สวพส
เมื่อเร็วๆ นี้ นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรีและประธานกรรมการมูลนิธิโครงการหลวง กล่าวเปิดการประชุมวิชาการผลงานวิจัย ประจำปี 2565 และเปิดงานประชุมวิชาการผลงานวิจัย ประจำปี 2565 โดย ศ.ดร. พงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ ประธานคณะทำงานวิจัยมูลนิธิโครงการหลวง กล่าวรายงาน พร้อมด้วย พลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรีและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ร่วมบรรยายพิเศษ “การขับเคลื่อนศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชนกาธิเบศดำริ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้บนพื้นที่สูง”, ดร. พงษ์วิภา หล่อสมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) บรรยายพิเศษ “ทิศทางงานวิจัยของประเทศ และแนวทางการสนับสนุนงานวิจัยบนพื้นที่สูง”, นาย วิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) บรรยายพิเศษ “การขับเคลื่อนงานวิจัยบนพื้นที่สูงภายใต้แผนปฏิบัติการด้านพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570)” ตามแนวทางของมูลนิธิโครงการหลวง (Royal Project Model) ภายในงานมีนิทรรศการผลงานวิจัยของมูลนิธิโครงการหลวง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) และหน่วยงานภาคีเครือข่
นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2565 พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บุคลากรจาก สวพส. และผู้แทนหน่วยงานเครือข่ายความร่วมมือ ร่วมรับรางวัลและแสดงความยินดีกับผลงานที่ได้รับ โดย นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เปิดเผยว่า รางวัลที่ได้รับแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ที่มุ่งมั่นและทุ่มเททำงานในชุมชนบนพื้นที่สูงอย่างมีประสิทธิภาพเข้าถึงพี่น้องเกษตรกร ส่งผลให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำหรับในปีนี้สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ได้รับรางวัลถึง 3 สาขา ทั้งหมด 8 รางวัล ได้แก่ – รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ 4.0 (PMQA 4.0) ระดับก้าวหน้า – รางวัลบริการภาครัฐ ประเภทพัฒนาการบริการ ระดับดี ผลงาน “แผนที่ดินรายแปลง” เข็มทิศแห่งความยั่งยืน – รางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมประเภทสัมฤทธิผลประชาชนมีส่วนร่วม ระดับดีเด่น ผลงาน ร่วมมือสร้างรายได้ ร่วมแรงใจให้ท้องอิ่ม สร้างรอยยิ้มชาวห้วยโทน – รางวัลการบริหารราชการแบบ
เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) จัดฝึกอบรม หลักสูตร “นักพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนแบบโครงการหลวง รุ่นที่ 1 หรือ นพส.1” (Training Program on Sustainable Highland Development Using the Royal Project System #1) โดยมีนางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรม นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ กล่าวว่า หลักสูตร “นักพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนแบบโครงการหลวง รุ่นที่ 1 (นพส.1)” นี้ เป็นประโยชน์ในการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรของทุกหน่วยงาน ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนงานพัฒนาพื้นที่สูง และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ อันจะก่อให้เกิดการประสานพลัง ในการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมั่นพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสร้างประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและบ้านเมือง หลักสูตร “นักพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนแบบโครงการหลวง” สวพส. ได้พัฒนาหลักสูตรและเนื้อหาจากประสบการณ์และผลสัมฤทธิ์ในการดำเนิ
การดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษที่ผ่านมาสามารถกล่าวได้ว่า ประสบความสำเร็จ ในการพัฒนาพื้นที่สูงที่มั่นคง เป็นคลังแห่งองค์ความรู้ และมีผลการดำเนินงานเชิงประจักษ์จนเกิดประโยชน์ สามารถแก้ปัญหาความยากจน ลดการปลูกฝิ่น การทำเกษตรแบบเลื่อนลอย ลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยรายการนอกแผนที่ EP.2 ได้ถอดบทเรียนแนวทางการปฏิบัติที่ดีและผลสำเร็จของมูลนิธิโครงการหลวง และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ในการนำรูปแบบการพัฒนาโครงการหลวงโมเดลไปขยายผลในพื้นที่อื่นของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี ส่งเสริมให้เกิดการพึ่งพาตนเอง มุ่งเน้นให้ “ชุมชนเป็นจุดศูนย์กลาง” ตามหลัก “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ภายใต้หลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในวิถีการเกษตรแบบปราณีต จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง หรือ สวพส. มีภารกิจสำคัญ ประกอบด้วย (1)ด้านงานวิจัย เพื่อสนับสนุนงานวิจัยโครงการหลวงและการวิจัยและพัฒนาผลิตผล/ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รวมทั้งเพื่อพัฒนาองค์ความรู้จากความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม (2) ด้านงานส่งเสริมและขยายผล โดยก
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ร่วมกับ ฝ่ายพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ เครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนบนพื้นที่สูง (MOU) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ให้มีความอยู่ดีมีสุข มีความเข็มแข็ง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Economy และมุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และพัฒนาส่งเสริมอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี พ.ศ. 2570 ผ่านกิจกรรม นิทรรศการ ศูนย์การเรียนรู้ ฯลฯ ให้เกิดประโยชน์ที่ดีต่อชุมชนและสังคม สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) กำหนดจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนบนพื้นที่สูง ระหว่าง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) นำโดย นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง และฝ่ายพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ เครือเจ
