มะลิ
ดอกเอ๋ย ดอกมะลิ ถึงยามผลิกลิ่นพราวสกาวต้น สดสะอาดปราศสีราคีระคน เหมือนกมลใสสดหมดระคาย กลิ่นมะลิหอมกระไรไม่รู้สว่าง เปรียบได้อย่างรักแท้ไม่แปรหาย อันรักแท้แลหัวใจได้บรรยาย ขอเชิญทาย ณ ที่ไหนจากใครเอย คำประพันธ์บทดอกสร้อย ชื่อ แม่จ๋า ของท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา จากบาทสุดท้าย “ขอเชิญทาย ณ ที่ไหนจากใครเอย” เชื่อว่าทุกท่านคงจะทายถูก แม้ไม่มีชื่อ่ของบทดอกสร้อย เพราะเพียงเอ่ยถึงดอกมะลิ และรักแท้บริสุทธิ์จากหัวใจที่ไม่จางหาย ก็คงได้รับจาก “แม่” มาแล้วและตลอดไป วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี ได้รับการกำหนดให้เป็น “วันแม่แห่งชาติ” ที่ทุกคนจะระลึกด้วยจิตสำนึกแห่งพระคุณท่าน มีการจัดเป็นพิธีการ แสดงออกเชิงกิจกรรมและพฤติกรรมที่บ่งบอกหรือส่งมุทิตาจิต อันเป็นมงคลบูชาบุพการี แต่ความเป็นจริงแล้ว เชื่อว่าวันทุกวันที่ผ่านมาและถึงวันนี้คือ “วันของแม่” ที่มีให้แก่ลูกๆ ทุกคน เพราะแม่ไม่มีวันหนึ่งในรอบปีที่จะมีรัก แต่แม่ให้ความรักทุกวันทั้งปี ซึ่งเราดื่มนมจากอกแม่มาจนเติบใหญ่ เพียงบอกรักแม่ด้วยพฤกษามาลัยแม่ก็ซึ้งใจแล้ว มีวรรณกรรมบทกลอน บทเพลง คำพรรณน
“มะลิ” เป็นต้นไม้ที่ดอกมีเสน่ห์จากสีขาวบริสุทธิ์ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอม และจากสี กลิ่น ที่มีความเหมาะสมดังนั้นชาวพุทธจึงใช้ดอกมะลิเพื่อบูชาพระ การปลูกมะลิไม่ใช่เรื่องยาก และเป็นไม้ดอกที่สามารถปลูกได้ทุกแห่งไม่จำกัดขนาดพื้นที่และทำเล เหตุนี้จึงทำให้มีผู้ปลูกมะลิแบบจำพวกสมัครเล่นด้วยการปลูกในกระถางขนาดไม่ใหญ่ไว้ในบริเวณบ้าน ที่อยู่อาศัย เพื่อเชยชม และคลายเหงา หรืออีกจำพวกที่ปลูกเพื่อหารายได้ทำเป็นอาชีพ ซึ่งการปลูกมะลิเป็นอาชีพนั้น มีพื้นที่ปลูกหลายแห่ง ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ แต่เนื่องจากการทำอาชีพนี้เงื่อนไขอย่างหนึ่งของการกำหนดราคาตัวสินค้าคือดอกมะลิจะต้องมีความสดและสมบูรณ์ ดังนั้นปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาเป็นสำคัญคือการขนส่ง ฉะนั้น พื้นที่ปลูกมะลิที่สำคัญจึงมักอยู่ใกล้เมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯซึ่งมีตลาดรองรับมาก การขนส่งไม่ไกลและลดความเสี่ยงในเรื่องความเสียหาย แต่ก็มิใช่เหตุผลเช่นนั้นเสมอไปเพราะมะลิเป็นดอกไม้มงคลที่ต้องใช้กันทั่วประเทศจึงมีหลายจังหวัดทั่วประเทศสามารถปลูกได้ และหลายแห่งสามารถบริหารจัดการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนจังหวัดที่มีการปลูกมะลิกันเป็นหลักได้แก่ จังหวัดนครปฐม นครส
