผลผลิตจำหน่ายได้ราคาที่ตกต่ำ ส่งผลให้การทำเกษตรต้องมีการหยุดตัวลง ไม่สามารถทำได้ต่อเนื่อง จึงทำให้รายได้จากการทำเกษตรหยุดอยู่ช่วงระยะหนึ่ง ซึ่งในช่วงที่ว่างจากการทำเกษตรมีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยได้หารายได้เสริม ด้วยการใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนมาแปรรูป และจำหน่าย เกิดเป็นรายได้เสริมที่ใช้จ่ายภายในครัวเรือนได้อย่างดี กลุ่มแปรรูปปลาส้ม ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เกิดจากการรวมกลุ่มของเกษตรกรในพื้นที่ โดยนำปลาหลายชนิด เช่น ปลาตะเพียน ปลานิล และปลายี่สก มาแปรรูปเพื่อให้เกิดมูลค่ามากขึ้น โดยนำสินค้าที่ได้ส่งจำหน่ายตลาดในชุมชนและพ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อ จนสามารถเกิดเป็นรายได้จากการแปรรูปเป็นปลาส้ม ทำให้สมาชิกภายในกลุ่ม คือเกษตรกรที่ว่างจากการทำเกษตรมีรายได้เสริมมาถึงทุกวันนี้ คุณจำเริญ เพ็ชรน้อย ประธานกลุ่มแปรรูปปลาส้ม เล่าว่า สมาชิกภายในกลุ่มส่วนใหญ่มีอ
ทะเลสาบฮาลา-บาลา อยู่ที่ตำบลแม่หวาด อำเภอธารโต จังหวัดยะลา อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่หากใครมีโอกาสเดินทางมาถึงจังหวัดยะลาก็ต้องหาเวลามาล่องเรือสักครั้งเพื่อชมความงามของธรรมชาติ ได้เห็นความเป็นอยู่ของผู้คนทั้งสองฝั่งทะเลสาบฮาลา-บาลา ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านพื้นถิ่น การทำประมงพื้นบ้านจากแหล่งน้ำที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง จนเกิดเป็นอาชีพที่หลากหลายของชาวบ้านในละแวกนี้ มีการนำปลาจากทะเลสาบมาแปรรูปทำปลาส้มกันมากมาย และหนึ่งในนั้นก็เป็นปลาส้มจากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลาส้มบาตูมัส ที่ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติที่มีอยู่มาต่อยอดสร้างรายได้ ด้วยสโลแกน “ปลาส้มบาตูมัส อร่อยฟิน ไม่ติดกระทะ” คุณไซนับ ดอหิง หัวหน้ากลุ่มปลาส้มบาตูมัส อยู่บ้านเลขที่ 404 หมู่ที่ 7 ตำบลแม่หวาด อำเภอธารโต จังหวัดยะลา พลิกวิกฤตเป็นโอกาสในช่วงยางพาราราคาตกมารวมกลุ่มสร้างแปรรูปปลาส้มเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้จุนเจือครอบครัว คุณไซนับ เล่าว่า เนื่องจากคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรทำสวนยาง มีรายได้หลักจากยางพารา เมื่อประสบวิกฤตราคายางตกต่ำจึงคิดที่จะหารายได้เสริมมาจุนเจือครอบครัว จึงมีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขึ้นมาเพื่อแ
เพราะวิกฤต แปรเปลี่ยนเป็นโอกาสได้ ปลายปี 2545 เกิดวิกฤตน้ำทะลักจากเขื่อนอุบลรัตน์ท่วมเข้าชุมชนหมู่ที่ 5 ของบ้านห้วยบง ตำบนโนนเมือง อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ส่งผลให้ “ปลา” มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก จากเดิมที่ชาวบ้านจับปลามาประกอบอาหารจำนวนหนึ่งแล้ว ก็ยังมีปลาจำนวนมากที่หลงเหลือจากที่จับขึ้นมาจากแหล่งน้ำอีกจำนวนมาก แม่บ้านหลายหลังคาเรือนจึงเห็นควรนำปลาเหล่านั้นมาแปรรูป เพราะมีเป้าหมายพุ่งตรงไปที่การเพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน แท้จริงแล้ว อาชีพประมง เป็นอาชีพหลักของชาวอำเภอโนนสัง เนื่องจากอำเภอโนนสังมีพื้นที่ติดกับอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ที่ผ่านมา มีการจัดงานเทศกาลกินปลา ตลาดนัดปลา เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวของอำเภอโนนสัง หลายครั้ง เมื่อแม่บ้านมองเห็นรายได้จากวิกฤตน้ำหลากเข้าท่วมชุมชนในครั้งนั้น จึงรวมกลุ่มกันเพื่อแปรรูปปลาจำหน่าย จากกลุ่มเล็กๆ ลงหุ้นกัน หุ้นละ 120 บาท เริ่มจับปลา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลานวลจันทร์มาขูดหนังออก นำเนื้อปลาไปห่อด้วยใบตองสด หมักให้เนื้อออกรสเปรี้ยว เป็นการถนอมอาหารด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เรียกว่า แหนมปลา หรือส้มปลาตอง แบ่งหน้าที่ออกตระเวนขายตามหมู่บ้าน ครั้งละ 5 กิโลกรัม
คุณธนาวดี ศรีมันตะ อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 7 บ้านหนองแคน ตำบลนาโส่ อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร อดีตพนักงานลูกจ้างสหกรณ์ สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการใช้โอกาสที่มี เรียนรู้โครงการสร้างอาชีพต่างๆ ที่ทางสหกรณ์ได้จัดขึ้นเพื่อให้ความรู้กับสมาชิก จนกระทั่งปี 2559 ได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการลดพื้นที่ทำนา 5 ไร่ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากพื้นที่ไม่เหมาะสมกับการทำนา แห้งแล้ง น้ำไม่พอใช้ จึงตัดสินใจจ้างรถแบ๊กโฮมาขุดบ่อเลี้ยงปลาแทน โดยมีประมงจังหวัด ประมงอำเภอ เข้ามาช่วยเหลือ จัดอบรมให้ความรู้ตั้งแต่ขั้นตอนการเลี้ยงไปจนถึงขั้นตอนการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งปลาส้ม ปลาแดดเดียว และปลา 3 รส จนสามารถนำมาประกอบอาชีพได้ เมื่อเรียนรู้จนเกิดความชำนาญจึงอาสาตัวเองเป็นประมงอาสาเมื่อปี 2561 จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมสมาชิกสหกรณ์ได้มีอาชีพ มีรายได้ไปจุนเจือครอบครัว เทคนิคเลี้ยงปลาตะเพียน-ปลานิล แบบอินทรีย์ ต้นทุนต่ำ ปลาโตดี หลังจากเข้าร่วมโครงการลดพื้นที่ทำนา คุณธนาวดีก็เริ่มขุดบ่อทดลองเลี้ยง โดยทางประมงจังหวัดได้มอบพันธุ์ปลาให้ 6,000 ตัว ต่อ 1 บ่อ แต่ด้วยความที่มีพื้นที่เยอะลูกปลาไม่พอจึงมีคว
ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ที่จะถึงนี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ขอแนะนำให้ประชาชนลดและเลี่ยงการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะปลาร้า ปลาส้มดิบ และควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาดถูกหลักอนามัย เพื่อช่วยลดปัญหาในการเกิดโรคต่างๆ ที่มาพร้อมกับอาหารและเทศกาลฤดูหนาว โดยเฉพาะเพื่อเลี่ยงต่อการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งเป็นที่มาของโรคมะเร็งท่อน้ำดีที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิตของคนในสังคมเป็นอย่างยิ่ง มะเร็งท่อน้ำดี เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เยื่อบุน้ำดีทั้งในและนอกตับ พบว่า คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งท่อน้ำดีและตับ จำนวน 10,000 – 20,000 คน ต่อปี ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ องค์การอนามัยโลกได้จัดให้โรคพยาธิใบไม้ตับเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งชนิดนี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า วช.ได้สนับสนุนโครงการวิจัยท้าทายไทย ประเทศไทยไร้พยาธิใบไม้ตับ (Grand Challenges Thailand : Fluke Free Thailand) แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับโครงการแก้ไขปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (C