มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท
เมื่อเร็วๆนี้ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี)ภายใต้โครงการอมก๋อยโมเดล ได้เดินหน้าสานต่อภารกิจสำคัญ โดยร่วมกับอำเภออมก๋อย และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ดับไฟป่าและเครื่องเป่าใบไม้ โดยมีนายปรีชาพล พูลทวี นายอำเภออมก๋อย ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการอมรมฯ หลังจากที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้มอบกองทุนประกันและอุปกรณ์ดับไฟป่าให้กับอาสาสมัครในจังหวัดเชียงใหม่ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การอบรมฯ ในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายหน่วยงานรวมทั้งสิ้น 75 คน จัดขึ้น ณ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ นายปรีชาพล พูลทวี นายอำเภออมก๋อย เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อำเภออมก๋อยเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดในประเด็นปัญหาหมอกควันและไฟป่า เนื่องจากพื้นที่กว่า 1.3 ล้านไร่เป็นพื้นที่ป่า รวมถึงป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้เข้ามาสนับสนุนภารกิจป้องกันและควบคุมไฟป่า ผ่านการมอบกองทุนประกันภัยให้กับอาสาสมัครพิทักษ์ไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญ เพราะภ
เมื่อเร็วๆนี้ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายภาครัฐและชุมชน จัดกิจกรรม “ข้าวใหม่ ปลามัน” ครั้งที่ 2 ณ นาริมเล โรงเรียนบ้านปากประ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เพื่อสืบสานและอนุรักษ์ภูมิปัญญาการทำนาริมเล ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา นำโดย นายธราวุธ ช่วยเกิด ปลัดจังหวัดพัทลุง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายอานนท์ ขำแก้ว ผู้ชำนาญการแผนงานดำเนินการยุทธศาสตร์ทะเลสาบสงขลา มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท หน่วยงานภาครัฐ ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน เข้าร่วมกว่า 250 คน นายธราวุธ ช่วยเกิด ปลัดจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า กิจกรรม “ข้าวใหม่ ปลามัน” เป็นโอกาสสำคัญในการอนุรักษ์และฟื้นฟูภูมิปัญญาการทำนาริมเล พร้อมปลูกฝังให้เยาวชนร่วมอนุรักษ์ สืบสาน และต่อยอดภูมิปัญญานี้ให้คงอยู่ต่อไป พร้อมส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่สู่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน ขณะที่ นายอานนท์ ขำแก้ว ผู้ชำนาญการแผนงานดำเนินการยุทธศาสตร์ทะเลสาบสงขลา มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท กล่าวว่า มูลนิธิฯ มุ่งขับเคลื่อนงานด้านความยั่งยืน
วันนี้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างสมบูรณ์ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย หรือผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีจำนวน 13.64 ล้านคน คิดเป็น 19.5% หรือ 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุที่ยังคงทำงานอยู่จำนวน 5.11 ล้านคน คิดเป็น 37.5% ของผู้สูงอายุทั้งหมด การเผชิญหน้ากับ “สังคมผู้สูงอายุ” จึงนับเป็นโจทย์ที่ท้าทายเพราะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรครั้งสำคัญ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ตระหนักถึงสถานการณ์ของสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยมาโดยตลอด จึงได้ขับเคลื่อน “โครงการบ้านชื่นสุข” ตำบลหัวง้ม อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เพื่อสนับสนุนเสริมสร้างพลังกายและพลังใจให้กับผู้สูงวัย ควบคู่ไปกับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้สูงอายุ ให้ก้าวข้ามผ่านความกลัว ความเศร้า และความทุกข์ใจ เกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าในตนเอง เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข ธิดา สำราญใจ ผู้บริหารด้านพัฒนาเด็กและเยาวชน มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท กล่าวว่า ผู้สูงอายุถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมและประเทศชาติ เพราะ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ร่วมกับ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันส่ง “กวางผา” (ม้าเทวดา) สัตว์ป่าสงวนกลับคืนสู่ธรรมชาติ จำนวน 4 ตัว โดยมี นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยนายจอมกิตติ ศิริกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท นายกฤตภาส ขันทะธงสกุลดี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ว่าที่ร้อยตรี อดิศักดิ์ ดวงจินดา นายอำเภออมก๋อย นายภาณุเดช เกิดมะลิ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ อาทิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย เขตห้ามล่าสัตว์ป่านันทบุรี สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอมก๋อย สถานีควบคุมไฟป่า หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้อมก๋อย เกษตรอำเภอ พัฒนาการอำเภอ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) องค์การบริหารส่วนตำบลม่อนจอง องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ตื่น ชุมชนบ้านห้วยไม้หก โรงเรียนบ้านห้วยไม้หก หน่วยงานภาคประชาสังคม อาทิ มูลนิธิเพื่อการพัฒนาพื้นที่ยั่งยืน (ภาคเหนือ) มูลนิธิไทยรักษ์ป่า และกลุ่มธุรกิจในเครือฯ อาทิ บร
“ควายน้ำ” เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย ตั้งอยู่ส่วนบนสุดของของทะเลสาบสงขลาซึ่งเป็นทะเลแบบลากูนทำหน้าที่ในการเชื่อมลุ่มน้ำปากพนังเเละลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเข้าด้วยกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ (Ramsar Site) แห่งเดียวของไทย โดยในพื้นที่นี้มีภูมิปัญญาที่สืบทอดมากว่า 200 ปี คือ “วิถีการเลี้ยงควายปลัก” ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีระบบการเลี้ยงแบบปล่อยให้ควายหากินอย่างอิสระในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ ถือเป็นการทำหน้าที่ในระบบนิเวศ ทั้งการสร้างทางน้ำ ระบบนิเวศทุ่งหญ้า ควบคุมปริมาณพืชน้ำ และช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์เพื่อเร่งการฟื้นตัวของป่าพรุ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเก็บน้ำและแหล่งดูดซับคาร์บอนที่สำคัญของโลก นอกจากนี้ “ควายน้ำ” ยังได้ขึ้นทะเบียนว่าเป็น “มรดกโลกทางการเกษตร” อีกด้วย นายพรประเสริฐ เกื้อคราม รองประธานเกษตรกรกลุ่มควายน้ำทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า “…ทำอาชีพเลี้ยงควายมา 14 ปี แล้ว ซึ่งแต่เดิมในพื้นที่นี้มีการทำเกษตรกรรม เป็นทุ่งนา ควายส่วนใหญ่ก็เลี้ยงเพื่อทำการเกษตร แต่เมื่อสภาพพื้นที่เปลี่ยนไป ทำให้ชุมชนไม่สามารถทำการเกษตรได้ และเปลี่ยนวิถีอา
เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาอาชีพด้านบริบาล ระหว่างมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท กับ 6 หน่วยงานภาคี เครือข่าย โดยมี นายจอมกิตติ ศิริกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสยาม โชคสว่างวงศ์ รองอธิการบดีอาวุโสสายงานบริหาร สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ นายแพทย์ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ศาสตราจารย์ ดร.วิภาดา คุณาวิกติกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิทยาศาสตร์สุขภาพ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ นางสาวอรนันท์ อุดมภาพ ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นเลิศการบริบาล ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล นางจุฑาภัค สิงห์สมบุญ ผู้จัดการโรงเรียนจุฬารัตน์ อินเตอร์ เฮลท์ นายพิศาล ตันติวิวัฒน์ ผู้รับใบอนุญาต โรงเรียนดิษฐ์ราการบริบาล เข้าร่วมในพิธีลงนามข้อตกลง (MOU) ณ ห้องประชุม Convention Hall 1 ชั้น 3 อาคารหอประชุม สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ แจ้งวัฒนะ นายจอมกิตติ ศิริกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เปิดเผยว่า ด้
เมื่อเร็วๆนี้ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ร่วมกับ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมปล่อยสัตว์ป่ากวางผาคืนสู่ธรรมชาติ จำนวน 4 ตัว หลังสามารถเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ได้สำเร็จ โดยมี นายมนตรี บัวเกตุ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลม่อนจอง เป็นประธาน พร้อมด้วย นายชุมพลภัทร์ คงธนจารุอนันต์ ผู้จัดการสำนักปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท หน่วยงานภาครัฐ อาทิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย เขตห้ามล่าสัตว์ป่านันทบุรี สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอมก๋อย สถานีควบคุมไฟป่า หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้อมก๋อย องค์การบริหารส่วนตำบลม่อนจอง องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ตื่น โรงเรียนบ้านห้วยไม้หก และชุมชนบ้านห้วยไม้หก ร่วมกันปล่อยกวางผาเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรกวางผาและอนุรักษ์ไม่ให้สูญพันธุ์ในประเทศไทย พร้อมทั้งปลูกฝังเยาวชน และประชาชนบนพื้นที่สูงอยู่ร่วมกับสัตว์ป่าได้อย่างสมดุล ณ ดอยหลวง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย บ้านห้วยไม้หก ต.ม่อนจอง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ นายชุมพลภัทร์ คงธนจารุอนันต์ ผู้จัดการสำนักปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เปิดเผยว
