ผักปลอดสารพิษ
ความพยายาม ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค เป็นหัวใจสำคัญในการทำให้การประกอบอาชีพประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับ คุณพรรณี พยุงกุลอนันต์ หรือ พี่สาว เกษตรกรเจ้าของกิจการปลูกผักกระถาง ในตำบลวังมะปรางเหนือ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง พี่สาว เล่าว่า ก่อนหน้านี้เกือบ 10 ปี พี่สาวประกอบอาชีพทำสวนยางพารา แต่ด้วยภาวะราคายางพาราที่ไม่แน่นอนประกอบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงคิดหาแนวทางประกอบอาชีพเสริมเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โดยการหันมาปลูกผักเพื่อบริโภคและจำหน่ายแก่คนทั่วไป ในระยะแรก พี่สาวได้เริ่มปลูกกะหล่ำปลี มะกรูด สะระแหน่ โหระพา พริกชี้ฟ้า และมะเขือ โดยยึดวิธีการปลูกที่ไม่ใช้สารเคมี ส่งผลให้พืชผักได้รับความเสียหายจากการเข้าทำลายของโรคและศัตรูพืช สำนักงานเกษตรอำเภอวังวิเศษ จึงเข้ามาให้คำแนะนำการผลิตและใช้สารชีวภัณฑ์เพื่อป้องกันกำจัดศัตรูพืช เช่น เชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย บาซิลัส ทูริงเยนซิส หรือ บีที ช่วยกำจัดหนอนในแปลงผัก รวมทั้งการส่งเสริมให้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ การปลูกผักด้วยวิธีนี้ทำให้มีความปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ทำให้ผลิตมีคุณ
“ชนะอะไรไม่เท่าชนะใจตัวเอง” นี่คือจุดเริ่มต้นของ ธนวัฒน์ ว่องไวตระการ ประธานวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ที่พลิกฟื้นผืนดินจากการทำเกษตรแบบดั้งเดิม มาสู่การทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งต้องฟันฝ่าอุปสรรคและใช้เวลามากกว่า 2 ปี ในการสร้างแปลงผักออร์แกนิกที่ได้มาตรฐานส่งถึงมือผู้บริโภคผ่านสาขาต่างๆ ของแม็คโคร “ครอบครัวผมเป็นเกษตรกรชาวไร่ที่ปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละครั้ง เมื่อเรียนจบออกมา จึงมองหาช่องทางที่จะปลูกพืชผักชนิดอื่น เพื่อหารายได้หมุนเวียนเข้ามาเสริม” ธนวัฒน์เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการปลูกผักเสริมรายได้จากการทำไร่อ้อยและมันสำปะหลัง พลิกชีวิตสู่วิถีเกษตรอินทรีย์ ช่วงแรกเขาลองผิดลองถูกกับการปลูกผักหลายชนิดที่ต้องใช้สารเคมี เพราะให้ผลตอบแทนดี ตามคำบอกเล่าที่ว่า…จะทำให้มีรายได้ มีโอกาสรวยเหมือนถูกหวย…ซึ่งเมื่อลงมือทำ สิ่งที่เขาต้องเจอหลังจากนั้น ทำให้ธนวัฒน์เปลี่ยนแนวคิดในการทำเกษตรไปอย่างสิ้นเชิง “การเริ่มต้นปลูกผักของเรา ยอมรับว่าใช้สารเคมีเยอะมาก จนตัวผมเองได้รับผลกระทบจากการฉีดพ่น ทำให้แสบและคันไปทั้งตัว
เพราะมันคือชีวิต ชีวิตนี้เป็นของเรา ออกแบบชีวิตเราได้เอง ให้กำลังใจตัวเอง มองโลกให้กว้างๆ แล้วเราจะมีความสุขและโชคดีกว่าคนอื่น เมื่อชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า อาจจะช้าบ้างหรือเร็วบ้างไม่มีปัญหา เนื่องจากโลกที่น่ารักน่าอยู่ใบนี้ มีของขวัญที่มอบให้กับทุกคนอยู่ 2 อย่าง คือเวลากับความยุติธรรม จะสามารถมีและได้เท่ากันหมด เวลากับการเปลี่ยนแปลงจะเดินคู่พร้อมกันไปเสมอ ความเปลี่ยนแปลงจะสามารถให้เราสามารถเรียนรู้ทุกสรรพสิ่งได้อย่างชัดเจน พร้อมขยายทำให้มีพื้นที่ของชีวิตในการก้าวเดินได้มากเพิ่มขึ้น ปัจจุบันคือเวลาที่ดีที่สุด สวัสดีครับแฟนๆ ขอต้อนรับด้วยคำว่าสวัสดีและขอบพระคุณอย่างมากมายจากเทคโนโลยีชาวบ้านและผู้เขียนเป็นเบื้องแรก