จากเป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาพื้นที่สูงของ สวพส. คือ “ชุมชนบนพื้นที่สูงมีความอยู่ดีมีสุข ด้วยการวิจัยและพัฒนา สืบสาน รักษา ต่อยอดงานโครงการหลวง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” โดยเน้นการพัฒนาบนฐานความรู้ เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างสมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพที่ตรงตามปัญหา ความต้องการ และภูมิสังคมของชุมชนภายใต้การมีส่วนร่วมของประชาชนและการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ สวพส. ได้เตรียมจัดทำหลักสูตร “นักพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนแบบโครงการหลวง” โดย นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง กล่าวว่า รูปแบบการพัฒนาพื้นที่สูงได้ยึดตามแนวทางโครงการหลวง เน้นการบรรลุผลสัมฤทธิ์ร่วมกันของหน่วยงานในรูปแบบบูรณาการตามบทบาทและภารกิจเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาเชิงพื้นที่ และความต้องการของคนในชุมชนเป็นศูนย์กลาง ตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) มีกลไกการสนับสนุนเพื่อให้เกิดการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมของหน
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ร่วมกับ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ หรือ อสพ. จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual MOU Signing Ceremony) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และร่วมมือทางวิชาการด้านพฤกษศาสตร์ ป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อต่อยอดการอนุรักษ์ การวิจัย และการนำทรัพยากรพันธุ์พืชมาใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงสังคมและเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ถ่ายทอดเทคโนโลยี และพัฒนาบุคลากร เพื่อการวิจัย การอนุรักษ์ รวมทั้งพัฒนาแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรและความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนสร้างความตระหนัก ให้สาธารณชนเห็นถึงคุณค่าความสำคัญของพันธุ์พืช ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป สำนักวิจัย และอุทยานหลวงราชพฤกษ์ กำหนดจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) นำโดย นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง และองค์การสวนพฤกษศาสตร์ นำ
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ร่วมกับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(วว.) จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual MOU Signing Ceremony) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มุ่งส่งเสริมสนับสนุนทางด้านการศึกษาวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการวิจัย เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนในทุกมิติ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) นำโดย นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย นำโดย ศาสตราจารย์ (วิจัย) ดร. ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจในรูปแบบเสมือนจริง (Virtual MOU Signing Ceremony) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นความร่วมมือในการส่งเสริมสนับสนุนทางด้านการศึกษาวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการวิจัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เพื่อการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน โดยมี นายสายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนา ด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ ดร. เ
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ได้ตระหนักถึงปัญหาและผล กระทบของหมอกควันและไฟป่าที่เกิดขึ้น โดย สวพส.มีภารกิจในการนำองค์ความรู้จากโครงการหลวงมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของชุมชนบนพื้นที่สูง ให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้โดยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดการเผาเพื่อการเกษตร เน้นการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นผล ให้จุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่สูงลดลง และมีแนวโน้มว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เปิดเผยว่า หากเอ่ยถึงปัญหาหมอกควันและไฟป่าในประเทศไทยคงจะทราบกันดีว่าปัญหานี้มีมานานหลายปี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือนั้นนับว่าเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษาภาคม 2563 เกิดจุดความร้อนสะสมในพื้นที่การดูแลของ สวพส. 8 จังหวัด จำนวน 7,322 จุด ทำให้ป่าต้นน้ำลำธารเสียหาย และค่า PM 2.5 สูงมาก ก่อให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตของประชาชน ซึ่งในส่วนของการแก้ไขปัญหานั้นทุกส่วนของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ และที่เห็นเป็นประจำทุกปีคือการ พ่นน้ำ การดับไฟป่า
นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เปิดเผยว่า นางสาวเพชรดา อยู่สุข รองผู้อำนวยการสถาบัน ด้านการพัฒนา และ นายอิทธิพล โพธิ์ศรี นักวิชาการ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกพืชของเกษตรกรบนพื้นที่สูง พบว่าพื้นที่สูงของประเทศไทยซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาคเหนือนั้นมีสภาพพื้นที่และภูมิอากาศต่างจากพื้นที่ราบเป็นอย่างมาก โดยเป็นเทือกเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 500 ถึงมากกว่า 1,000 เมตร ทำให้มีสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นและมีฝนตกชุก นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลและอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ประชาชนที่อยู่อาศัยบนพื้นที่สูงส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ จึงมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก โดยในอดีตดำรงชีวิตอยู่ด้วยการทำไร่เลื่อนลอย และปลูกพืชเพียงไม่กี่ชนิด คือ ข้าว ข้าวโพด และพืชผักท้องถิ่น เพื่อเป็นพืชอาหารเป็นหลัก ส่วนพืชรายได้มีน้อยมาก จึงเกิดปัญหาการปลูกฝิ่น ซึ่งเป็นพืชเสพติดที่สร้างปัญหาให้กับคนทั้งโลก ในการนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงทรงก่อตั้ง “โครงการหลวง” เพื่