โกสนจัดเป็นไม้มงคล ที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันดี เนื่องจากชื่อ “ โกสน” เป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า “กุศล” หมายถึง การสร้างบุญงาม ความดี จึงนิยมปลูกโกสนไว้หน้าบ้าน ในทางทิศตะวันออกของบ้าน มาตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อเป็นไม้เสริมสิริมงคล ให้ทุกคนในครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ความมีเสน่ห์ของโกสนอยู่ที่ลวดลายใบที่สวยงามสลับเฉดสีต่างๆ เช่น เฉดสีชมพูก็จะมีสีเขียวเข้มมีชมพูเข้ม เส้น ลายใบชัดเจน เฉดสีเหลืองก็จะออกสีไล่เลี่ยกันในโทนเหลือง เป็นต้น
โกสน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า โคร-ออน (Croton) เป็นไม้ประดับประเภทไม้พุ่ม ที่มีใบเป็นจุดเด่น โดยใบมีรูปทรงและสีที่สวยงามแตกต่างไปกับพรรณไม้อื่นๆ นิยมเป็นไม้กระถาง ให้มีลักษณะทรงพุ่มเล็กๆ หากต้องการให้มีทรงพุ่มใหญ่ จะใช้วิธีปลูกลงดิน

โกสนมีทั้งใบเล็ก-ใบใหญ่
ต้นโกสนเป็นไม้พุ่มที่มีขนาดตั้งแต่ พุ่มเล็ก จนถึงพุ่มใหญ่ ลักษณะเด่นของพันธุ์ไม้นี้คือ ทรงของใบมีหลายลักษณะผันแปรตามธรรมชาติ และมีเด่นที่ใบมีหลายสี เช่น เหลือง ส้ม ม่วง ขาว ชมพู ดำ และยังมีลักษณะใบลูกผสม ที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นมา
โกสนที่ใช้เป็นไม้ประดับงดงามนั้นมีชนิด (species) เดียวคือ โคเดียมหรือโคดิเอี้ยม วาริเกตั้ม Codiaeum variegatum แต่มีหลายพันธุ์ ดังต่อไปนี้
1. พวกใบเล็ก ลักษณะใบแคบ (Narrow Leaved) ใบแคบยาวลักษณะใบกลาง ใบแคบยาวลักษณะใบยาว ลักษณะใบแคบขอด ลักษณะใบแคบบิดเป็นเกลียว ใบแคบสะโพกใหญ่ ใบแคบมีสายระยาง ใบแคบปลายบิด มีพันธุ์ เช่น ใบเล็กแคบยาว สีแดงปนเหลือง สีทองแดงเข้ม มีจุดหรือประสีเหลือง สีเขียวอ่อนปนเหลืองสลับแดง เป็นต้น

2. พวกใบใหญ่ หรือ ใบกว้าง ใบกว้างแบบใบไม้ธรรมดา ใบกว้างมีสายระยาง ใบกว้างกลม ใบกว้างมีแฉกลักษณะใบสาเก สีม่วงเหลือง และชมพู สีเขียวสดปนเหลือง สีเหลืองแดงปนเขียว
โกสนพันธุ์พื้นเมือง เป็นไม้แดดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่โกสนสายพันธุ์ลูกผสม คือ ไม้ร่มรำไร ไม่ต้องการแสงมาก เป็นไม้ประดับกึ่งร่ม จะถูกแดดร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ไม้ใบโกสนที่นิยมจะเป็นสายพันธุ์ที่เป็นไม้ร่มกึ่งแดด สีสันแฟนซี เช่น ไม้ลักษณะ ใบกลม ใบใหญ่ สีแดง ได้ราคา เช่น รูปทรงกุหลาบ ใบซ้อน บางพันธุ์เป็นเหมือนรูปฉัตร เป็นต้น นี่คือเสน่ห์ของโกสนที่ไม่มีวันจาง
และการพัฒนาพันธุ์ใหม่ของโกสน ทำให้เกิดรูปลักษณ์และสีสันที่เด่นชัดสีจัดจ้าน ผสมผสานในต้นเดียวกัน ประกอบกับราคาไม่สูงนัก จึงเป็นไม้ประดับที่ ได้รับความนิยมในตลาดอย่างแพร่หลาย

