เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Exclusive Featured

“ลูกหยีแม่เลื่อน” ตำนาน 80 ปี ทายาทรุ่น 3 ปรับกลยุทธ์ รุกออนไลน์ สู่ยอดผลิตเดือนละหมื่นถุง

“ลูกหยีแม่เลื่อน” ตำนาน 80 ปี ทายาทรุ่น 3 ปรับกลยุทธ์ รุกออนไลน์ สู่ยอดผลิตเดือนละหมื่นถุง 

ลูกหยี เรียกได้ว่าเป็นผลไม้พื้นเมืองของภาคใต้ มีราคาสูง จะกินสดๆ หรือกินแบบแห้งก็ย่อมได้ นอกจากจะกินเป็นอาหารแล้ว ยังมีสรรพคุณเป็นยาอีกด้วย เพราะลูกหยีจะมีรสเปรี้ยว ชุ่มคอ ช่วยอาการหวัด เจ็บคอ และเป็นยาระบายอ่อนๆ นอกจากนี้ คนใต้ยังนิยมนำมาแปรรูปเป็นลูกหยีกวน เพื่อต่อยอดและสร้างรายได้ในพื้นที่

แบรนด์ ลูกหยีแม่เลื่อน จังหวัดปัตตานี ที่มองเห็นถึงโอกาสจากวัตถุดิบเด่นในพื้นที่ นำมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อยอดจนกลายเป็นสินค้า OTOP ที่ได้รับความนิยม จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ จนตอนนี้มีกำลังผลิตอยู่ที่ 80-100 กิโลกรัมต่อวัน หรือผลิตได้เดือนละ 10,000 ถุง

คุณเก่ง-เทอดศักดิ์ จิตต์หมั่น
คุณเก่ง-เทอดศักดิ์ จิตต์หมั่น

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณเก่ง-เทอดศักดิ์ จิตต์หมั่น ทายาทรุ่น 3 ผู้รับช่วงต่อ ถึงที่มาความสำเร็จของ ลูกหยีแม่เลื่อน คุณเก่งเล่าว่า เดิมทีเริ่มต้นจากคุณยาย คือ คุณยายเลื่อน ผู้ริเริ่มทำการแปรรูปลูกหยีในพื้นที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี แต่จริงๆ แล้ว คุณยายไม่ได้เป็นคนปัตตานี แต่เป็นคนจังหวัดสงขลา แต่เมื่อคุณยายได้แต่งงานกับสามี ซึ่งเป็นคนจีนมาจากไหหลำ ก็ย้ายมาอยู่ที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี

ในสมัยนั้น ลูกหยี ยังเป็นเพียงผลไม้สดที่วางขายตามท้องตลาด คุณยายจึงเกิดความสนใจที่จะนำลูกหยีที่มีมากเหลือเกินมาแปรรูปเพื่อเป็นการถนอมอาหาร ทดลองทำ ทดลองขาย จนสุดท้ายก็เกิดมาเป็นแบรนด์ “ลูกหยีแม่เลื่อน” มานานกว่า 80 ปี

จากรุ่นคุณยาย ก็ส่งต่อมารุ่นคุณแม่ และในปัจจุบันนี้ คุณเก่งมารับช่วงต่อ เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่ 3 เดิมทีคุณเก่งเองเข้ามาเรียนอยู่ในกรุงเทพฯ และทำงานประจำอยู่ที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS จากนั้นเขาตัดสินใจลาออกและมารับช่วงต่อ และพัฒนาสินค้าให้คนรู้จักมากขึ้น

ในปี พ.ศ. 2546 เขาได้นำสินค้าเข้าไปจดทะเบียนเป็นสินค้า OTOP นับเป็นเจ้าแรกๆ ที่มีการนำลูกหยีมาแปรรูปแล้วจำหน่าย ทำให้สินค้าเกิดความน่าสนใจ และได้รับการประชาสัมพันธ์ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

อย่างที่หลายคนรู้กันอยู่แล้วว่า 3 จังหวัดชายแดนใต้ มักจะมีเหตุการณ์ไม่สงบสุข เหตุการณ์เหล่านี้ก่อให้เกิดผลกระทบทางธุรกิจในหลายๆ ด้าน ทำให้เศรษฐกิจซบเซา กลุ่มนักท่องเที่ยวไม่กล้าที่จะมาเยือน บางธุรกิจก็ต้องปิดตัวลง แต่แบรนด์ลูกหยีแม่เลื่อนก็พยุงแล้วเอาตัวรอดมาได้จนถึงปัจจุบัน

ไม่เพียงเท่านั้น เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นคือ โรคระบาดจากโควิด-19 ผลกระทบที่เกิดขึ้นร้ายแรงพอๆ กับระเบิดเสียยิ่งกระไร เพราะมันแพร่กระจายไวมาก ทั้งนี้ จึงทำให้แบรนด์ลูกหยีแม่เลื่อนมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดอีกครั้งด้วยการเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น สร้างตัวตนผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพราะการปรับกลยุทธ์เข้าสู่ออนไลน์ จะช่วยตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคในช่วงเวลานั้นได้มากกว่า

ทางคุณเก่งได้เข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ TikTok Shop จากนั้นได้เข้าร่วมโครงการที่ทางภาครัฐอย่าง กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จับมือกับ TikTok เพื่อจัดอบรมการทำธุรกิจออนไลน์ ทำให้เจ้าของแบรนด์สามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ออนไลน์อย่างเต็มตัว

นอกจากนี้ คุณเก่งได้ต่อยอดจากลูกหยีกวน แตกไลน์ผลิตอีกหลายรูปแบบ เช่น ลูกหยีฉาบ ลูกหยีทรงเครื่อง ลูกหยีกวนไร้เมล็ด ลูกหยีกวนมีเมล็ด ลูกหยีคลุกบ๊วยไร้เมล็ด และลูกหยีปั้นหยาบไร้เมล็ด (ขายดีที่สุด) ซึ่งมองว่าการแตกไลน์การผลิต จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะทำให้แบรนด์ลูกหยีแม่เลื่อนหนีจากคู่แข่งในตลาดเดียวกันได้ เพราะมีสินค้าให้เลือกหลากหลายกว่า

โดยสินค้ามีราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท ไปจนถึง 100 บาท และได้รับมาตรฐาน อย. ฮาลาล และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ มผช.

สุดท้ายนี้ คุณเก่ง ได้กล่าวถึงจุดยืน และเป้าหมายในการพัฒนาแบรนด์ต่อไปในอนาคตว่า 

“แบรนด์ของเราอาจจะเป็นที่รู้จักในระดับหนึ่ง แต่จะต้องบยังคงรักษาชื่อแม่เลื่อนไว้ เพราะท่านเป็นผู้ก่อตั้งชื่อนี้ขึ้นมา ในอนาคตยังต้องสืบสานต่อไป เพื่อให้ชื่อนี้ยังคงอยู่ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่จะเพิ่มขึ้น ก็ต้องให้ตอบสนองกับกลุ่มผู้บริโภคในอนาคตที่เขาจะซื้อสินค้าของเรา ต้องลองผิดลองถูก ถ้าลูกค้าตอบรับ ก็ผลิตต่อ ต่อยอดไปในอนาคต”

ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม   

Facebook ลูกหยีแม่เลื่อน ปัตตานี

Related Posts

80 ยังแจ๋ว "ป้าตุ่น" ครีเอเตอร์รุ่นใหญ่ ไม่หยุดเรียนรู้ โชว์ทำขนมบนโซเชียล เป็นขวัญใจคนทุกเจน