ปุ๋ยหมัก
นายการุณย์ มะโนใจ เกษตรอำเภอเชียงม่วน ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรม กับสมาชิกศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) จัดทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกอง โดยใช้เศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และมูลโค โดยจะต่อยอดในการผลิตดินผสมปลูกเพื่อใช้และจำหน่ายในเขตพื้นที่ ณ ที่ทำการศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน หมู่ที่ 2 บ้านปงสนุก ตำบลเชียงม่วน อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา เมื่อเร็วๆ นี้
กระบวนการสำคัญที่จำเป็นต้องพัฒนาการเกษตรโดยเน้นที่ปัจจัยการผลิต คือ การปรับปรุงบำรุงดิน และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตปุ๋ยชีวภาพใช้เองแทนการใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อลดต้นทุนการผลิต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องประยุกต์ใช้ปุ๋ยชีวภาพในชุมชนตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปุ๋ยชีวภาพคือการการที่นำเอาจุลินทรีย์ มาใช้ปรับปรุงดินทางชีวภาพ ทางกายภาพ ทางชีวเคมี และการย่อยอินทรียวัตถุจากพืช จากอินทรีย์ หรือจากอนินทรียวัตถุ ผศ.สมบูรณ์ ประสงค์จันทร์หลักสูตรรายวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาศึกษาทั่วไป คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จึงได้ผลิตปุ๋ยชีวภาพเพื่อนำไปให้ชุมชนพร้อมทั้งแนะนำวิธีการผลิตที่สามารถนำไปใช้กับชุมชนได้จริง ผศ.สมบูรณ์ ประสงค์จันทร์ กล่าวถึงข้อดีของปุ๋ยชีวภาพ ที่สามารถเพิ่มปริมาณธาตุฟอสฟอรัส กลุ่มจุลินทรีย์ที่ช่วยดูดซับธาตุฟอสฟอรัสให้กับพืช จุลินทรีย์กลุ่มนี้ ได้แก่ ไมโคไรซา เป็นจุลินทรีย์ที่พบได้ในพืชไร่ พืชสวน พืชผัก ไม้ดอก และไม้ประดับ ส่วนไม้ยืนต้นพบได้ในไม้ป่า และประเภทไม้สน กลุ่มจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยสลายหินฟอสเฟตให้อยู่ในรูปที่เป็นประ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สืบสานพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โครงการจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เกิดจากการประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 ซึ่งได้น้อมนำพระราชดำริพระราชปณิธานและพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแปลงเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีโครงการย่อยที่เกิดขึ้นรวม 8 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาลำน้ำ ลำคลองและคุณภาพชีวิตของชุมชนริมน้ำ, โครงการผลิตแผงโซล่าร์เซลล์เพื่อเป็นพลังงานทดแทนและสำหรับสำรองไฟกรณีฉุกเฉินให้แก่ประชาชน, โครงการผลิตเครื่องกำจัดมลพิษทางอากาศ PM 2.5 และ PM 10 และการรับรองมาตรฐานสิ่งประดิษฐ์ภายใต้โครงการ, โครงการลดและคัดแยกขยะของชุมชน, โครงการนำนวัตกรรมไปจัดการกับวัชพืชและผักตบชวาเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน, โครงการ 1 จังหวัด 1 ถนนเฉลิมพ
สสปน.และ ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมไลท์บลู ยกย่อง สามพราน ริเวอร์ไซค์ เป็นตัวอย่างธุรกิจเอาจริงลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เป็นโรงแรมแรก และโรงแรมเดียวในประเทศไทย สามารถก้าวข้ามความท้าทายและข้อจำกัด สู่การได้รับรองมาตรฐานการลดของเสียจากการให้บริการอาหาร หรือมาตรฐานฟู้ดเวสท์ (Food Waste Prevention) เผยเพียง 1 ปี ประหยัดต้นทุนจัดซื้ออาหารราว 2 ล้านบาท นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน คำนึงถึงความสมดุลของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และการมุ่งสู่การเป็นโรงแรมคาร์บอนต่ำอย่างจริงจัง สามพราน ริเวอร์ไซด์ จึงได้เข้าร่วมโครงการลดของเสียจากการให้บริการอาหาร (Food Waste prevention) กับบริษัท LightBlue Environmental Consulting โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สสปน. เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดจากการให้บิการอาหารของโรงแรม และลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มทำโครงการมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ปี 2559 รณรงค์ให้ความรู้ สร้างจิตสำนึก และสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริหารและพนักงานอย่างจร
“ปุ๋ยหมักเติมอากาศ” เป็นกระบวนการผลิตปุ๋ยหมักรูปแบบหนึ่งที่เน้นการผสมรวมกันระหว่างวัสดุอินทรีย์ที่ให้คาร์บอนและไนโตรเจน จากพวกซากพืช, สัตว์ และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ขณะเดียวกันใช้วิธีเติมอากาศแทนการกลับกองปุ๋ย เพื่อรักษาสภาพอากาศในกองให้มีความเหมาะสมเพื่อเร่งกระบวนการย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ โดยจุลินทรีย์ธรรมชาติในกองปุ๋ย เมื่อย่อยสลายสมบูรณ์แล้วจะแปรสภาพเป็นปุ๋ยหมัก ที่มีลักษณะสีดำคล้ำหรือสีน้ำตาลปนดำ ไม่มีกลิ่น มีคุณสมบัติที่ดีต่อรากพืช สามารถดูดไปใช้ได้ กว่า 2 ปีแล้ว ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร ได้จัดโครงการนำ “ปุ๋ยหมักเติมอากาศ” มาใช้ในสวนผลไม้ของเกษตรในพื้นที่หลายชนิด จนพบว่าผลผลิตที่ได้มีคุณภาพทัดเทียมกับปุ๋ยชนิดอื่น แต่ที่สำคัญช่วยในเรื่องการลดต้นทุนได้มากกว่า คุณบุญเกื้อ ทองแท้ เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงานบอกว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากนโยบายของกรมวิชาการ โดยเมื่อนำมาจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการจะแบ่งคร่าวๆ เป็นสองส่วนคือ จัดเป็นโครงการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ชาวบ้านที่สนใจ กับการนำปุ๋ยหมักเติมอากาศไปใส่ในแปลงปลูกพืชไม้ผลหลายชนิดเพื่อหาข้อมูลนำไปวิเคราะห์ประเมินผล คุณบุญเกื้อ กล่าวต่อว่า ข้อดีห