KFC เปิดตัว “คราฟต์เบียร์” เสิร์ฟคู่ไก่ทอดผสมมันฝรั่งเลย์
KFC ฮ่องกง จับมือกับบริษัทผลิตเบียร์ท้องถิ่นในฮ่องกง เปิดตัว “คราฟต์เบียร์” (Colonel Craft Beers) มีด้วยกัน 2 ขนาด คือ IPA (เสิร์ฟเป็นแก้ว) ราคา 55 เหรียญฮ่องกง คิดเป็นเงินบาทไทย 200 – 210 บาท กับ Pale Ale Citra (ขายเป็นขวด) ราคา 58 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 220 บาท ทั้ง 2 รูปแบบวางจำหน่ายใน Concept Store ของ KFC ในย่าน Causeway Bay เท่านั้น
นอกจากคราฟต์เบียร์แล้ว KFC ยังจับมือมันฝรั่งเลย์ เปิดตัวไก่ทอดผสมมันฝรั่ง ในเมนูที่ชื่อว่า “Crispy Hot & Spicy Chicken” ทานคู่กับมันฝรั่งทอดรสบาร์บีคิว ซึ่งมันฝรั่งรสชาติบาร์บีคิวมีวางจำหน่ายในร้าน KFC ย่าน Causeway Bay ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และซุเปอร์มาร์เก็ต บนเกาะฮ่องกงด้วยเช่นกัน มี 2 ขนาด 75 กรัม 184 กรัม เริ่มขายไปแล้วเมื่อ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ขอบคุณข้อมูลจาก คราฟต์เบียร์ KFC
Latest Posts
เข้าสู่เดือนเมษาหน้าร้อนกันอีกครั้ง หลายคนเริ่มมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริม หรือลงทุนเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม และบริการอัตโนมัติ ที่ไม่เพียงทำเงินได้เฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น แต่ยังสามารถทำกำไรได้ตลอดทั้งปี วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มี 6 แฟรนไชส์น่าลงทุนในเดือนเมษายนมาแนะนำ มีทั้งของกิน เครื่องดื่ม ไปจนถึงธุรกิจตู้อัตโนมัติ ที่เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้ ลงทุนเริ่มต้นหลักพัน-หลักหมื่น ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ทำได้ Super Steak (ซูเปอร์สเต็กส์) แฟรนไชส์สเต๊ก ที่มาในคอนเซ็ปต์ More Steak More Delicious เป็นมากกว่าสเต๊ก มากกว่าความอร่อย เป็นความตั้งใจที่ทำแบรนด์นี้จากประสบการณ์กว่า 30 ปี เพื่อเป็นแบรนด์สเต๊กสตรีตฟู้ด ที่ใครๆ ก็สามารถทานได้ รสชาติมาตรฐานสากล ผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้น 49 บาท รูปแบบการลงทุน รูปแบบที่ 1 : ราคา 9,000 บาท รูปแบบที่ 2 : ราคา 19,000 บาท รูปแบบที่ 3 : ราคา 29,000 บาท รูปแบบที่ 4 : ราคา 39,000 บาท ช่องทางการติดต่อ Facebook : ซูเปอร์สเต็กส์ Super Steak โทร. : 080-910-8199 ปังไม่สิ้น กลิ่นน้ำนม แฟรนไชส์ท
80 ยังแจ๋ว “ป้าตุ่น” ครีเอเตอร์รุ่นใหญ่ ไม่หยุดเรียนรู้ โชว์ทำขนมบนโซเชียล เป็นขวัญใจคนทุกเจน หากใครติดตามติ๊กต็อกช่อง Patun.preeya จะสัมผัสได้ถึงความน่ารัก และเสียงหวานๆ ฟังเพลินของ ป้าตุ่น-ปรียา อุทัยวัชรานันท์ ครีเอเตอร์วัย 80 ปี และเจ้าของ บ้านกาแฟป้าตุ่น ร้านที่ร่วมกันเปิดกับลูกชาย ขายกาแฟและเบเกอรี่ที่ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ ก่อนมาเป็น บ้านกาแฟป้าตุ่น ก่อนหน้านี้ ป้าตุ่นเคยเปิดร้านขายของชำ ซึ่งในสมัยนั้นบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีลูกค้าจากหมู่บ้านตรงข้ามแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย เพราะห้างสรรพสินค้ายังไม่ได้รับความนิยม อีกทั้งการจัดร้านของป้าตุ่นที่คล้ายซูเปอร์มาร์เก็ตก็ช่วยดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี มีความสะอาด หยิบสินค้าง่าย ไม่เหมือนใคร ส่วนพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งของร้าน ป้าตุ่นแบ่งไปเปิดร้านไอศกรีมโฟร์โมสต์ ซึ่งขายอยู่นานกระทั่งแบรนด์เลิกกิจการ ก่อนมีแนวคิดอยากเปิดร้านสะดวกซื้อชื่อดัง แต่ด้วยข้อจำกัดของทำเล จึงไม่สามารถเปิดได้ ทำให้ป้าตุ่นตัดสินใจเลิกกิจการขายของชำไปด้วย จากนั้นป้าตุ่นได้หันมาขายไอศกรีมบัสต์นานร่วมสิบปี จนแบรนด์เลิกกิจการไปอีกราย ประจวบเหมาะลูกชายกับเพื่อนม
