โดรน
กรมวิชาการเกษตร จัดอบรมการพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชด้วยโดรนอย่างถูกต้องและปลอดภัย สำหรับภาคการเกษตร ลดแรงงาน – เพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตเกษตรกรไม้ผล นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดี กรมวิชาการเกษตร มอบหมายให้ นางช่อทิพย์ ศัลยพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรม หลักสูตร “เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศัตรูพืชด้วยอากาศยาน หรือ โดรน” สำหรับไม้ผล ให้เกษตรกรเพื่อนำความรู้ที่ได้ทั้งด้านแมลงศัตรูพืช โรคพืช วัชพืช และเทคนิคการพ่นสาร ไปปรับใช้ในการพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชด้วยโดรน ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จัดโดยคณะทำงานพิจารณาหลักเกณฑ์การใช้อากาศยานไร้คนขับ (drone) สำหรับการเกษตร สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โดยมีเกษตรกรผู้ปลูกไม้ผลและผู้สนใจ เข้าร่วมการฝึกอบรมกว่า 110 คน นางช่อทิพย์ ศัลยพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กล่าวว่า สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร ในฐานะหน่วยงานวิจัยด้านอารักขาพืชหลักของประเทศ ได้ศึกษาวิจัยการใช้อากาศยานทางการเกษตรในการพ่นสารป้
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ ศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub) ของรัฐบาลซึ่งจะยกระดับการผลิตอุตสาหกรรมการเกษตร ทำให้ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในกระเป๋าต้องมีเงิน” โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดการขับเคลื่อนผ่านกลไกสำคัญ คือ 1. การยกระดับสินค้าเกษตรสู่การเพิ่มรายได้ และ 2. การเสริมแกร่งให้กับเกษตรกรและคนในภาคเกษตร ซึ่ง “การส่งเสริมให้เกษตรกรเป็นผู้ให้บริการทางการเกษตร” เป็นหนึ่งในหลายแนวทางย่อยที่สำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ จากการที่สาขาบริการทางการเกษตรมีสัดส่วนร้อยละ 3 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมสาขาเกษตรกรรม โดยในปี 2566 สาขาบริการทางการเกษตรมีมูลค่าประมาณ 46,000 ล้านบาท และในปี 2567 มีแนวโน้มการขยายตัวร้อยละ 0.3-1.3 สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มของปริมาณการใช้บริการทางการเกษตรผ่านเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเหตุปัจจัยข้อจำกัดด้านแรงงานและเวลา อีกทั้งการลงทุนซื้อเครื่องจักรกลหรือเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ของเกษตรกรรายย่อยจะมีจุดคุ้มทุนที่ใช้ระยะเวลายาวนานและมีความเสี่ยงจากคว
ในการพ่นสารสลายตอซังหลังการเก็บเกี่ยว เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 และแอโร โดรนได้สาธิตการบินในแปลงตัวอย่างของเกษตรกร โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกมาเป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ แอโร โดรน สนับสนุนกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มทักษะการบินมืออาชีพ และทักษะการซ่อมบำรุง โดยได้มีการฝึกอบรมนักบินมากว่า 1,000 ราย ใน 27 จังหวัด
เตรียมพบกับโซลูชั่นการเกษตรระบบอัตโนมัติ ในงานเปิดตัว “XAG P100 by FarmInno (Thailand)” กรุงเทพฯ 15 กันยายน 2566 – เตรียมตัวให้พร้อมกับงานเปิดตัวเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะแห่งปี ฟาร์มอินโน (ไทยแลนด์) โดย กลุ่มบริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์ใหม่แห่งวงการเกษตรไทยด้วยโซลูชั่นเกษตรระบบอัตโนมัติ พบกับโดรนเพื่อการเกษตรไร้คนขับ (Fully Autonomous Agricultural Drone) จาก XAG บริษัทเทคโนโลยีทางการเกษตรอัจฉริยะ พร้อมรับฟังประสบการณ์ด้านเกษตรอัจฉริยะจากเกษตรกรมืออาชีพและนักบินโดรนตัวจริงเสียงจริง และพลาดไม่ได้กับเทคโนโลยีการเกษตรใหม่ๆ อีกมากมาย ที่ยกขบวนมาโชว์ศักยภาพสุดล้ำเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในงานเปิดตัว “XAG P100 by FarmInno (Thailand)” วันที่ 28 ตุลาคม 2566 ณ อยุธยา ซิตี้ พาร์ค เวลา 09.00-16.00 น. ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ทาง https://forms.gle/HPewpk15j8d3XyZb9 (รับจำนวนจำกัด 50 ท่านแรก) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/FarmInnoThailand
ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดโมเดลธุรกิจเกษตรแบบใหม่ ให้ทุกท่านได้เป็นเจ้าของผลผลิตมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองคุณภาพ แบบเช่าเหมายกต้นตลอดฤดูกาลเก็บเกี่ยว ในพื้นที่ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยทุกขั้นตอนการผลิตระบบ GAP ตามมาตรฐานการส่งออก การันตีผลผลิตมะม่วงคุณภาพเริ่มต้นที่ 50 กิโลกรัม/ต้น (ขนาดผล 300 กรัม ขึ้นไป) พร้อมจัดส่งให้ถึงบ้าน นายสุรชัย ศาลิรัศ ผู้อำนวยการฟาร์มมหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า “สำหรับการเปิดขายมะม่วงแบบเหมายกต้นตลอดฤดูกาลเก็บเกี่ยวนั้น ถือเป็นโมเดลธุรกิจเกษตรแบบใหม่ ที่ให้ท่านได้เป็นเจ้าของมะม่วงทั้งต้น โดยมีเจ้าหน้าที่ นักศึกษา ดูแลดำเนินการทุกกระบวนการผลิตระบบ GAP ตามมาตรฐานการส่งออก ตั้งแต่ต้นฤดูกาล จนถึง ช่วงเก็บเกี่ยวการผลิต คือ ตัดแต่งกิ่งหลังการเก็บผลผลิตเพื่อฟื้นฟูสภาพต้นในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม มีการป้องกันศัตรูพืชเพื่อรักษาคุณภาพผลผลิตช่วงออกดอก และก่อนห่อผล ในเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ตัดแต่งผลและห่อผลเพื่อปรับปรุงคุณภาพสีผิว ป้องกันโรคและแมลง ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากแปลง คัดขนาดและคุณภาพผลผลิตในเดือนพฤษภาคม พร้อมจ