“มะลิ” เป็นต้นไม้ที่ดอกมีเสน่ห์จากสีขาวบริสุทธิ์ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอม และจากสี กลิ่น ที่มีความเหมาะสมดังนั้นชาวพุทธจึงใช้ดอกมะลิเพื่อบูชาพระ การปลูกมะลิไม่ใช่เรื่องยาก และเป็นไม้ดอกที่สามารถปลูกได้ทุกแห่งไม่จำกัดขนาดพื้นที่และทำเล เหตุนี้จึงทำให้มีผู้ปลูกมะลิแบบจำพวกสมัครเล่นด้วยการปลูกในกระถางขนาดไม่ใหญ่ไว้ในบริเวณบ้าน ที่อยู่อาศัย เพื่อเชยชม และคลายเหงา หรืออีกจำพวกที่ปลูกเพื่อหารายได้ทำเป็นอาชีพ ซึ่งการปลูกมะลิเป็นอาชีพนั้น มีพื้นที่ปลูกหลายแห่ง ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ แต่เนื่องจากการทำอาชีพนี้เงื่อนไขอย่างหนึ่งของการกำหนดราคาตัวสินค้าคือดอกมะลิจะต้องมีความสดและสมบูรณ์ ดังนั้น ปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาเป็นสำคัญคือ การขนส่ง ฉะนั้น พื้นที่ปลูกมะลิที่สำคัญจึงมักอยู่ใกล้เมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ซึ่งมีตลาดรองรับมาก การขนส่งไม่ไกลและลดความเสี่ยงในเรื่องความเสียหาย แต่ก็มิใช่เหตุผลเช่นนั้นเสมอไป เพราะมะลิเป็นดอกไม้มงคลที่ต้องใช้กันทั่วประเทศ จึงมีหลายจังหวัดทั่วประเทศสามารถปลูกได้ และหลายแห่งสามารถบริหารจัดการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนจังหวัดที่มีการปลูกมะลิกันเป็นหลัก ได้แก่ จังหวัดนครปฐ
หากผ่านไปผ่านมาถนนทางหลวง 340 เส้นสุพรรณบุรี-ชัยนาท ในช่วงของอำเภอสามชุก ตลอดสองข้างทางในระยะประมาณ 4-5 กิโลเมตร จะเห็นร้านจำหน่ายพวงมาลัยเรียงลายอยู่ตามแนวถนน เป็นการประกอบอาชีพที่ทำกันมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษกันเลยทีเดียว ซึ่งการร้อยพวงมาลัยโดยส่วนใหญ่จะต้องใช้ดอกไม้สด เช่น มะลิ ดาวเรือง กุหลาบ ดอกรัก เพื่อมาประกอบเข้าด้วยกัน ก็จะได้พวงมาลัยน้อยๆ แสนสวยกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์ ดอกมะลิจึงถือว่าเป็นส่วนประกอบหลักที่ขาดเสียไม่ได้ในการนำมาร้อยมาลัย จึงเกิดเป็นงานสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกได้ไม่น้อย คุณพูลศักดิ์ คำหอม อยู่บ้านเลขที่ 422 หมู่ที่ 5 ตำบลสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ได้ทำอาชีพร้อยพวงมาลัย เรียกง่ายๆ ว่า เป็นอาชีพที่เป็นรายได้หลักของครอบครัวเลยก็ว่าได้ โดยไม้ดอกที่นำมาร้อยเขาจะเน้นปลูกเองเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ได้นำผลผลิตคือดอกมะลิมาใช้ ส่วนที่มากเกินก็ส่งจำหน่าย จึงเกิดเป็นรายได้มากขึ้นหลากหลายทางอีกด้วย เห็นดงมะลิบริเวณบ้าน มาตั้งแต่เด็ก คุณพูลศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวก็มีที่นาอยู่บ้างโดยสินค้าทางการเกษตรก็ไม่แน่นอน ต่อมาครอบครัวจึงไ
