เมื่อวันที่ 31 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นต่อเนื่องทำให้ที่บริเวณสถานีเกษตรที่สูงดอยผาหม่น กรมส่งเสริมการเกษตร แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัดเชียงราย จัดให้มีนิทรรศการไม้ดอกบานบนดอยผาหม่น โดยนำเอาดอกทิวลิปออกมาโชว์ให้กับนักท่องเที่ยวได้ชม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวยังภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน และผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้สวยๆ สามารถแวะไปเยี่ยมชมกันได้
พันตรีเจษฎา แก่นจันทร์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ประสานงานโครงการพระราชดำริ ดยยาวดอยผาหม่น บอกว่า ดอกทิวลิปที่ดอยาหม่นเป็นแหลงผลิตเดียวของจังหวัดเชียงราย มีหลายสีโดยเฉพาะสีเหลืองสวยงามมาก ขอเชิญนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมกัน เดินทางจากภูชี้ฟ้ามาแค่9กิโลเมตร
MOST POPULAR
สมัยก่อน “กระจับเขาควาย” เป็นวัชพืชเท่านั้น แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นพืชที่สามารถสร้างรายได้ให้ไม่น้อย ใช้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวเพียงแค่ 4 เดือนก็ได้ผลผลิตจำหน่าย สามารถเก็บขายได้ 2-3 รอบเลยทีเดียว กระจับเป็นพืชน้ำล้มลุกอายุหลายฤดู มีอยู่ทั่วไป ลักษณะเป็นกอลอยน้ำ ชอบน้ำนิ่ง มีรากหยั่งยึดดินและมีไหล ใบเดี่ยวมี 2 แบบ ใบที่ลอยน้ำมีก้านยาว อวบน้ำและพองเป็นกระเปาะตรงกลาง ทำให้ลอยน้ำได้ดี แผ่นใบมีรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนหรือรูปพัด ใบจะเรียงรอบลำต้นเวียนเป็นเกลียวถี่ๆ ทำให้ดูเหมือนใบแผ่เป็นวงรอบต้น ใบอีกแบบหนึ่งอยู่ในน้ำ เป็นเส้นฝอยๆ คล้ายราก ดอกเป็นดอกเดี่ยวสีขาว ออกที่โคนก้านใบ มีกลีบดอก 4 กลีบ บานอยู่เหนือน้ำ เมื่อติดผลแล้วก้านดอกจะงอกลับลงน้ำและผลจะเจริญอยู่ใต้น้ำ ผลอ่อนสีม่วงอมแดงจะเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อแก่ ส่วนที่เป็นเขาโค้ง 2 ข้าง เจริญมาจากกลีบเลี้ยง ผลหรือฝักกระจับมีสีดำขนาดใหญ่ เปลือกหนาแข็งงอโค้งคล้ายเขาควาย เมื่อกะเทาะเปลือกนอกที่แข็งออก จะได้เนื้อในสีขาว มีแป้งมาก สำหรับประโยชน์ของกระจับมีมากมาย ซึ่งส่วนมากและการใช้ประโยชน์จากกระจับจะนิยมนำฝักกระจับ มากิน เนื้อของฝักกระจับสามาร
AHSAN Trustmark (อาห์ซานทรัสมาร์ค) “มาตรฐานรับรองผลิตภัณฑ์” จากงานวิจัยโดย มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ร่วมกับกรอบการวิจัย “การพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการในพื้นที่ (Local Enterprises) บนฐานทรัพยากรพื้นถิ่น เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่” ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พัฒนากุญแจดอกสำคัญ “เครื่องมือช่วยสื่อสารและนำเสนอสินค้า” เปิดโลกธุรกิจชุมชนให้กว้างขึ้น เจาะตลาดผู้บริโภคทั้งชาวมุสลิม ผู้บริโภคทั่วไป ตลอดจนคู่ค้าในกลุ่มประเทศอาหรับ ทั้งนี้ การรับรองมาตรฐาน AHSAN Trustmark ไม่ได้เกิดจากการกำหนดโดยหน่วยงานรัฐ แต่เกิดขึ้นมาจากการรวมกลุ่มที่เข้มแข็งของผู้ประกอบการ (Bottom-Up) ฮิญาบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนในพื้นที่อย่างยั่งยืน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัฮซูม สะตีแม จากมหาวิทยาลัยฟาฏอนี เปิดเผยว่า มาตรฐานการรับรอง AHSAN Trustmark เกิดขึ้นจากการที่คณะวิจัยได้มีโอกาสขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา
ช่วงหน้าฝนเป็นปัญหาใหญ่ที่จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายได้ โดยเฉพาะการปลูกพืชผักทั้งการค้าและรอบบ้าน กรมส่งเสริมการเกษตรได้แนะนำให้เกษตรกรวางแผนการปลูกและรักษาพืชผัก เนื่องจากในช่วงฤดูฝนมีปริมาณน้ำมากและความชื้นในอากาศสูง อาจทำให้ผลผลิตเสียหายได้ หากเกษตรกรวางแผนการผลิตและดูแลรักษาไม่ดี ขอแนะนำ 7 เทคนิคการปลูกพืชผักให้เหมาะกับช่วงฤดูฝน ดังนี้ 1. เลือกชนิดพืชผักที่เหมาะสมสำหรับปลูกในฤดูฝน ได้แก่ ผักที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นจำพวกผักใบ เช่น กวางตุ้ง ผักบุ้งจีน ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น คะน้า ผักเถาเลื้อย เช่น ตำลึง ถั่วลันเตา แฟง มะระ ผักยืนต้น เช่น ชะอม พริก มะเขือ เป็นต้น 2. เมล็ดพันธุ์ควรใช้จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และเพื่อเป็นการป้องกันเชื้อราที่ติดมากับเมล็ดควรแช่เมล็ดพันธุ์ในน้ำอุ่น ประมาณ 50 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที 3. การเตรียมแปลงในฤดูฝนดินมีการอุ้มน้ำมาก จะทำให้ขาดอากาศและตายในที่สุด ดังนั้น พืชผักที่มีรากไม่ลึกมาก ควรยกแปลงให้สูงไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร พร้อมทั้งเพิ่มปริมาณปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักมากกว่าเดิม เพื่อลดความเป็นกรดของดิน 4. การจัดการแปลงหาวัสดุคลุมแปลง เพื่อป้องกันเม็ดฝนที่ส
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชวนคนที่มีใจรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่มาร่วมลดคาร์บอนให้โลกคูลล์ในงาน “ดีค้าบ เฟสติวัล” (Decarb Festival) กิจกรรมพิเศษเนื่องในวาระครบรอบ 20 ปีของค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเพาเวอร์กรีน (Power Green Camp) ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดีค้าบ – The Decarb Mission” ลดคาร์บอน ให้โลกคูลล์ “ดีค้าบ เฟสติวัล” พร้อมปลุกพลังสร้างสรรค์ให้ทุกคนมาเรียนรู้การนำเอาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อลดโลกร้อนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) ผ่านโซนกิจกรรมสุดครีเอทีฟมากมาย ภายในงาน นอกจากจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองค่ายวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่ยาวนานที่สุดในประเทศและร่วมส่งเสริมศักยภาพเยาวชนไทยให้เติบโตไปเป็นกำลังสำคัญในการช่วยปกป้อง ฟื้นฟู และมีส่วนร่วมแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมบนเวทีแห่งไอเดีย ยังจะได้พบไฮไลต์กิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ฟรี! ระหว่างวันที่ 2-3 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.