คุณช่อเฟื่องฟ้า ลินิฐฎา หรือ คุณช่อ อยู่ที่หมู่ 6 บ้านร้องเรือ ตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ชาวสวนลำไยรุ่นใหม่ หันมาใช้โดรนพ่นยาในสวนลำไย พ่อแม่เปิดใจเห็นด้วยจากเมื่อก่อนใช้เวลาพ่นยาหลายวัน หลังใช้โดรนย่นเวลาการพ่นได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาที ลดต้นทุนได้ถึง 20,000 บาท คุณช่อ เล่าว่า พ่อแม่เป็นชาวสวนลำไย ได้เห็นความลำบากของพ่อแม่ในการทำงานแบบเดิมๆ คือการจ้างแรงงานมาพ่นยาลำไย คุณช่อมีความเห็นว่าการทำแบบนี้มันทำให้การทำงานมันช้า ไม่ประหยัดเวลา เพราะต้องคอยลากสายยางไปมาอยู่ตลอดเวลา หนึ่งต้นกว่าจะพ่นเสร็จใช้เวลาไปแล้วครึ่งชั่วโมง สวนคุณช่อทั้งหมด 1 ไร่ มีลำไย 400 ต้น ต้องใช้เวลาพ่นทั้งสวนเป็นอาทิตย์ หากพ่นเองก็ยิ่งใช้ระยะเวลาที่นานขึ้น หากจ้างคนงานมาพ่นก็ต้องสิ้นเปลืองเงิน ทำให้ต้นทุนการผลิตนั้นสูงขึ้นตามไปด้วย ก่อนที่จะรู้จักโดรนทำเกษตร คุณช่อได้มีโดรนเล็กสำหรับถ่ายภาพมุมสูงอยู่แล้ว ประกอบกับรู้ว่ามีโดรนเกษตรสามารถใช้ในสวนลำไยได้ จึงตัดสินใจซื้อมาใช้งานจากการมองเห็นว่า โดรนจะสามารถช่วยลดต้นทุน และระยะเวลาการพ่นยาของสวนลำไยครอบครัวได้ กระบวนการใช้งาน คุณช่อ บอกว่า ก
นายนพดล ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 4 ขอนแก่น (สศท.4) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศท.4 ได้ศึกษาแนวทางการพัฒนาสินค้าอัตลักษณ์ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ (GI) จังหวัดร้อยเอ็ด ในพื้นที่อำเภอเกษตรวิสัย โดยลงพื้นที่สำรวจเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างที่นำเทคโนโลยีโดรนมาใช้ในการผลิตข้าว กับเกษตรกรที่ไม่มีการใช้เทคโนโลยีในการผลิตข้าว จำนวนกลุ่มละ 32 ราย พบว่า เทคโนโลยีโดรนมาใช้ในการผลิตข้าว โดยนำมาใช้ในการฉีดพ่นยา/สารเคมีพ่นปุ๋ยน้ำ หรือฮอร์โมน ซึ่งการใช้โดรนจะทำให้เกิดประสิทธิภาพการผลิตที่ดี การฉีดพ่นกระจายตัวได้อย่างทั่วถึง ลดการเหยียบย่ำในแปลงนาข้าว ลดความเสียหายของผลผลิต ลดผลกระทบจากการสัมผัสสารเคมีและปัญหาด้านสุขภาพของเกษตรกร รวมถึงลดระยะเวลาในการทำงาน และสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานอีกด้วย ทั้งนี้ ผลสำเร็จของการใช้เทคโนโลยีโดรนในการผลิตข้าว ส่งผลให้เกษตรกรได้ผลผลิตต่อไร่เฉลี่ย 393 กิโลกรัม/ไร่/ปี ในขณะที่เกษตรกรที่ไม่มีการใช้เทคโนโลยีในการผลิตข้าว ได้ผลผลิตต่อไร่เฉลี่ย 342 กิโลกรัม/ไร่/ปี ซึ่งจะเห็นได้ว่าเกษตรกรที่ใช้เทคโนโลยีโดรนในการผลิตข้าว มีผลผลิตต่อไร่
เมื่อกล่าวถึงการทำเกษตรสมัยใหม่ หรือ Smart Farming ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับที่ใช้ในภาคเกษตร หรือ ‘โดรน’ ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศ ในบทความของฝรั่งถึงขนาดใช้คำว่า ‘โดรน’ คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของการเกษตร ทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากการขาดทรัพยากรบุคคลที่มีทักษะ เครื่องจักร เครื่องมือหรืออุปกรณ์หนักอื่นๆ สำหรับการใช้งานทางการเกษตรที่มีความแม่นยำหลายอย่างเช่น การตรวจสอบพืชในแต่ละวัน การวิเคราะห์ดินและภาคสนาม การให้น้ำ การฉีดพ่นพืช การทำแผนที่ภาคสนาม การประเมินสุขภาพพืช และการตรวจสอบปศุสัตว์ ถึงตรงนี้จะเห็นว่า ‘โดรน’ ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะการใช้ในด้านการให้ปุ๋ย พ่นยา แต่ยังสามารถวิเคราะห์ดินฟ้าอากาศ ตรวจสอบคุณภาพของพืช ซึ่งปัจจุบันผู้เล่นหลักในตลาดโดรนเพื่อการเกษตรทั่วโลก ได้แก่ SZ DJI Technology Co., Ltd. (จีน), AeroVironment, Inc. (สหรัฐฯ), Israel Aerospace Industries Ltd. (อิสราเอล), PrecisionHawk Inc. (สหรัฐฯ), Trimble Inc . (สหรัฐฯ), Parrot SA (ฝรั่งเศส), Microdrones GmbH (เยอรมนี), AgEagle Aerial Systems Inc. (สหรัฐฯ), American Robotics,
วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร เป็นสถานศึกษาสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ชื่อเดิมว่า “โรงเรียนเกษตรกรรมแผนใหม่ชุมพร” ประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2505 บนเนื้อที่ 2,431 ไร่ 1 งาน 30.7 ตารางวา ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 8 ถนนเพชรเกษม ตำบลตะโก อำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร เนื่องด้วย เป็นสถานศึกษาที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการเกษตรและเทคโนโลยี จึงให้รายละเอียดเรื่องของสภาพพื้นที่ไว้ ดังนี้ สภาพพื้นดินเป็นดินร่วนปนทราย ชนิด chumphon series มีค่า pH 4.8-6.5 เฉลี่ย 5.65 มีปริมาณน้ำฝนตกทั้งปี ประมาณ 2,000 มิลลิเมตร อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส สภาพอากาศทั่วไปร้อนชื้น ความชื้นเฉลี่ย 82 เปอร์เซ็นต์ พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ในการทำฟาร์ม ประมาณ 1,778 ไร่ เป็นที่พักอาศัยและอาคารสถานปฏิบัติการสอนประมาณ 498 ไร่ และเป็นพื้นที่สงวนเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ประมาณ 155 ไร่ แหล่งน้ำที่ใช้บริโภค ส่วนใหญ่ใช้น้ำจากคลองเพรา น้ำประปา น้ำฝน และน้ำดื่มบรรจุขวด สำหรับน้ำใช้ในฟาร์ม ส่วนหนึ่งได้จากคลองเพรา และบางส่วนได้จากอ่างเก็บน้ำภายในสถานศึกษา ปัจจุบัน มี ว่าที่ร้อยตรีนิพนธ์ ภู่พลับ ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยก
นับวันแรงงานภาคเกษตรหายากยิ่งขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะวิกฤตอันเนื่องมาจากโควิด-19 แรงงานเพื่อนบ้านกลับภูมิลำเนาแล้วกลับมายาก ส่งผลให้งานเกษตรหลายสาขาเดือดร้อน ในสวนไม้ผลได้รับผลกระทบไม่น้อย ทำให้หลายฝ่ายหาทางช่วยกันแก้ไข บริษัท ไบโอ อโกรไซแอนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี คือผลิตภัณฑ์ป้องกันกำจัดโรครากและโคนเน่าในทุเรียน ก็มีการศึกษาทดลองเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานเช่นกัน คุณบุญมี เรืองรัตน์ ประธานบริษัท ไบโอ อโกรไซแอนซ์ จำกัด ตั้งอยู่ เลขที่ 873 หมู่ที่ 2 ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เล่าว่า บริษัทมีผลิตภัณฑ์ป้องกันกำจัดโรครากและโคนเน่าในทุเรียน ประกอบด้วย หนึ่ง ดินไล่ท็อป มีการรวมจุลินทรีย์ไว้ 5 ชนิด คือ ไตรโคเดอร์มา คีโตเมียม แอคติโนมัยซีท และอื่นๆ สอง ไบโอคอมพลีส เป็นแร่ภูเขาไฟเกรดสูงจากรัสเซีย เป็นตัวปรับปรุงบำรุงดิน ให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตได้เร็ว สาม ปุ๋ยดาวอวกาศ เป็นปุ๋ยสูตรต่ำ รู้จักกันดีในนามปุ๋ยตู้เย็น เมื่อใส่ลงดิน หากพืชต้องการพืชก็จะดูดไปใช้ หากไม่ต้องการก็จะเก็บไว้ในแร่ภูเขาไฟที่เป็นฟิลเลอร์ คุณบุญมี บอกว่า ทาง