คุณพูลศักดิ์ คำหอม อยู่บ้านเลขที่ 422 หมู่ที่ 5 ตำบลสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ได้ทำอาชีพร้อยพวงมาลัย เรียกง่ายๆ ว่า เป็นอาชีพที่เป็นรายได้หลักของครอบครัวเลยก็ว่าได้ โดยไม้ดอกที่นำมาร้อยเขาจะเน้นปลูกเองเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ได้นำผลผลิตคือดอกมะลิมาใช้ ส่วนที่มากเกินก็ส่งจำหน่าย จึงเกิดเป็นรายได้มากขึ้นหลากหลายทางอีกด้วย คุณพูลศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวก็มีที่นาอยู่บ้างโดยสินค้าทางการเกษตรก็ไม่แน่นอน ต่อมาครอบครัวจึงได้เริ่มที่จะร้อยพวงมาลัยจำหน่าย คุณแม่ก็ได้ปลูกสวนมะลิขึ้นมาด้วย เพื่อให้มีวัตถุดิบมาใช้สำหรับร้อยพวงมาลัย ต่อมาเมื่อเขาโตขึ้นจนเรียนจบระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ก็ได้ทำงานเป็นฟรีแลนซ์เกี่ยวกับวิศวกร จึงมีเวลาว่างในช่วงที่ยังไม่ได้ไปติดตั้งงานระบบ ทำให้มีเวลากลับมาอยู่บ้านบ่อยๆ เมื่อเห็นดงมะลิที่ครอบครัวปลูกก็รู้สึกว่าน่าจะมีผลผลิตได้มากกว่านี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขามาสนใจการปลูกมะลิในเวลาต่อมา “บอกเลยว่าเกษตร ตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้สนใจมากเท่าไร เห็นที่บ้านทำเราก็ช่วยแต่ไม่ได้ศึกษาอะไรจริงจัง พอโตขึ้
คุณพูลศักดิ์ คำหอม อยู่บ้านเลขที่ 422 หมู่ที่ 5 ตำบลสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่ได้ทำอาชีพร้อยพวงมาลัย เรียกง่ายๆ ว่า เป็นอาชีพที่เป็นรายได้หลักของครอบครัวเลยก็ว่าได้ โดยไม้ดอกที่นำมาร้อยเขาจะเน้นปลูกเองเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ได้นำผลผลิตคือดอกมะลิมาใช้ ส่วนที่มากเกินก็ส่งจำหน่าย จึงเกิดเป็นรายได้มากขึ้นหลากหลายทางอีกด้วย คุณพูลศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวก็มีที่นาอยู่บ้างโดยสินค้าทางการเกษตรก็ไม่แน่นอน ต่อมาครอบครัวจึงได้เริ่มที่จะร้อยพวงมาลัยจำหน่าย คุณแม่ก็ได้ปลูกสวนมะลิขึ้นมาด้วย เพื่อให้มีวัตถุดิบมาใช้สำหรับร้อยพวงมาลัย ต่อมาเมื่อเขาโตขึ้นจนเรียนจบระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมโทรคมนาคม คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ก็ได้ทำงานเป็นฟรีแลนซ์เกี่ยวกับวิศวกร จึงมีเวลาว่างในช่วงที่ยังไม่ได้ไปติดตั้งงานระบบ ทำให้มีเวลากลับมาอยู่บ้านบ่อยๆ เมื่อเห็นดงมะลิที่ครอบครัวปลูกก็รู้สึกว่าน่าจะมีผลผลิตได้มากกว่านี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขามาสนใจการปลูกมะลิในเวลาต่อมา คุณพูลศักดิ์ คำหอม “บอกเลยว่าเกษตร ตอนเด็กๆ ก็ไม่ได้สนใจมากเท่าไร เห็นที่บ้านทำ