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ผนึกกำลังร่วมกับภาคีเครือข่าย Kick off สร้างบ้านปลา ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 100 ซั้ง รอบลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ภายใต้โครงการพัฒนาอาชีพ ตามดำริ พลเอกเปรม ติณสลูานนท์ นำโดย นายธนา ไชยานุวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากรอ นายสัน และตี ประธานกลุ่มประมงอาสาชุมชนบ้านบางไหน นายบรรจง นะแส ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่ง สมาคมรักษ์ทะเลไทย และ นายกฤตยรัฐ ปารมี ผู้ช่วยเลขาธิการ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท รวมทั้งชาวบ้าน ชาวประมงอาสา และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลปากรอ เข้าร่วมกิจกรรมสร้างบ้านปลา ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึก และตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาด้านการลดลงของทรัพยากรสัตว์น้ำ แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมและชุมชนในพื้นที่ให้เห็นความสำคัญของการปกป้องและฟื้นฟูทะเลสาบสงขลา จ.สงขลา ตลอดระยะเวลา 35 ปี ที่ผ่านมา มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้ดำเนินงานตามแนวทางพระราชดำริฯ ซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัญชา 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยมุ่งเน้นสร้างปร
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ร่วมสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ประจำปี 2566 ล่าสุดได้ส่งมอบน้ำดื่ม CP เพื่อสนับสนุนภารกิจการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และลดผลกระทบจากฝุ่นควัน และ PM 2.5 ที่มีผลต่อสุขภาพประชาชน โดยมี ว่าที่ร้อยตรีอดิศักดิ์ ดวงจินดา นายอำเภออมก๋อย เป็นผู้แทนในการรับมอบ จากนายกฤตยรัฐ ปารมี ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ณ ที่ว่าการ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ว่าที่ร้อยตรีอดิศักดิ์ ดวงจินดา นายอำเภออมก๋อย กล่าวว่า ขอขอบคุณมูลนิธิเจริญโภคภัณพัฒนาชีวิตชนบท ที่สนับสนุนน้ำดื่มแก่เจ้าหน้าที่ หน่วยงานประจำพื้นที่ ในการปฏิบัติภารกิจปกป้องไฟป่าใน อ.อมก๋อย โดยจะทำการแจกจ่ายให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รวมถึงหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป นายกฤตยรัฐ ปารมี ผู้ช่วยเลขาธิการ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เปิดเผยว่า มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนในพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ภายใต้โครงการ “อมก๋อย โมเดล” โดยได้เล็งเห็นความสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก
นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะกรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เปิดเผยว่า “โครงการเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ” ต.บุโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน มุ่งเน้นให้เกษตรกรมีรายได้อย่างมั่นคง พึ่งพาตนเองได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถเป็นแบบอย่างที่ขยายผลได้ โดยน้อมนำแนวพระราชดำริเรื่องเกษตรผสมผสานและเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทาง ในปีนี้ ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมให้ทำเกษตรผสมผสานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมอาชีพการปลูกพืชมูลค่าสูง อาทิ มะพร้าวน้ำหอม และด้านปศุสัตว์ รวมถึงการสร้างแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น พร้อมสร้างความเข้มแข็งด้านความร่วมมือในการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ด้านนางสาวกรวรรณ สอิ้งรัมย์ เกษตรกรบ้านบุโพธิ์ เล่าว่า “จากการเปลี่ยนแปลงวิถีการทำการเกษตรเชิงเดี่ยว สู่การทำเกษตรผสมสานมากว่า 5 ปี บนพื้นที่ 4 ไร่ ประกอบด้วย การปลูกมะพร้าวน้ำหอม สละอินโด โกโก้ และฝรั่งกิมจู