ทุกเรื่องราวจากคอลัมน์นี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนๆ เรียกได้ว่าเป็นแฟนประจำ มีการส่งเสียงไปให้แรงใจ โทร. 081-846-0652 หรือทางเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ สมยศ ศรีสุโร หรือไอดีไลน์ Janyos กันอย่างต่อเนื่อง ต้องขอขอบพระคุณอีกครั้งที่ให้แรงใจกันอย่างสม่ำเสมอ ปักษ์นี้ขอนำเสนอแฟนๆ ด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจมากครับ เนื่องจากที่นี่ หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เกษตรกรป
งานอาชีพทางการเกษตรเป็นอีกหนึ่งงานที่มีผู้คนหลากหลายอาชีพให้ความสนใจ โดยสาเหตุที่มาเริ่มสนใจการเกษตรเกิดจากความรัก หรือชอบทานพืชผักนั้นๆ จึงได้เกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะศึกษาอย่างจริงจัง ส่งผลให้จากที่ไม่รู้เรื่องการปลูกการผลิตพืชชนิดนั้นเลย เมื่อลงมือทำแล้วยิ่งมีประสบการณ์ เกิดความสนุก และสิ่งที่ตามมาคือเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่าย ทำให้เกิดเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ไม่น้อยทีเดียว คุณปรมพร สีเหนี่ยง หรือ คุณแจง ทำสวนผักเกษตรอินทรีย์ อยู่บ้านเลขที่ 190/155 หมู่บ้านราณี หมู่ที่ 3 ซอยสวนสยาม 16 แยก 3 ได้ใช้เวลาว่างจากการทำงานประจำ มาทำสวนผักเกษตรอินทรีย์ในแบบที่เธอชอบ โดยใช้พื้นที่ว่างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาสร้างเป็นสวนเกษตรในแบบของเธอ ทำให้ในทุกวันหลังเลิกงานและวันหยุด เธอได้มาใช้เวลาให้มีความสุขในสวนเกษตรอินทรีย์ที่เธอรัก ชอบทานผักปลอดสารพิษ จึงคิดทำเกษตรอินทรีย์ คุณแจง เล่าให้ฟังว่า เธอเป็นอีกหนึ่งคนที่สนใจในเรื่องของสุขภาพอาหารการกินเป็นอย่างมาก โดยแต่ละวันในมื้ออาหารของเธอจะต้องมีผักร่วมอยู่ด้วยเสมอ รวมทั้งมีการปั่นน้ำผักผลไม้ดื่มอยู่เป็นประจำ ซึ่งการนำพืชผักเหล่านี้มาบริโภคนั้นจะ
ความก้าวหน้าทางการสื่อสาร โดยเฉพาะมือถือแบบสมาร์ทโฟนช่วยยกระดับความสำคัญของภาคเกษตรกรรมให้มีความทันสมัย รวดเร็ว แม่นยำชนิดพลิกมิติในวงการเลย แต่สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นตรงที่คนหนุ่ม-สาว ทุกสาขาอาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้ต่างนำมาใช้ประโยชน์ทำเกษตรกรรมในสาขาต่างๆ กันเพิ่มมาก อย่างหนุ่มชาวกรุงที่กำลังกล่าวถึงรายนี้ ร่ำเรียนมาทางสายการตลาด เบื่อวิถีชีวิตในเมืองหลวง เบื่ออาชีพลูกจ้าง เลยหันมาเอาดีทางปลูกผักอินทรีย์ส่งขายที่ปากช่องจนมีรายได้ดี แถมยังค้นพบว่าการทำอาชีพเกษตรกรรมเป็นความสุขที่แท้จริง แล้วยังทำให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงด้วย คุณมนัส รัตนพันธุ์ หรือ คุณโจ้ พักอยู่เลขที่ 98 หมู่ที่ 1 ตำบลคลองม่วง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ความจริงคุณโจ้ไม่ใช่คนโคราช แต่เป็นคนกรุงเทพฯ เรียนจบทางการตลาดแล้วทำงานเป็นเซลล์มานานกว่า 10 ปี รู้สึกอิ่มกับอาชีพพนักงานขายที่ต้องเดินทางตระเวนไปหลายจังหวัดจึงลาออก พร้อมกับตั้งเป้าจะหาอาชีพใหม่เป็นของตัวเอง กระทั่งได้มาพบกับเพื่อนที่ทำอาชีพปลูกผักออร์แกนิกส่งขายตลาดหลายแห่งอยู่ที่ปากช่อง แล้วกำลังต้องการผักปลอดสารส่งขายอีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมองว่าไ
