ธ.ก.ส. ​ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม

“ยอ” มีชื่อสามัญ : Noni ; Vomit fruit ; Great morinca ; มะตาเสือ (เหนือ) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Morinda citrifolia วงศ์ : Rubiaceae ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ยอ เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลาง จัดว่าเป็นไม้มงคลของคนไทยที่นิยมปลูกกันในบริเวณบ้าน เป็นเคล็ดว่าจะได้มีแต่คนมาสรรเสริญเยินยอ ใบ มีขนาดใหญ่ หนา เขียวเข้มเป็นมัน มีหูใบเล็กๆ อยู่โคนใบจริง ดอกขนาดเล็กๆ สีขาว เป็นช่อกลมๆ ผลรูปรีๆ ทรงกระบอก ผิวขรุขระเป็นปุ่มปม เปลือกลำต้นสีเทาน้ำตาล แตกกิ่งเป็นชั้นๆ คล้ายต้นหูกวาง ให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี ใบก็ไม่ค่อยร่วง ใบยอ ประโยชน์ทางยา ใบยอ มีสรรพคุณเป็นยาระบาย บำรุงธาตุ แก้ไข้ ผลยอ รสเผ็ดร้อน ขับลม ฟอกเลือด ขับโลหิตปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้เจริญอาหาร ในทางโภชนาการ ใบยอใช้ทำห่อหมก ที่ใบอะไรก็ไม่สามารถมาแทนได้ มีกลิ่นรสเฉพาะตัว ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร หรือใช้ใส่แกงอ่อม แกงเผ็ด ผลสด คนอีสาน ใช้ตำเป็นส้มตำลูกยอ กินกันมาช้านาน ผลแก่ย่างไฟจิ้มเกลือให้สุภาพสตรีมีครรภ์กิน เพื่อช่วยขับน้ำนม ลดน้ำคาวปลาหลังคลอดบุตร ลูกยอ มีสารซีโรนิน (Xeronine) มากกว่าสับปะรดถึง 10 เท่า ช่วยลดคอเลสเตอรอล บรรเทาอาการจากภูมิแพ้ต่างๆ รากยอ

การติดตั้งเครื่องสำรองไฟฟ้า หรือ UPS[1]  (Uninterruptible Power Supply) เป็นทางเลือกที่หลายๆ บ้านเลือกนำมาใช้กันมากขึ้น เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องเครื่องใช้ไฟฟ้าและป้องกันเหตุไฟฟ้าขัดข้อง เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด ไฟกระชาก ไฟดับ ไฟตกขึ้นมากะทันหัน ก็ยังคงมีกระแสไฟฟ้าให้ใช้ต่อได้ พร้อมลดความเสี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายได้ดีด้วย แต่ในบางครั้งเครื่องสำรองไฟฟ้าก็อาจเกิดปัญหาได้เองเช่นกัน หากจู่ๆ เครื่องสำรองไฟที่เราติดตั้งไว้จ่ายไฟขัดข้อง เปิดไม่ติด กระแสไฟฟ้ารวน จ่ายกระแสพลังงานไปไม่ถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า นี่คือสัญญาณว่าเครื่องสำรองไฟของเราพังแล้วหรือเปล่า จำเป็นต้องซื้อเปลี่ยนใหม่หรือไม่? บ้านไหนที่เจออาการเหล่านี้ อย่าเพิ่งตื่นตระหนก! ความจริงแล้วอาจเกิดจากปัญหาอื่นที่สามารถแก้ไขเบื้องต้นเองได้ ลองมาดู 5 สาเหตุหลักส่วนหนึ่งของปัญหาเครื่องสำรองไฟฟ้าทำงานขัดข้อง พร้อมวิธีตรวจสอบและแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้ปกติมากขึ้นกัน 1) เสียบอุปกรณ์ไฟฟ้ามากเกินไป จนเครื่องสำรองไฟรับกระแสไฟฟ้าไม่ไหว เครื่องสำรองไฟออกแบบมาให้สามารถรับกระแสไฟฟ้าได้จำกัดแค่ไม่กี่วัตต์เท่านั้น ไม่ได้มีกำลังเท่ากับหม้อแปลงขนาดใหญ่

สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) ขับเคลื่อนแผนสนับสนุนนโยบายรัฐ นำขุมเหมืองช่วยจัดการ น้ำท่วม-น้ำแล้ง ยกระดับใช้ ‘น้ำ’ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ร่วมกันสร้างมูลค่าแหล่งน้ำจากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ชูโมเดลขุมเหมืองเพื่อประโยชน์ต่อชุมชน สนับสนุนเศรษฐกิจเติบโตมั่นคงและยั่งยืน ดร.ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) เปิดเผยว่า ความท้าทายในการบริหารจัดการน้ำยังคงอยู่ทุกสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันที่ทุกภาคส่วนอยู่ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ‘น้ำ’ จึงเป็นวาระสำคัญและโจทย์ใหญ่ของประเทศ ที่ต้องร่วมมือกันลงมือทำ ทั้งการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าจากการใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด และความจำเป็นในการวางแผนจัดการทรัพยากรน้ำอย่างรอบด้าน เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ การอุปโภคบริโภค และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ยกโมเดล สระบุรีแซนด์บ็อกซ์ สู่การลงมือทำ ‘น้ำมั่นคง น้ำยั่งยืน’ ดร.ชนะ กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำทำได้หลายแนวทาง เช่น สร้างพื้นที่ป่าเพื่อพักเก็บน้ำตามธรรมชาติ รวมไปถึงการจัดหาพื้นที่ขนาดเล็กให

ท่ามกลางกระแสการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง ร้านค้าขนาดเล็กในประเทศไทย โดยเฉพาะร้านรถเข็น ร้านในตลาดกลางคืน หรือร้านค้าท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียน มีโอกาสครั้งสำคัญในการเปิดประตูต้อนรับลูกค้าต่างชาติได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย ด้วยบริการ Cross-Border QR Payment หรือการรับชำระเงินผ่าน QR จากแอปพลิเคชันการเงินของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทย หรือที่เรียกกันว่า QR Code for Merchant ไม่จำเป็นต้องมีเครื่อง EDC หรือลงทุนติดตั้งระบบราคาแพง เพียงแค่สมัครเป็นร้านค้ากับธนาคารไทยที่เข้าร่วมโครงการ ร้านค้าก็สามารถใช้ QR Code ที่เชื่อมต่อกับระบบการชำระเงินระหว่างประเทศได้ทันที Cross-Border QR Payment เป็นระบบการชำระเงินที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด ที่ร่วมกับสถาบันทางการเงินต่างๆ เพื่อให้ปัจจุบันประเทศไทยสามารถรับเงินจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจาก 7 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และฮ่องกง ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ร้านค้าที่สมัครเป็นผู้

กรุงเทพฯ 10 มิถุนายน 2568 – เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ได้ร่วมมือกับสภากาชาดไทยในการสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้โครงการ “เจียไต๋อาสา ให้ด้วยใจ ห่วงใยทุกชีวิต” เป็นครั้งที่ 4 เปิดโอกาสให้พนักงานจากสำนักงานใหญ่ สุขุมวิท 60 และสำนักงานในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ สมุทรสาคร กาญจนบุรี ราชบุรี ขอนแก่น ลำปาง และเชียงใหม่ รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้ร่วมบริจาคโลหิตทุกหมู่เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังรอการรักษา โดยกิจกรรมจัดขึ้น ณ อาคารสำนักงานใหญ่ เจียไต๋ สุขุมวิท 60 และหน่วยรับบริจาคโลหิตในพื้นที่แต่ละจังหวัด กิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตสำรองในคลังของสภากาชาดไทย ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับการรักษาผู้ป่วยในอนาคต โดยในครั้งนี้ มีพนักงานเจียไต๋และประชาชนเข้าร่วมบริจาคโลหิต รวมทั้งสิ้น 131 ยูนิต ได้ช่วยรักษาชีวิตของผู้ป่วยได้มากถึง 393 คน โดยทุกท่านที่ร่วมบริจาคโลหิตจะได้รับบัตรของขวัญโลตัสเป็นการแสดงคำขอบคุณ ทั้งนี้ เจียไต๋มุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชื่อมั่นในพลังแห่งการให้ และการส่งต่อความห่วงใยที่จะช่ว

กรมประมงเดินหน้าขับเคลื่อน “โครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง” ตามนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการแปรรูปสัตว์น้ำ ชู “วิสาหกิจชุมชนปลาสลิดเกษตรพัฒนา จ.สมุทรสาคร” เป็นต้นแบบการต่อยอดอาชีพ ยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงได้มีการดำเนิน “โครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านประมง” อย่างต่อเนื่อง มุ่งสนับสนุนเกษตรกรและชาวประมงในการพัฒนาอาชีพ ควบคู่กับการอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นทั่วประเทศ ใน 5 ด้านการทำประมง ประกอบด้วย ด้านประมงทะเลชายฝั่ง ด้านประมงทะเลนอกชายฝั่ง ด้านประมงน้ำจืด ด้านเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และด้านการแปรรูปสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำในพื้นที่ สอดรับกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องการยกระดับสินค้าเกษตรท้องถิ่นเป็นสินค้ามูลค่าสูง ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนส่งเสริมการขอรับรองมาตรฐานสำคัญต่าง ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของสมาชิกองค์กรชุมช