วัยเกษียณ
จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ปัญหาเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้หลายๆ คน รายรับไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เห็นได้จากสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่มีคนทำงานประจำใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน มาประกอบอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ให้หลากหลาย ทำให้มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้ไม่เกิดหนี้สิน นอกจากนี้ บางครัวเรือนมีการหาวิธีลดเรื่องค่าใช้จ่าย โดยปลูกพืชผักบริเวณบ้านหรือใช้พื้นที่เล็กน้อยที่มีอยู่ทำการเกษตร เพื่อให้มีผลผลิตที่นำมาประกอบอาหาร สามารถช่วยลดในเรื่องของค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งผลผลิตที่มีมากเกินไป นำมาขายเกิดเป็นรายได้เสริมอีกหนึ่งช่องทางด้วย คุณนุจรีย์ ทิพย์ประภาวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 1 ตำบลบางระกำ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม มีแนวความคิดใช้พื้นที่บริเวณบ้านมาปลูกผักแบบอินทรีย์ โดยออกแบบให้แปลงผักมีความสวยงามประดับเหมือนเป็นไม้ประดับ จากที่ทำเพื่อไว้กินเองในครัวเรือน ต่อมาเมื่อผลผลิตมีมากขึ้นสามารถขายเกิดเป็นรายได้ให้กับเธอเป็นอย่างดี จากปัญหาสุขภาพ ทำให้ใส่ใจในเรื่องอาหาร คุณนุจรีย์ เล่าให้ฟังว่า อาชีพหลักทำเกี่ยวกับการเกษตรอยู่แล้ว โดยเน้นปลูกพืชผักสวนครัวที่มีการใช้ยาฆ่าแม
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แถลงผลสำเร็จโครงการ Quick Wins “เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง” ปีที่ผ่านมา พร้อมผลักดันโครงการสู่เฟส 2 ให้ผู้สูงวัยใช้พลังขับเคลื่อนประเทศด้านต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมจัดเสวนา Forum Talk ให้เหล่าไอดอลวัยเก๋า เข้ารับโล่บุคคลวัยเกษียณ พร้อมตีแผ่แง่คิดการใช้ชีวิตอย่างมีพลัง โดยมี รศ.พิเศษ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการ และโฆษกกระทรวงกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกียรติเข้าร่วม ณ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า ปัจจุบันผู้สูงอายุมีปริมาณกว่าร้อยละ 12 ของประชากรไทย และมีแนวโน้มที่โครงสร้างผู้สูงวัยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วัยเกษียณที่ดีพอ จะส่งผลให้สภาพจิตใจและคุณภาพชีวิตเสื่อมถอยลง หากพวกเรามาร่วมกันส่งเสริมคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้สูงวัย ให้แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ห่างไกลจากภาวะซึมเศร้าและติดบ้าน และเห็น
รอยต่อระหว่างเริ่มต้นกับสิ้นสุดมาถึงอีกครั้งหนึ่ง คือรอยต่อของการรับราชการจะเริ่มต้นหรือลงท้าย มีขึ้นเมื่อสิ้นสุดเดือนกันยายนต่อกับเดือนตุลาคม ด้วยระบบราชการไทย นับการเริ่มต้นของการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินประจำปีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม และสิ้นสุดวันใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีในวันที่ 30 กันยายนปีเดียวกันนั้น ดังนั้น ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จึงคือฤดูแต่งตั้งโยกย้ายและขยับยศตำแหน่ง “ข้าราชการ” จากเดิมขึ้นไปสู่ตำแหน่งใหม่ เป็นไปตามปกติ ไม่ใช่วาระพิเศษที่เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อวันที่ 30 กันยายน ผู้ที่อายุ 60 ปีบริบูรณ์ หรือสมัยนี้อาจจะอายุตามที่กำหนดในตำแหน่งนั้นให้เกษียณจากราชการ เนื่องจาก “รับราชการมานาน” หากเป็นตำแหน่งไม่สู้สำคัญ เท่ากับบุคคลผู้นั้นต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ในราชการนั้น ไปรับบำนาญแทนเงินเดือนเป็นค่าตอบแทนการรับราชการมานาน กระทั่งพ้นจากข้าราชการบำนาญเมื่อ “เสียชีวิต” หรือ “พอใจ” รับ “บำเหน็จ” คือ “เงินก้อน” ครั้งเดียว แทนบำนาญที่รับเป็นรายเดือน ต้องว่ากันเรื่องนี้ เมื่อถึงรอยต่อระหว่างเดือนกันยายนกับเดือนตุลาคม ทุกปี เกรงว่าจะหลงลืมเมื่อใกล้ถึงวัน
ท่านที่เกิด พ.ศ. 2504 นับแต่ 1 มกราคม 2564 ครบ 60 ปี เกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2564 ทางราชการนับเกษียณอายุราชการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2503 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 ดังนั้น ท่านที่เกิดวันที่ 1 ตุลาคม 2503 จึงได้วันเวลาเพิ่มอีก 1 ปี จากวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 และเกษียณตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 จากวันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 มีเวลาปฏิบัติหน้าที่การงานอีก 2 เดือน 15 วัน คิดหรือยังว่า เกษียณอายุ 60 ปีแล้วจะทำอะไร เขาว่าคนจีนสอนลูก 3 สิ่งที่ควรมียามแก่ชราให้ชีวิตมีความสุขสดชื่น คือ “เหล่าจี้” ต้องมีเงินเก่ามาใช้ยามจำเป็น ไม่ใช่แก่แล้วยังต้องไปทำงานหากินให้ลำบากอีก ทางราชการเห็นความจำเป็นในเรื่องนี้ จึงกำหนดให้ข้าราชการที่เกษียณแล้วมีเงิน 2 ประเภท คือ บำเหน็จ หรือบำนาญ แล้วแต่ว่าจะเลือกอะไร ส่วนใหญ่เหลือ “บำนาญ” เนื่องจากบำนาญคือเงินที่คล้ายเงินเดือน คือมีจ่ายให้ทุกเดือน แล้วเมื่อเสียชีวิตยังมีให้ถึงสามีหรือภรรยาและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจนอายุ 25 ปี (อย่างนั้นใช่ไหม) ส่วนงานรัฐวิสาหกิจเลียนแบบราชการ แต่จะจ่ายถึงภรรยา-สามี ถึงบุตรหรือไม่ ไม่ทราบ บำเห
ผ่านวิกฤตการณ์ “โควิด-19” มาได้อีกเดือนครึ่ง เมษายน สงกรานต์เป็นห้วงวิกฤตของผู้สูงอายุทั้งหลายที่ต้องอยู่บ้านให้ลูกหลานมารดน้ำดำหัว ล้างเท้า รับคำขอให้อายุยืนยาวอีกถึงกว่าร้อยปี พร้อมมีสุขภาพแข็งแรง เป็นเพื่อนคุณหมอเฉก ธนสิริ ที่ตั้งปณิธานว่าจะมีอายุถึง 120 ปี แล้วต้องอวยชัยให้พรตอบ ขอให้ลูกหลานเจริญมีความสุขทั้งเมื่อนี้และเมื่อหน้า ส่วนท่านผู้สูงอายุที่เดินทางไปพักผ่อนยังบ้านในจังหวัดภูมิลำเนาเดิม ห้วงที่ผ่านมาไม่ต้องเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะอยากจะไปเยี่ยมลูกหลาน หรือให้ลูกหลานมาเยี่ยม ด้วยเหตุรัฐบาลห้ามการเดินทางข้ามจังหวัด หรือเข้มงวดกับการเดินทางในห้วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดูจะกระจายออกจากผู้คนอย่างรวดเร็วไประหว่างคนต่อคน ยังดีเดือนเมษายนที่ผ่านมาต่อเนื่องต้นเดือนพฤษภาคม เป็นห้วงปิดภาคเรียนของลูกเล็กเด็กแดง และวัยรุ่นทั่วประเทศ ข่าวการแพร่เชื้อไวรัสในหมู่เด็กและวัยรุ่นจึงยังไม่ค่อยแพร่กระจายมาก ต่างกลับไปแพร่กระจายจากผู้ใหญ่นักเที่ยวทั้งหลายตามสถานที่ได้รับการเรียกขานว่า “อโคจร” ซึ่งเป็นคำเรียกสำหรับสถานที่ซึ่งพระภิกษุทั้งหลายไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้อง ว
