นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งปี 2562 จากการตรวจสอบในเขตพื้นที่ของกรมชลฯ ในหลายพื้นที่ พบว่า จะมีปริมาณน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรเพียงพอ ขอยืนยันว่าปีนี้ประเทศไทยไม่เข้าขั้นประสบปัญหาภัยแล้ง เพราะทางกรมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการศึกษาข้อมูลการใช้น้ำรวมช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แล้วทำการวางแผนรับมือสถานการณ์ภัยแล้งเป็นอย่างดี และคาดว่าปริมาณน้ำจะเพียงพอใช้จนถึงต้นปี 2563
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า แต่ยังคงมีเขื่อนขนาดใหญ่ 6 แห่ง ยังต้องเฝ้าระวังน้ำแล้ง ประกอบด้วย 1.เขื่อนอุบลรัตน์ 2.เขื่อนทับเสลา 3.เขื่อนแม่มอก 4.เขื่อนกระเสียว 5.เขื่อนลำพระเพลิง และ6.เขื่อนลำนางรอง โดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนแม่มอก มีการสั่งห้ามทำการเกษตรทุกชนิด เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง หรือระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561- 30 เมษายน 2562 เพื่อให้เพียงพอกับการใช้เพื่ออุปโภคบริโภคมากกว่า ส่วนในช่วงที่เกษตรกรไม่สามารถทำการเกษตรได้ ทางกรมชลฯ ได้เตรียมแผนจ้างงานโดยจะดูทักษะของเกษตรกรแต่ละราย อาทิ การขุดลอกคูคลอง และงานที่เกี่ยวกับระบบชลประทาน เป็นต้น ซึ่งจะต้องจัดหางานที่เหมาะสมเพื่อจ้างงานต่อไป
“ส่วนอีก 4 เขื่อนที่เหลือ ได้มีการสั่งห้ามในการปลูกข้าวนาปรัง แต่อนุญาตให้ปลูกพืชผักที่สามารถกินได้เพื่อการดำเนินชีวิต ซึ่งการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งจะมีการจำกัดการใช้น้ำ โดยจะต้องเรียงลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง คือ การใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค หลังจากนั้นถึงจะนำไปใช้ในส่วนของการเกษตร ตามประเภทที่กำหนด และนำไปใช้เพื่อการอุตสาหกรรม เป็นลำดับสุดท้าย”
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ยังได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านเครื่องจักร-เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำเครื่องผลักดันน้ำ รถขุด เรือขุด วัสดุอุปกรณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนหรือพื้นที่เกษตรที่รอเก็บเกี่ยวให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นอกจากนี้กรมชลฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดการชลประทาน (เจเอ็มซี) ไว้กำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรน้ำด้วยความเป็นธรรม เพื่อลดความขัดแย้งอีกด้วย