มะลิหอม น้อมใจให้รำลึก จิตสำนึก พระคุณแม่ แน่แท้ยิ่ง รักเมตตา กรุณา ด้วยใจจริง มาลัยมิ่ง มะลิร้อย กราบ…คอยพร มะลิขาว บริสุทธิ์ ดุจรักแม่ พรแน่แท้ แม่ให้ ได้สั่งสอน ลูกบูชา พรแม่ซึ้ง พึงสังวรณ์ เปรียบสิงขร นภาสมุทร สุดพรรณนา บทกลอนจากใจรำลึกพระคุณแม่ จะเสกสรรร้อยเรียงไพเราะเพราะพริ้งสละสลวยเพียงใด จะวรรณกรรมด้วยอักษรพิสุทธิ์ หรือจะพรรณนาด้วยบทกวีร้อยวจีเป็นสายธารอักขระให้ปริ่ม ลอยด้วยดอกมะลิหอมมากมายเพียงใดก็ไม่เท่าพระคุณแม่ที่เหนือคณานับ แม้ที่เราพึงน้อมคารวะบูชาให้เทียบเทียมได้เลย “วันแม่แห่งชาติ” วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี ที่กำหนดให้มีการจัดเป็นพิธีการแสดงออกเชิงพฤติกรรม บ่งบอกส่งมุทิตาจิต อันเป็นมงคลบูชาบุพการี หนึ่งนารีที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า “แม่” หากจะย้อนรำลึกถึงการเริ่มจัดงานมงคลวันนี้ วันแม่ครั้งแรกนั้น ในประเทศไทยประกาศไว้ตั้งแต่ วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ สวนอัมพร ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงกำหนดงานวันแม่หลายครั้ง กระทั่งถึงปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เห็นว่าควรกำหนดวันแม่ให้แน่นอน โดยถือว่าวันเสด็จพระราชสมภ
“วันแม่แห่งชาติ ปี 2561” ว่า มีกลุ่มสาววัยรุ่นทยอยมาหาซื้อพวงมาลัยดอกมะลิที่ร้านขายดอกไม้ที่มีอยู่บนถ.กลางเมือง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ประมาณ 20 ร้าน นอกจากนี้พ่อค้าแม่ค้าจำนวนหนึ่งได้มาตั้งขายอยู่บนฟุตบาธหน้าโรงเรียนกัลยาณวัฒน์ขอนแก่น เพื่อจำหน่ายดอกมะลิสด และพวงมาลัยดอกมะลิ กันอย่างคึกคัก ส่งผลให้ราคาพวงมาลัยดอกมะลิในช่วงวันแม่ปีนี้เพิ่มสูงขึ้น โดยพวงมาลัยดอกมะลิพวงเล็กปกติพวงละ 10-15 บาท เพิ่มเป็นพวงละ 35-40 บาท พวงมาลัยมะลิพวงใหญ่ ปกติพวงละ 90-100 บาท เพิ่มเป็นพวงละ 250-300 บาท และดอกมะลิประดิษฐ์วันแม่พวงมาลัยรูป ราคา 260 – 280 บาท โดยกลุ่มผู้ร้อยมาลัยบ้านศิลา ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น บอกว่า ช่วงวันแม่ปีนี้ มีพ่อค้าแม่ค้าจากในเมืองขอนแก่นมาสั่งมาลัยดอกมะลิและดอกพุด เพื่อไปจำหน่ายในช่วงนี้เพิ่มขึ้น โดยสั่งจำนวนกว่า 1,000 พวงต่อวัน แต่ทางกลุ่มสามารถทำส่งได้วันละเพียง 500 พวงเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาได้มีฝนตกติดต่อกันหลายวันทำให้ดอกมะลิและดอกพุดออกดอกน้อยและเน่าเสียหาย จึงมีดอกไม้ไม่เพียงพอสำหรับร้อยมาลัยส่งขาย อย่างไรก็ตามในช่วงเทศกาลวันแม่จึงต้องนำเอาดอกพุดมาร้อยเป็นมาลัยแท