การปลูกขยายพันธุ์
โกสน มีหลากหลายสายพันธุ์ นิยมปลูกเป็นไม้ร่มกึ่งแดด สีสันแฟนซี เช่น บุศรินทร์ เพชรมณี พระจันทร์ฉาย แสงอาทิตย์ นกกระจิบ รับทอง และมีอีกหลายอย่าง เป็นต้น ส่วนลักษณะสี สีแดง สีเหลือง สีชมพู หลากหลาย แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน โกสนสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น วิธีเสียบยอด ตอนกิ่ง ชำกิ่ง ทาบกิ่ง และเพาะเมล็ด
การเพาะเมล็ด เป็นการขยายพันธุ์โดยเพิ่มพันธุ์ใหม่ขึ้นมา เช่น ในช่อดอกอาจจะติดมา 10-20 เมล็ด ใน 1 เมล็ดก็คือพันธุ์หนึ่ง แต่ถ้าพันธุ์ไม้สวยก็ทิ้งไป แต่ต้องใช้เวลา 1 ปีขึ้นไป เพาะเมล็ดกว่าจะรู้ว่าสวยไม่สวยต้องใช้เวลาปีกว่าขึ้นไป นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่คนไม่นิยมเพาะจากเมล็ดนอกจากผู้ที่ต้องการทำไม้ประกวดหรือทำไม้สะสม แต่ถ้าเชิงพาณิชย์มักจะทำด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ปักชำ ตอน เสียบยอด ทาบกิ่ง เป็นต้น

การเสียบยอด เนื่องจากโกสนพันธุ์พื้นเมือง นับเป็นไม้ที่ปลูกทิ้งปลูกขว้างก็ไม่ตาย ดังนั้นการขยายพันธุ์โกสนในช่วงที่ผ่านมา เกษตรกรนิยมนำโกสนพันธุ์พื้นเมืองมาทำเป็นต้นตอ เพื่อให้การคงทน ต้านทานโรคได้ดี ลำต้นต้นแข็งแรง โดยโกสนพันธุ์พื้นเมืองที่ใช้เป็นต้นตอ เช่น พันธุ์ขุนช้างกินเลี้ยง เป็นต้น ส่วนการบำรุงนั้น ใช้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 หรือออสโมโคส หรือปุ๋ยละลายช้าก็ได้ การปลูก ใช้ดิน 1 ส่วน ใบไม้อะไรก็ได้ ถ้ามีใบก้ามปูก็ใช้ได้ 1 ส่วน ขุยมะพร้าว 1 ส่วน เพราะโกสนชอบวัสดุปลูกแบบโปร่ง ไม่ชอบน้ำมาก
กระแสความนิยมตลาดโกสน นอกจากจะเน้นเรื่องสีสันและลักษณะใบแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่าไม้เราสวยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับฟอร์มของไม้แต่ละต้น ถ้าฟอร์มสวยก็ทำเงินได้ ถ้าคนชอบสีออกเหลืองๆ ก็นิยมเลี้ยงไม้ ปิ่นแก้ว จันทรบูร จันทร์เจ้า เป็นต้น ส่วนที่มีลักษณะใบเกลียวยาวนั้น เป็นไม้เก่าแก่แล้ว เช่น การะเกด สายธาร มณีนาคราช เป็นต้น

การปลูกดูแล
โกสนชอบดินโปร่ง เวลารดน้ำจะผ่านลงที่ก้นกระถางไหลออกไปเลย แต่ไม่แฉะท่วมขัง เพราะถ้ารดแล้วไม่มีน้ำไหลออกกระถาง น้ำกักอยู่ช่วงล่างของกระถางมากก็ทำให้รากเน่าได้เหมือนกัน การเจริญเติบโตก็หยุดชะงัก แต่ถ้าดินกลับมาแห้ง แล้วต้นไม่เน่าตายไปเสียก่อน รากก็จะกลับมาเดินได้ แต่ต้นอาจจะโทรมไปบ้าง โดยธรรมชาติโกสนชอบน้ำ อาจรดน้ำวันเว้นวัน แล้วแต่สภาพอากาศ ถ้ารู้ว่าแฉะต้องหยุดรดทันที
ปัญหาที่พบบ่อย คือ ต้นโกสนเหี่ยวเฉา ซึ่งมี 2 สาเหตุ คือ เหี่ยวเพราะขาดน้ำ หรือเหี่ยวเพราะน้ำขัง ถ้าเหี่ยวเพราะขาดน้ำ อากาศร้อนมากน้ำไม่ได้รด เมื่อรดน้ำต้นจะกลับมาเหมือนเดิม แต่ถ้าต้นยังเหี่ยวอยู่ แสดงว่ามีปัญหาที่รากเน่าแล้วนั่นเอง วิธีแก้คือต้องเปลี่ยนดินก่อน สาเหตุเกิดจากดินแฉะมาก มองผิวเผินหน้าดินอาจดูแห้ง เมื่อยกกระถางดูพบว่ากระถางมีน้ำหนักมาก อันนี้ก็ต้องเปลี่ยนดิน หลังจากเปลี่ยนดินปลูกและดูเรื่องการให้น้ำอย่าบ่อยเกินไป ถ้าแล้งก็ให้น้ำวันละครั้งได้