จากปัญหาของเล่นล้นบ้าน สู่ Keimen Kids ธุรกิจเช่าของเล่นที่อยากช่วยเซฟโลก เซฟเงินในกระเป๋าพ่อแม่ ไปพร้อมๆ กับเสริมพัฒนาการเด็ก เพราะการซื้อของเล่นให้ลูกในแต่ละครั้ง นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และของเล่นเหล่านั้นอาจรกเต็มบ้านในไม่ช้า อีกทั้งในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้เช่าของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กสักเท่าไหร่ จึงนำมาสู่ไอเดียธุรกิจให้เช่าของเล่นและหนังสือเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก ‘Keimen Kids’ ของหุ้นส่วนทั้ง 3 คนคือ คุณอุ้ม-พิมพ์จุฑา จิระวัฒน์พงศา คุณเกา หลี่ขุยหลิน (Gao Likuilin) และ คุณฝ้าย-พฤดา ตั้งพุทธสิริ ที่ร่วมกันก่อตั้งธุรกิจนี้เมื่อ 2 ปีก่อน ด้วยความตั้งใจอยากสร้าง Circular Economy ให้กับของเล่น คุณอุ้ม เล่าว่า ไอเดียธุรกิจนี้มาจากเพนพอยต์ (Pain Point) ของคุณเกา หุ้นส่วนชาวสิงคโปร์ที่มีลูกเล็กวัยเกือบ 1 ขวบ เขารู้สึกว่าในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้บริการเช่าของเล่นเสริมพัฒนาการ อีกทั้งการซื้อของเล่นมาจำนวนมาก ทั้งซื้อเพราะคิดว่าลูกจะชอบ ซื้อแล้วลูกเล่นครั้งเดียว จนของเหล่านั้นรกเต็มบ้านไปหมด จึงออกมาในคอนเซ็ปต์ให้เช่าของเล่นแบบรายเดือน โดยคิดค่าบริการเช่า เริ่มต้นที่ 700 บาท
ยำจนปัง! จากทำน้ำยำขายเป็นงานเสริม สู่ร้านยำสุดไวรัล “เอ๊ะอะยำ” ยอดขายพีกสุด 50,000 บาทต่อวัน จุดเริ่มต้นจากความชอบทานยำของ คุณดล-วุฒิพงษ์ งาเฉลา และ คุณไก่น้อย-นิรัตน์ งาเฉล ที่ต้องการจะหารายได้เสริมในช่วงที่ทำงานประจำ ทั้งคู่เริ่มจากขายน้ำยำออนไลน์จนกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเปิดเป็นร้าน “เอ๊ะอะยำ” ซึ่งมีเมนูไวรัลคือ “ยำหมูสับล้น” ที่ลูกค้าชื่นชอบและต่างพากันแซวว่าขายเอาสังคมใช่ไหม ปัจจุบันสามารถสร้างรายได้พีกสุด 50,000 บาทต่อวัน และมีลูกค้ามาต่อคิวมากกว่า 250 คิวต่อวัน จุดเริ่มต้นจากน้ำยำออนไลน์ “พวกเราชอบกินยำเลยลองทำน้ำยำขายในช่องทางออนไลน์ดูครับ” คุณดล เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้น หลังจากลองผิดลองถูก ทั้งคู่ได้พัฒนาสูตรน้ำยำของตัวเอง โดยมีการเรียนเพิ่มเติมจากยูทูบ และให้กลุ่มเพื่อนในออฟฟิศได้ลองชิม แม้ในช่วงแรกยอดขายยังไม่สูงมาก ประมาณ 40-50 กล่องต่อวัน แต่ความตั้งใจและการสร้างตัวตนผ่านโซเชียลมีเดียช่วยให้คนเริ่มรู้จักเอ๊ะอะยำมากขึ้น คุณดล เล่าต่อว่า “ตอนนั้นก็ได้มีการเปิดเพจหรือว่าทำการสร้างตัวตนให้กับตัวเอง ให้คนรู้จักมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ว่ารายได้ดี แต่เป็นอาชีพที่ส
เมื่อโลกเต็มไปด้วยทางเลือกและข้อมูลมากมาย มาตรฐานใหม่ในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของพ่อแม่ยุคใหม่จึงเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพสูง แต่ต้องมีนวัตกรรมที่ช่วยให้การเลี้ยงดูสะดวกยิ่งขึ้นและส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก รวมทั้งคำนึงถึงผลกระทบต่อโลก ทำให้สินค้าเด็กมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มาดูกันว่า 5 เทรนด์สินค้าสำหรับเด็กปี 2025 มีอะไรบ้าง 1. สินค้าปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกสินค้าของพ่อแม่ยุคใหม่ไม่เพียงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยต่อเด็กๆ แต่ยังต้องดีต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สร้างสังคมและโลกที่ดีกว่าสำหรับลูกหลานในอนาคต ทำให้ตระหนักถึงผลกระทบทั้งในแง่ของสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรงและกำลังพัฒนา พ่อแม่จึงเลือกสินค้าที่ปลอดภัยจากสารเคมีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องเด็กจากอันตรายทั้งต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกอาหารที่ปลอดสารเคมีและมาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายออร์แกนิก หรือของเล่นที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งการใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยังเป็นการสอนให้เด็กเติบโตขึ