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ จะเห็นคนรุ่นใหม่หันมาประกอบอาชีพเกษตรกรรมกันมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนประสบความสำเร็จในระยะเวลาไม่กี่ปี เนื่องจากนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย พร้อมใช้รูปแบบการบริหารจัดการสมัยใหม่ รวมถึงการทำตลาดที่ใช้โซเชียลมีเดียควบคู่กับการขายทั่วไป คุณกาญจนา ลากุล เจ้าของ นโม ฟาร์ม (Namo Farm) ซึ่งตั้งอยู่ บ้านเลขที่ 212 หมู่ที่ 8 บ้านคำตานา ตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี ก็เป็นคนหนุ่มสาวอีกรายที่หันมาเอาดีในการทำเกษตร โดยเริ่มทำเมื่อปี 2556 หลังจากก่อนหน้านี้เคยเปิดกิจการร้านขายอาหารสัตว์และขายปุ๋ย เมื่อมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว ในปี 2556 เธอจึงได้ใช้วิชาบริหารธุรกิจ ในระดับ ปวส. ที่ร่ำเรียนมาใช้ในเรื่องการตลาด รวมถึงความรู้ที่ได้จากการเรียนระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) ขอนแก่น พร้อมกันนั้นยังได้รวบรวมเกษตรกรในพื้นที่ตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนผักไร้ดินปลอดสารพิษ บ้าน คำตานา มีสมาชิก 10 ครอบครัว โดยเธอรับหน้าที่เป็นประธานวิสาหกิจชุมชนฯ แหล่งศึกษาดูงานเกษตรอินทรีย์ วันนี้ใช่แต่พืชผักผลไม้ของวิสาหกิจชุมชนผักไร้ดินปลอดสารพิษฯ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “นโม ฟาร์ม” จะขายดีแล้ว คุณ
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งจากการเรียนในรายวิชาส่งเสริมการเกษตร ของสาขาวิทยาศาสตร์การเกษตร มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี ซึ่งเป็นรายวิชาส่งเสริมการเกษตรในความดูแลของ อาจารย์ธนากร เที่ยงน้อย ในบทเรียนการเขียนบทความเพื่อเผยแพร่ข้อมูลด้านการเกษตร อาจารย์ให้พวกเราลงพื้นที่สัมภาษณ์กับเกษตรกร เพื่อให้พวกเราได้สัมผัสกับชีวิตเกษตรกรและได้ทดลองเป็นนักข่าวไปพร้อมๆ กัน แล้วจึงนำข้อมูลมาเขียนเป็นบทความส่งเพื่อให้อาจารย์พิจารณา หากบทความของใครน่าสนใจก็มีโอกาสจะได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสารมติชนบท เทคโนโลยีชาวบ้าน อย่างที่ท่านผู้อ่านได้เห็นกันตอนนี้ ที่มาของ สวนเปนูเอล (Penuel) สวนเปนูเอล (Penuel) เป็นสวนผักออร์แกนิกของ คุณขวัญหล้า เนื่องจำนงค์ ที่บ้านเลขที่ 200 หมู่ที่ 13 ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ก่อนจะมาเป็นสวนเปนูเอลออร์แกนิก คุณขวัญหล้า เล่าว่า ตอนแรกเราเปิดเป็นร้านอาหารแต่พอเศรษฐกิจเริ่มเปลี่ยนการจ้างกุ๊กทำอาหารจึงยากมากขึ้น เลยตัดสินใจเปลี่ยนมาทำบ้านให้กลายเป็น Home Stay เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน แต่หลังจากที่เวลาผ่านไป เริ่มมีคนทำ Home Stay จำนวนมากขึ้นจึงทำ
ช่วงที่เชื้อโควิดได้แพร่ไปทั่วประเทศรอบที่สอง เป็นเรื่องที่น่ากลัว สมัยหลายปีก่อนเรากลัวโรคเอดส์ แต่นั่นไม่ได้มีผลในการดำรงชีวิตประจำวัน เพราะเอดส์เป็นโรคที่เราต้องเข้าไปหามันถึงจะมีโอกาสติด แต่เชื้อโควิดติดได้แค่สัมผัส หรือลมหายใจ เราไม่มีโอกาสรู้ ไม่มีโอกาสระวังตัว นอกจากป้องกันโดยใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น หรือสิ่งของที่ถูกคนทั่วไปจับต้อง การดำรงชีวิตในปัจจุบันจึงเปลี่ยนไป กิจการร้านขายอาหารก็ลำบากขึ้น มีการแนะนำให้ทำอาหารกินเองในบ้าน และแนะนำให้ปลูกผักกินเอง เพราะเราต้องกักตัวอยู่ในบ้านระยะหนึ่ง