หลายปีที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่จำนวนมากเลือกเดินออกจากธุรกิจเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม เนื่องจากมองเป็นงานหนัก บางคนมองว่าไม่เท่ รวมถึงบางคนมองว่าเป็นงานยากในสถานการณ์ปัจจุบัน
แต่สำหรับ นิ้ง-สิริยากร บัณฑิตป้ายแดง เจ้าของแบรนด์ทุเรียน “ลูกสาวกำนัน” จ.จันทบุรี เลือกยืนหยัดกลับมาสานต่อธุรกิจสวนทุเรียนของครอบครัว กลายเป็น New Gen ยุวเกษตรกร ที่มุ่งมั่นให้ธุรกิจเกษตรเติบโตอย่างมีนวัตกรรม

นิ้งเล่าว่า เดิมเป็นเด็กที่ชื่นชอบงานด้านวิชาการ จุดเปลี่ยนสำคัญคือ ช่วง ม.6 คุณพ่อไปเห็นทุนการศึกษา ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) เพื่อเข้าศึกษาต่อคณะเกษตรนวัตและการจัดการ (IAM) คณะที่ช่วยให้เกษตรกรเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ สร้างรายได้สูง
“ตอนแรกเคยตั้งคำถามว่า ถ้าเรียนด้านเกษตรกรรมเฉยๆ จะไหวหรือไม่ แต่ที่บ้านบอกเราชัดเจนว่า ไม่ได้อยากให้เรากลับมาเพื่อทำสวน แต่อยากให้มาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม—”

“—ทางคณะให้เราเรียนรู้ด้านเกษตรควบคู่กับธุรกิจ ไม่ใช่เรียนแค่ทฤษฎี แต่ให้เราได้เข้าสู่ภาคปฏิบัติจริงๆ ตลอด 4 ปี ทั้งการฝึกงานที่สวนทุเรียนในจังหวัดอื่น การฝึกงานเป็นแอดมินเพจ การเรียนจริง ทำจริง ส่งผลให้เรารู้วิธีเอาทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ และการนำเทคโนโลยีมาต่อยอด” เกษตรกรนิวเจนระบุ
หลังเรียนจบ นิ้ง-สิริยากร เริ่มบริหารที่ดินที่ได้รับจากคุณพ่อ ขนาดประมาณ 5 ไร่ เป็นสวนทุเรียนของตัวเอง พร้อมทั้งเข้าไปช่วยทำการตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตในสวนครอบครัว
ด้วยการสร้างแบรนด์ทุเรียน “ลูกสาวกำนัน” ขายสินค้าผ่านออนไลน์หลากหลายแพลตฟอร์ม
สิ่งที่ได้รับจากการเรียนทำให้นิ้งเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของแต่ละแพลตฟอร์ม มากขึ้น และเลือกพัฒนาสินค้าให้เหมาะกับผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม เช่น Tiktok จะมีกลุ่มลูกค้าหลากหลายช่วงอายุและเจเนอเรชั่น จึงมีสินค้าทุเรียนลูกป๊อกแป๊กขนาดมินิ ราคาไม่แรง ไปจนถึงทุเรียน 5 พู เกรดเอ ไว้ไลฟ์ รองรับทุกกลุ่ม
ขณะที่บนเฟซบุ๊ก นิ้งจะนำเสนอโปรดักต์ 2 เกรด ทั้งเกรดธรรมดาและ เกรดพรีเมียม ส่วนบนช่องทาง All Online ของเซเว่น อีเลฟเว่น จะเน้นโปรดักต์เกรดสูงที่สุด