ประเทศไทย อาหารเช้า แม้ยามเที่ยงถึงยามดึก หาโจ๊กกินเป็นอาหารเบาๆ นับแต่ตื่นนอน กระทั่งเข้านอนไม่ยาก หากไม่ต้องการโปรตีนประเภทเนื้อหมู เนื้อไก่ จะกินโจ๊กเปล่า ประเภทข้าวกล้อง ข้าวโพด ก็ได้ หรือไม่มีโจ๊ก หาซุปข้าวโพด ซุปเห็ด แทนยังได้ เมื่อปักษ์ที่ผ่านมาเพิ่งบอกไป 2 อย่าง คือ น้ำ 3 ถ้วย 2 ชามโจ๊ก คราวนี้เป็น 3. นม 1 ถ้วย บ้างเรียกนม ว่า “เลือดขาว” อยู่ในร่างกายมนุษย์ คุณค่าทางโภชนาการของ “นม” เป็นที่รู้จักกันดี ที่มีปริมาณของแคลเซียม ไขมัน และโปรตีน เราเริ่มดื่มนมมาตั้งแต่ยังขบเคี้ยวอาหารแข็งไม่ได้ ต้องดื่มนมวัวและนมชนิดอื่นตั้งแต่ยังไม่ 2 ขวบ แทนนมมารดา เด็กที่แพ้นมวัว อาจดื่มนมถั่วเหลืองแทน เป็นนมที่หมอเด็กแนะนำให้ดื่มแทนนมวัวได้ สำหรับผู้สูงอายุ ปริมาณที่แนะนำต่อวันของนม และผลิตภัณฑ์นม คือ 300 มิลลิลิตร สำหรับขวดนม ขนาด 200 มิลลิลิตร ธรรมดาพอดื่มได้ 1 หรือ 2 ขวด หรือ 200 มิลลิลิตร ต่อวัน อย่างที่ 4. ไข่ เป็นอาหารที่เหมาะที่สุดกับการบริโภคของมนุษย์ อัตราการดูดซึมโปรตีนจากไข่ของร่างกายจะสูงถึง 98% การกินไข่ของผู้สูงอายุ แพทย์ทางโภชนาการ บอกว่า วันละ 4 ฟอง หรือมากกว่านั้นยังได้ ลองหาข้อ
คุณสมใจ ไวทยกุล อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 5 ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี หญิงวัยเกษียณที่มากด้วยความสุข จากสิ่งที่เธอทำ คือ การเลี้ยงปลา ซึ่งภายใน 1 บ่อ จะปล่อยปลามากกว่า 3 ชนิด ปลาสามารถเจริญเติบโตได้ดี การเลี้ยงของเธอทำให้อัตราการรอดของปลาค่อนข้างสูง เน้นให้อาหารที่หาได้จากชุมชนและที่สำคัญเมื่อปลาโตจำหน่ายได้ราคา คุณสมใจ เล่าให้ฟังว่า ไม่คิดไม่ฝันว่าชีวิตจะได้มาเลี้ยงปลาแบบที่เป็นอยู่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ดำรงชีวิตเป็นแม่บ้าน แต่เนื่องจากพี่ชายของเธอมาขอยืมที่ดินเพื่อเลี้ยงปลา ต่อมาพี่ชายเสียชีวิตเธอจึงได้หันมาประกอบอาชีพนี้โดยตรง “ช่วงแรก ประมาณปี ’54 หลังจากที่ต้องมาเลี้ยงต่อจากพี่ชาย ช่วงนั้นไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากนัก ปลาก็จะต้องหากินเอง เรียกง่ายๆ ว่า ยังไม่มีความพร้อมทำด้านนี้มากนัก พออายุปลาครบกำหนดจำหน่ายได้ ก็ให้เขามาจับไปทั้งบ่อ คราวนี้เราก็เลยเริ่มที่จะมาทำด้านนี้เต็มตัว โดยเริ่มตั้งแต่เรียนรู้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่เริ่มปล่อยลูกปลาขนาดเล็กๆ ไปเลย” คุณสมใจ เล่าถึงความเป็นมา เมื่อคิดที่จะทำสัมมาอาชีพนี้อย่างจริงจัง การศึกษาหาความรู้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ คุณสมใจ บอกว
ร้อยตำรวจโท สุเทพ ฉิมวัย ชายหนุ่มจากอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี อดีตเป็นลูกชาวนาฐานะค่อนข้างยากจน ต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ ส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญา หวังก้าวหน้าเป็นครู จับพลัดจับผลู ต้องกลายมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ บนรถไฟสายล่องใต้วันนั้น หนุ่มใหญ่วัยสาย หิ้วของพะรุงพะรัง เดินหาที่นั่งให้ตรงกับหมายเลขตั๋ว ในตู้นอนปรับอากาศชั้นหนึ่ง เดินทักทายพูดคุยกับคนที่มีที่นั่งอยู่ก่อนแล้วด้วยภาษาเสียงสำเนียงใต้ แต่แล้วผู้ชายในวัยที่ค่อนข้างเอียงไปทางตอนบ่ายแล้ว ทักมาเป็นภาษากลางออกเหน่อๆ ปนศัพท์แสง ที่เป็นคำที่ใช้ในภาษาใต้ “เลขที่นั่งน่าจะอยู่ติดกับผมนะ ผมเลขที่ ยี่สิบ ของคุณล่ะ” หนุ่มวัยสายรู้ได้โดยทันที ผู้ชายในวัยบ่ายคนนี้ไม่ใช่คนใต้ น่าจะเป็นคนอ่างทอง ราชบุรี นครปฐมหรือไม่ก็ สุพรรณบุรี ที่พยายามกลมกลืนให้เข้ากับคนใต้ และหมายเลขที่นั่งก็ติดกัน ด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรและพูดจาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นเป็นกันเอง หนุ่มใหญ่วัยสายตอบกลับไป “หมายเลขยี่สิบเอ็ดครับ” หลังพูดจาวิสาสะ เป็นที่คุ้นเคยกันแล้ว จึงต่างถามไถ่ชื่อแซ่ ว่าเป็นใครมาจากไหน ชายหนุ่มวัยสายจึงได้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว ผู้ชายที่นั่งตรงหน
สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ เปิดรับสมัครวัยรุ่นอายุ 60 + เรียนรู้ช่องทาง “ค้าออนไลน์ขายทั่วโลก” ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ในวันที่ 2-4 ก.ค. 62 คุณนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” โดยประชากรของประเทศไทยมีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 2564 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยจะมีประชากรผู้สูงอายุมากถึง ร้อยละ 20 ของประเทศ ซึ่งผู้สูงอายุจะเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทยในอนาคตอย่างแน่นอน การเตรียมพร้อมเพื่อจะเข้าสู่การเป็นประเทศ “สังคมผู้สูงอายุ” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้สูงอายุและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมพร้อมเพื่อให้เป็นผู้สูงอายุที่มีความสุขและมีคุณภาพของสังคมอย่างยั่งยืน ดังนั้น สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) จึงจัดโครงการอบรม “60 + ค้าออนไลน์ ขายทั่วโลก ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจแบ่งปัน” ในวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2562 เวลา 09.30-16.30 น. ณ True Digital Park (ทรู ดิจิทัล พาร์ค) สุขุมวิท 101 โดยเปิดรับสมัครผู้สนใ
ใครที่วางแผนชีวิตมาดี ว่าจะใช้เวลาหลังจากเกษียณจากงานแล้วอย่างไร และเตรียมความพร้อมไว้ในระดับหนึ่ง เชื่อว่าจะพบความสุขใจได้ไม่น้อยไปกว่าช่วงที่มีเงินเดือนเยอะๆ และตำแหน่งงานดีๆ มีอำนาจหน้าที่ใหญ่โตเลยแหละ แม้จะไม่มีเงินเดือนประจำแล้ว แต่ค่าใช้จ่ายในชีวิตนั้นเราสามารถจัดการให้ถูกลงได้ด้วยการทำบัญชีครัวเรือนเสียใหม่ ตัดรายจ่ายที่เคยฟุ่มเฟือยมือเติบออกไป แล้วอยู่กับความเป็นจริงที่ว่าความสามารถในการหาเงินของเราย่อมถดถอยลงตามอายุที่มากขึ้นและสังขารที่เสื่อมโทรมลง ดังนั้น ที่เคยออกไปกินข้าวนอกบ้านตามภัตตาคารแพงๆ หรือขึ้นเหลาถี่ๆ ก็ลดลงมาเสียบ้าง เหลือไว้แค่ไปพบปะสังสรรค์ตามวาระโอกาสอันควร กินน้อยลงหน่อย สุขภาพก็จะได้ดีขึ้นด้วย ที่เคยติดสุขกับการจับจ่ายช็อปปิ้ง ซื้อข้าวของแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ก็ชั่งใจดูก่อนสักนิดว่า สมควรไหม ไม่ใช่ยังต้องซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ใหม่อยู่ทุกเดือน ทั้งที่ไม่ค่อยมีงานให้ออกไปเดินเฉิดฉายอีกแล้ว ประหยัดมัธยัสถ์ อดออม ให้เป็นนิสัย แต่อย่าถึงขั้นให้ลูกหลานนินทาเอาได้ว่าตระหนี่ถี่เหนียวจนไม่รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ใครเอาเสียเลย ต้องรู้จักใช้เงินที่เก็บสะสม