เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
News

สยามคูโบต้า ปิดยอดขายปี 60 ที่ 51,000 ล้านบาท ประกาศแผนเดินหน้าธุรกิจ สู่การเป็น “Global Major Brand” เน้นชูจุดเด่นที่นวัตกรรมและเทคโนโลยีอันทันสมัย

บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปี 2560            มียอดขายรวมปิดที่ 51,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในปี 2561 เติบโตขึ้น 10% พร้อมประกาศทิศทางและแผนเดินหน้าธุรกิจสู่การเป็น  “Global Major Brand” หรือ แบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมชูจุดเด่นด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการเกษตร ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดที่อยู่เคียงข้างเกษตรกรไทยมา 40 ปี

 

นายฮิโรโตะ คิมุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด แถลงผล              การดำเนินงานประจำปี 2560 ระบุว่า บริษัทฯ มียอดขายมูลค่ารวมปิดที่ 51,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนการทำธุรกิจในประเทศ 55% และต่างประเทศ 45% ในปีที่ผ่านมา ยอดขายได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประกอบกับราคาผลผลิตตกต่ำ แต่ภาพรวมตลาดทั้งในและต่างประเทศ ยังมีความต้องการเครื่องจักรกลการเกษตรอยู่จำนวนมาก และแม้กำลังซื้อจะชะลอตัว แต่เกษตรกรยังให้ความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขาย จึงทำให้แบรนด์คูโบต้ายังคงเป็นอันดับ 1 ในใจเกษตรกรในภูมิภาคนี้  โดยในปี 2561 บริษัทฯ  ตั้งเป้าจะเติบโตขึ้นอีก 10% และมีมูลค่ายอดขายรวมอยู่ที่ 56,000 ล้านบาท

“และจากปีนี้เป็นต้นไป เรามีเป้าหมายสำคัญที่จะก้าวสู่การเป็น  “Global Major Brand” หรือ “แบรนด์ชั้นนำระดับโลก” ตามความตั้งใจของบริษัทคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรของประเทศไทยที่อยู่เคียงข้างเกษตรกรไทยมา 4 ทศวรรษ ด้วยการวิจัยและพัฒนา ทั้งผลิตภัณฑ์และองค์ความรู้ รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการเกษตรต่างๆ    เพื่อส่งมอบเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้               อย่างแท้จริง ช่วยให้การทำเกษตรมีความแม่นยำและสะดวกสบายมากขึ้น ควบคู่ไปกับการดำเนินงานด้วยนโยบายตอบแทนสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้เติบโตไปพร้อมกับเราอย่างยั่งยืน”  นายคิมุระ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนบริษัทฯ ในปีนี้ นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์  กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวเสริมว่า ในปีที่ผ่านมา เราได้มีกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจด้วย KUBOTA (Agri) Solutions เกษตรครบวงจร ระบบการจัดการด้านการเกษตร ด้วยนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรมการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ และในปีนี้เอง เรายังคงเดินหน้าคิดค้น วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ การนำเอาระบบ GNSS (Global navigation satellite system)  เข้ามาใช้ร่วมกับแทรกเตอร์ เพื่อช่วยปรับระดับหน้าดินให้มีระนาบเดียวกัน รวมทั้งยังมีการติดตั้งระบบควบคุมทิศทางตรงอัตโนมัติ Guidance ร่วมกับรถดำนา เพื่อให้สามารถปักดำได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดปัญหาการปลูกข้าวไม่ตรงแนว ซึ่งขณะนี้ ได้อยู่ในขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนา โดยทิศทางดังกล่าว ได้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมภาคการเกษตรของไทยเข้าสู่เกษตร 4.0 อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำเกษตรแม่นยำสูง (Precision Agriculture) ที่จำเป็นจะต้องใช้นวัตกรรม ด้านการเพาะปลูกสมัยใหม่เข้ามาช่วยทำการเกษตรให้เกิดประสิทธิภาพ

ไม่เพียงเท่านี้ นอกจากบริษัทฯ จะนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์แล้ว ยังได้นำมาใช้พัฒนาระบบในด้านต่างๆ ของบริษัทฯ อีกด้วย ทั้งการบริการหลังการขาย เครือข่ายผู้แทนจำหน่าย และสยามคูโบต้า ลิสซิ่ง เพื่อให้เกษตรกรและกลุ่มลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสินค้าและการบริการ        ผ่านช่องทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และง่ายดายมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดรับกับสังคมดิจิทัลในยุคปัจจุบัน

“และในโอกาสที่สยามคูโบต้า จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 ในปีนี้ บริษัทฯ ยังได้วางแผนจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษมากมาย เพื่อเป็นการขอบคุณที่เกษตรกรไว้วางใจในแบรนด์คูโบต้ามาอย่างยาวนาน อาทิ กิจกรรม KUBOTA Expo การจัดงานสัมมนาข้าวในระดับภูมิภาค และกิจกรรม KUBOTA Service Day รวมไปถึงกิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรเป็นเจ้าของเครื่องจักรกลการเกษตรได้ง่ายขึ้น” นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม

ในตอนท้าย นายฮิโรโตะ คิมุระ ยังได้กล่าวเสริมถึงตลาดรถขุดขนาดเล็กคูโบต้าด้วยว่า ที่ผ่านมา            เราเป็นผู้นำตลาดรถขุดขนาดเล็กในประเทศไทย ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 และในปีนี้ เรายังคงตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำตลาดอีกเช่นเคย และจะขยายตลาดไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด            มากขึ้น โดยชูจุดเด่นทั้งในด้านคุณภาพสินค้าและอุปกรณ์ต่อพ่วง พร้อมบริการหลังการขายในโครงการ 9 Care ตรวจเช็กให้บริการ 9 ครั้ง อีกทั้งยังอาศัยเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศในการขยายตลาด เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจก่อสร้าง และการตอบสนองนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาล

 

Related Posts