ความเข้าใจดังกล่าวส่งผลให้สามารถบริหารจัดการผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน การเรียนยังทำให้ได้รับทักษะการวางแผนและการบริหารจัดการ เช่น การบริหารจัดการน้ำในปีที่น้ำแล้ง จากเดิมต้องใช้วิธีการลองผิดลองถูก ซึ่งได้เตรียมขุดสระไว้ล่วงหน้า ทำให้สวนของนิ้งมีผลผลิตเพิ่มขึ้น สวนทางกับตลาดที่มีผลผลิตลดลง
เฉพาะ 5 เดือนแรกของปีนี้สวน ของนิ้งมีรายได้กว่า 6 ล้านบาท โดยปีหน้าตั้งเป้าสู่ยอดขาย 8 หลัก
นิ้งมองว่า หากชาวสวนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่ดี ผลผลิตของประเทศก็คงมีมากขึ้น

ซึ่งคณะเกษตรนวัตและการจัดการ พีไอเอ็ม มุ่งสร้างนักจัดการเกษตรมืออาชีพผ่านรูปแบบ Work-based Education บ่มเพาะผู้เรียนให้มีทักษะในด้านต่างๆ ที่ตอบโจทย์การดำเนินงานตลอดโซ่อุปทานเกษตร ได้แก่
การใช้นวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ การคิด วิเคราะห์ แยกแยะ เพื่อการจัดการเชิงธุรกิจ และการสร้างคุณค่าทางธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
รวมถึงการเป็นผู้ประกอบการที่นำนวัตกรรมด้านการจัดการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เรียนเกษตรจบแล้ว ไปทำเกษตรให้รวย พร้อมขับเคลื่อนความสำเร็จสู่เกษตรกร สังคม และองค์กรได้อย่างยั่งยืน
นายเสนีย์ ธรรมจิตร์ หรือ กำนันติ๊ก กำนันตำบลคมบาง คุณพ่อของนิ้ง-สิริยากร เล่าว่า ตัวเขามีกำลัง มีองค์ความรู้ ทำให้ทุเรียนมีผลผลิตได้ แต่ขาดเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่ม
พอเห็นทาง PIM ในกลุ่มซีพี ออลล์ มี MOU กับกรมส่งเสริมการเกษตร มีทั้งทุนการศึกษา มีทั้งรูปแบบการเรียนการสอนที่ให้ได้ปฏิบัติจริง มีนักศึกษามาให้คำแนะนำที่โรงเรียนมัธยมศึกษาของลูก จึงสนใจสนับสนุนให้ลูกต่อยอด
“ภูมิใจที่เห็นลูกเราเรียนที่นี่แล้วเขาเติบโตขึ้นมาก สินค้าแบรนด์ที่ขายออนไลน์เขาก็ออกแบบกล่อง ออกแบบแพ็กเกจจิ้งเอง ทำการตลาด หาช่องทางใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่ม แบ่งกลุ่มลูกค้า ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้น พอน้องนิ้งกลับมา เราเองก็ได้เรียนรู้บางเรื่องจากเขาไปด้วย”
ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า ปัจจุบัน ซีพี ออลล์ วางกรอบกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนช่วงปี 2567-2568 ภายใต้แนวคิด “2 ลด 4 สร้าง 1 DNA” ตอบโจทย์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

“2 ลด” ได้แก่ ลดการใช้พลาสติก ลดการใช้พลังงาน “4 สร้าง” ได้แก่ สร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างชุมชนอุ่นใจ และ “1 DNA” เป็นแกนขับเคลื่อนด้านธรรมาภิบาล ได้แก่ DNA ความดี 24 ชั่วโมง
นิ้ง-สิริยากร เป็นหนึ่งในตัวอย่างสำคัญของความมุ่งมั่นในการ “สร้างคน” สร้าง New Gen ยุวเกษตรกร กลับมาขับเคลื่อนธุรกิจเกษตร ซึ่งเป็นฐานรากสำคัญของประเทศ
การสร้างคนเป็นเรื่องหนึ่งที่เรามุ่งมั่นดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ผ่านสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และอีกหลากหลายช่องทาง เพราะเราต้องการช่วยสร้างคนเก่ง คนดี มีความสามารถผ่านการศึกษา เพื่อช่วยให้สังคมและเศรษฐกิจของไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง