“พุทธรักษา” เป็นพันธุ์ไม้ที่มีชื่อนามเป็นมงคล แปลว่า พระพุทธเจ้าทรงปกป้องคุ้มครองให้มีแต่ความสงบสุขร่มเย็นเมื่อปลูกต้นพุทธรักษาในทางทิศตะวันตกของบ้าน จะช่วยปกป้องคุ้มครองบ้านเรือนให้อยู่เย็นเป็นสุข เนื่องจาก“พุทธรักษา” มี “สีเหลือง” ตรงกับสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 จึงกำหนดให้พุทธรักษาดอกสีเหลือง เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันพ่อแห่งชาติ ตั้งแต่ในปี พ.ศ.2523 เป็นต้นมา
“พุทธรักษา” มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะฮาวาย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Canna indica L. ชื่อวงศ์ Cannaceae มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น สาคูมอญ (ภาคกลาง), พุทธรักษากินหัว(กรุงเทพฯ), พุทธสร(ภาคเหนือ), สาคูหัวข่า(ภาคตะวันออกเฉียงใต้), บัวละวง(ลพบุรี , ลำปาง) มุยหยิ่งเจีย, กวงอิมเกีย, เซียวปาเจีย, (จีน)

ลักษณะทั่วไป
“พุทธรักษา” เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นใต้ดินเป็นเหง้า เนื้ออ่อนอวบน้ำ แตกกอขึ้นเหนือพื้นดิน กาบใบเรียงอัดซ้อนกันแน่นตั้งตรงเป็นลำต้นเทียน ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับ ใบรูปรีถึงรูปไข่ ยาว 30-60 ซ.ม. ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบสีเขียว กลางใบเป็นเส้นนูน เห็นชัด ช่อดอกแบบช่อกระจะเกิดที่ปลายกิ่ง ช่อละ 8-10 ดอก กลีบเลี้ยงขนาดเล็ก 3 กลีบ ใบประดับย่อยสีเขียว
วงกลีบดอก 3 กลีบ รูปเรียวยาวปลายแหลม ขอบม้วนงอเข้าหากัน เกสรเพศผู้ที่เป็นหมันเปลี่ยนรูปคล้ายกลีบดอก มีขนาดใหญ่ สีเหลือง มีจุดประสีส้มที่บริเวณตรงกลาง เชื่อมติดกับเกสรเพศผู้ที่ไม่เป็นหมันและเกสรเพศเมียออกดอกตลอดทั้งปี
พุทธรักษา เจริญเติบโตได้ดีเมื่อปลูกในดินเหนียว ที่มีแสงแดดจัดหรือแดดปานกลาง ขยายพันธุ์โดยการแยกเหง้า เพาะเมล็ด ปัจจุบันพุทธรักษามีหลากหลายสายพันธุ์ มีการผสมพันธุ์ได้ดอกสีต่างๆ ตั้งแต่เหลืองอ่อนไปจนถึงสีแดงเข้ม บางต้นก็ออกดอกเป็นพันธุ์ผสม มีดอกสีแดงและเหลืองในช่อดอกเดียวกันมี
เป็นพืชผักที่กินได้
ในหลายประเทศใช้ดอกพุทธรักษา ดอกสดหลากหลายสี มาทำเป็นสลัดผักสด บำรุงเลือด
พุทธรักษามีสรรพคุณทางยา ดังนี้
ลำต้นใต้ดิน (เหง้า) รสขม เย็นจัด ใช้แก้โรคตับอักเสบ (โรคดีซ่าน) บิดเรื้อรัง อาเจียนเป็นเลือด ประจำเดือนมาไม่หยุด ตกขาว ประจำเดือนไม่ปกติ และแผลบวมอักเสบ ส่วนดอก รสฝาด สุขุม ใช้ห้ามเลือดในบาดแผลสดและบาดแผลมีหนอง

วิธีใช้และปริมาณที่ใช้
ลำต้นใต้ดิน (เหง้า) ใช้ยาแห้ง หนัก 3 -10 กิโลกรัม ต้มน้ำกิน ภายนอกใช้ตำพอก
ดอก ใช้ดอกแห้งหนัก 10-15 กรัม ต้มน้ำกิน ภายนอกใช้ดอกสดตำพอก
ตำรับยา
1. ประจำเดือนมาไม่หยุด ใช้เหง้ากับดอกเข็ม (lxora Chinensis Lam) ตุ๋นร่วมกับไก่กิน
2. แก้ประจำเดือนมาไม่หยุด ตกขาว และปวดฟัน ใช้เหง้าแห้งผสมข้าวเหนียวตุ๋นกับไก่กิน
3. แก้โรคตับอักเสบเฉียบพลันทำให้ตัวเหลืองใช้เหง้าแห้งหนัก 15-30 กรัม (สดหนัก 60-90 กรัม) ต้มน้ำกินประมาณ 1 อาทิตย์จะเห็นผลตัวหายเหลือง
4. ดอกใช้ห้ามเลือดบาดแผลภายนอกใช้ดอกแห้งหนัก 10-15 กรัม ต้มน้ำกิน
เป็นยาพื้นบ้านในภูมิภาคเอเซีย
หลายประเทศในภูมิภาคเอเซียได้นำพุทธรักษามาใช้ประโยชน์ทางยา เช่น อินเดีย ใช้ขับเหงื่อปัสสาวะในอาการไข้และอาการบวมน้ำ กัมพูชา ใช้เหง้าต้มให้และคั้นเอาน้ำดื่มแก้คุดทะราด และใช้ชะล้างทำความสะอาดบาดแผล มาเลเซีย ใช้เหง้าปรุงเป็นอาหาร ชวา ใช้น้ำคั้นจากเหง้าแก้ท้องร่วง ในประเทศไทย หมอพื้นบ้านใช้เหง้าต้มกินเป็นยาบำรุงปอด แก้อาเจียนหรือไอเป็นโลหิตได้ดี

ลำต้นใต้ดิน (เหง้า) และดอก ของพุทธรักษานิยมนำใช้ประโยชน์ทางยาโดยลำต้นใต้ดิน สามารถขุดเก็บได้ตลอดปี ตัดก้านใบและรากฝอยทิ้ง ล้างให้สะอาด หั่นเป็นแผ่นตากแห้งเก็บใช้หรือหรือใช้สดก็ได้ ส่วนดอก อาจเก็บมาตากแห้งเก็บไว้ใช้ หรือใช้สดเลยก็ได้ ในอดีต หมอสมหมาย (นพ.สมหมาย ทองประเสริฐ) เคยใช้พุทธรักษา พันธุ์สีแดงอมชมพู ที่มีขนาดเหง้าใหญ่ อายุไม่ต่ำกว่า 10 เดือน เป็นส่วนผสมในสูตรยารักษา มะเร็งเม็ดเลือด และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
นอกจากนี้ยังมีผลการศึกษาวิจัยพบว่า พุทธรักษาสายพันธุ์ Canna indica L. มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดเป็นองค์ประกอบ เช่น แอลคาลอยด์ ฟลาโวนอยด์ เทอร์พีนอยด์ ซาโปนิน และแทนนิน จึงมีการทดลองนำสารสกัดจากพุทธรักษามาใช้ทดสอบฤทธ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตามงานวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้นที่ศึกษาในระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าจะสามารถรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ได้
……….
ขอบคุณข้อมูลเรื่อง พุทธรักษา โดย ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ คอลัมน์: สมุนไพรน่ารู้ นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 10 ฉบับ กุมภาพันธ์ 2523