“มะลิ” จัดเป็นไม้ดอกที่ยังมีความจำเป็นต่อการนำมาใช้ในกิจกรรมต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะไหว้พระ แต่ยังมีความสำคัญกับเทศกาลหลายอย่างจนแทบไม่มีวันลดลง ขณะที่ต้นมะลิก็สามารถปลูกได้ง่าย อาศัยดูแลเรื่องปุ๋ยและน้ำตามความเหมาะสม ทั้งยังสามารถปลูกได้โดยไม่จำกัดพื้นที่ตามกำลัง จึงเป็นที่สนใจของชาวบ้านหลายแห่งที่จะปลูกมะลิเป็นรายได้หลักและรายได้เสริม คุณวัชรินทร์ อายุยืน หรือ คุณแต๋น อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 1 ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ยึดอาชีพปลูกมะลิมาเป็นเวลาหลายปี โดยที่ผ่านมาจำนวนผลผลิตและคุณภาพดอกมะลิยังไม่ดีนัก เนื่องจากสภาพพื้นที่ปลูกเป็นดินทราย กระทั่งได้นำปุ๋ยอินทรีย์มาปรับปรุงจึงทำให้สภาพดินมีความสมบูรณ์มากขึ้น ส่งผลให้ต้นมะลิมีความแข็งแรง ให้ดอกที่สวยงาม มีขนาดใหญ่ เป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้คุณแต๋นมีรายได้เพิ่มขึ้น พื้นที่ปลูกมะลิของคุณแต๋นมีขนาดประมาณ 2 ไร่ ยกร่องปลูกขึ้นมาเล็กน้อย แล้วปลูกเป็นแถวๆ ตอนเริ่มปลูกลงดินจะให้น้ำตามสมควรในทุก 15 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หลังจากนั้น 1 เดือนให้เปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพราะในพื้นที่เป็นดินทรายทำให้มะลิเจริญเติบโตยากและไม่สม
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกดอกมะลิ ในหมู่บ้านโนนไม้แดง ม.2 ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต่างพากันเก็บดอกมะลิที่ปลูกไว้ในสวน เพื่อนำไปขายส่งให้กับพ่อค้าคนกลาง และส่วนหนึ่งก็จะนำไปร้อยเป็นพวงมาลัยขายตามตลาดสดทั่วไป โดยหมู่บ้านโนนไม้แดงแห่งนี้ มีชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือน ทำสวนปลูกต้นมะลิเพื่อจำหน่ายดอกเป็นอาชีพหลักของครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่มีการทำสวนมะลิใหญ่ที่สุดในจ.นครราชสีมา โดยแต่ละวันชาวบ้านจะเก็บดอกมะลิที่ตูมได้ขนาดจำนวนมาก เพื่อนำไปขายส่งให้กับพ่อค้าคนกลางทั่วประเทศ ตามออเดอร์ที่สั่งมา และบางครอบครัวก็จะนำมาร้อยเป็นพวงมาลัยขายตามตลาดทั่วไป ซึ่งช่วงนี้ของทุกปีต้นมะลิในสวนจะออกดอกเต็มต้น แต่ปีนี้พบว่าต้นมะลิออกดอกน้อยมาก ส่งผลให้ราคาดอกมะลิพุ่งสูงขึ้นกว่าเท่าตัว นายสุนทร แก่นสันเที๊ยะ อายุ 54 ปี หนึ่งในเกษตรกรผู้ทำสวนมะลิ บ้านโนนไม้แดง กล่าวว่า สวนของตนปลูกต้นมะลิไว้ทั้งหมด 400 กว่าต้น ซึ่งทุกปีช่วงก่อนถึงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ มะลิจะออกดอกเต็มต้น สามารถเก็บดอกขายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 40 กิโลกรัม แต่มาปีนี้พบว่ามะลิในสวนประสบปัญหาเพลี้ยลง และมีฝนตก