การปลูกผักเป็นการฆ่าเวลาที่ดีและเป็นการผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังมีผักมาทำอาหารกินอีก ผักสลัดเป็นผักที่ปลูกได้ทุกฤดูและปลูกได้ทุกภาคในประเทศไทย สมัยก่อนเข้าใจผิดกันว่าผักสลัดสามารถปลูกได้เฉพาะในพื้นที่เขตภาคเหนือ แต่ความจริงผักสลัดสามารถปลูกได้ในทุกภาค ปัจจุบัน ผักสลัดจึงมีการปลูกกันในแทบทุกพื้นที่ กลายเป็นผักที่หารับประทานกันได้ง่าย จากเมื่อก่อนที่ผักชนิดนี้มีวางจำหน่ายเฉพาะในห้าง หรือร้านผักที่ขายผักราคาแพง ในวันนี้พบว่าตามตลาดสดหรือตลาดนัดชุมชนตามต่างจังหวัดมีผักสลั
นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า “กลุ่มผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก” ถือเป็นต้นแบบหมู่บ้านผักอินทรีย์แห่งแรกของจังหวัดอำนาจเจริญ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 ภายใต้การนำของประธานกลุ่มคือ นางจำปา สุวะไกร ปัจจุบันมีสมาชิก 15 ราย โดยทางกลุ่มมีเป้าหมายในการปลูกผักอินทรีย์เพื่อให้เป็นแหล่งอาหาร สด สะอาด ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค รวมทั้งพัฒนาสินค้าผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก ให้เป็นสัญลักษณ์ “เมืองธรรมเกษตร” ตามนโยบายของจังหวัดอำนาจเจริญ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 จังหวัดอุบลราชธานี (สศท.11) ได้สำรวจข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนจากการผลิต ผักอินทรีย์ ปี 2563 ของเกษตรกรกลุ่มผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก ตำบลคึมใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ พบว่า มีต้นทุนการผลิต 5,708 บาท ต่อโรงเรือน ต่อรอบการผลิต ระยะเวลาเก็บเกี่ยว 45-50 วัน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 200-270 กิโลกรัม ต่อโรงเรือน ต่อรอบการผลิต ราคาที่เกษตรกรขายได้ 50 บาท ต่อกิโลกรัม ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 6,792 บาท ต่อโรงเรือน ต่อรอบการผลิต ด้านการเพาะปลูก เกษตรกรจะปลู
หนองคาย ปลูกฟักหอมปลอดสารพิษรายได้ดี เกษตรกรชาวจังหวัดหนองคาย ปลูกฟักหอมปลอดสารพิษ ไม่มีปัญหาด้านการตลาด ขายทั้งส่งโรงพยาบาลและขายที่ตลาดสด สร้างรายได้ให้เกษตรกรที่ปลูกได้เป็นอย่างดี นายสุวพิษ ศรีวงษ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 หมู่ 1 ต.ปะโค อ.เมือง จ.หนองคาย เกษตรกรผู้ปลูกฟักหอมปลอดสารพิษ กล่าวว่า เริ่มปลูกฟักหอมปลอดสารพิษโดยได้มีการจับกลุ่มเพื่อปลูกผักปลอดสารพิษส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลมีความต้องการฟักหอมเกษตรอินทรีย์ ตนจึงได้ลองปลูกฟักหอมโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์อย่างเดียว ซึ่งทางโรงพยาบาลมีความต้องการฟักหอมปลอดสารพิษ 70-80 กิโลกรัมต่อ 1 สัปดาห์ ในส่วนราคาของฟักหอมถ้านำไปขายที่ตลาดสดจะได้ราคากิโลกรัมละ 20 บาท ถ้าส่งขายที่โรงพยาบาลจะได้ราคากิโลกรัม 17-18 บาท นายสุวพิษ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการปลูกฟักหอมปลอดสารพิษนั้นจะใช้ระยะเวลาในการปลูก 4 เดือน และเป็นพืชที่ปลูกยากเนื่องจากมีวิธีการดูแลลำบาก เพราะฟักหอมมีเครือต้นที่ยาวทำให้รากของฟักหอมกระจายไปได้ไกล ทำให้ต้องรดน้ำบริเวณที่ปลูกให้ทั่วถึงและชุ่มชื้นอยู่ตลอด และวิธีให้ปุ๋ยอินทรีย์ต้องหว่านไว้รอบ ๆ พื้นที่ตอนที่ต้นฟักหอมโตแล้วจะดูดซึมปุ๋