วันที่ 19 ก.ย. นางกาญดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวบ้านอ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองคาย หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปราม ลวงว่าบัญชีถูกโจรกรรม จึงให้ไปตรวจสอบ ก่อนตุ๋นเงินไปกว่า 1 แสนบาท
นางกาญดา กล่าวว่าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา มีผู้หญิงโทรศัพท์มาหาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย โทรมาแจ้งว่าบัญชีเงินฝากของตนถูกโจรกรรม มีการโจรกรรมข้อมูลไปทำบัตรเอทีเอ็มให้ตนไปแจ้งความตำรวจ จากนั้นไม่นานได้รับโทรศัพท์เป็นผู้ชายและอ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปราม ยศสารวัตร โทรมาสอบถามข้อมูลส่วนตัวและทราบว่าตนถูกโจรกรรมข้อมูล ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาให้ โดยได้สอบถามตนถึงข้อมูลเงินในบัญชีธนาคารว่ามีมากน้อยเท่าใด ด้วยความตกใจ ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนและไม่ได้เอะใจสงสัยแต่อย่างใด ก็ได้บอกข้อมูลทั้งหมดให้ชายคนนั้นทราบ
นางกาญดา กล่าวต่อว่า โดยนำเงินใส่ตู้ฝากเงินอัตโนมัติ 58,000 บาท เครื่องตีกลับ 1,000 บาท ทำให้ฝากเงินเข้าตู้ได้ 57,000 บาท จากนั้นชายคนดังกล่าวก็บอกว่าช่วงบ่ายตนจะได้เงินคืนส่งเข้าบัญชีธนาคารทั้งหมดแล้ววางสายไป หลังจากนั้นตนจึงโทรศัพท์เล่าให้ลูกสาวฟัง ลูกสาวก็บอกว่าตนถูกหลอก จึงตกใจมาก รีบโทรกลับไปหาชายคนดังกล่าวก็ไม่สามารถติดต่อได้ และได้เอาสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคาร ธกส.ไปปรับสมุดก็พบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีไป รวมทั้งสิ้น 116,964 บาท รู้แล้วว่าถูกหลอก จึงไปแจ้งความกับตำรวจสภ.โพนพิสัย
ต่อมาตำรวจได้ประสานกับธนาคารกรุงเทพ ทราบว่าเงินที่ตนโอนไปนั้นไปอยู่ในบัญชีของนายประหยัด ดอนราชลี สาขาเทสโก้โลตัส สกลนคร 1 ครั้ง จำวน 9,988.22 บาท, บัญชีของนายกาไสย เหง้าสุวรรณ สาขาสกลนคร 2 ครั้ง จำนวน 49,976.44 บาท และเงินสด 57,000 บาทที่โอนผ่านตู้อัตโนมัติเป็นบัญชีของนายยุทธ สิงห์กาฬ สาขาอุดรธานี ซึ่งตนอยากให้ศูนย์ดำรงธรรมช่วยติดตามเงินที่ถูกหลอกไป แม้ว่าอาจจะยากแต่ก็อยากให้ช่วย เพราะเป็นเงินก้อนเดียวของครอบครัวที่เก็บไว้ใช้หนี้ ธกส. และเก็บไว้ให้ลูกเรียน อีกทั้งอยากให้เป็นอุธทาหรณ์สำหรับคนอื่นไม่ให้ถูกหลอกเช่นตนอีก
ด้านนายโสภณ ทองโสภา นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการศูนย์ดำรงธรรม จ.หนองคาย กล่าวว่า จะรับเรื่องไว้และทำหนังสือถึงตำรวจสภ.โพนพิสัย ให้ช่วยเร่งรัดติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างต่อเนื่อง
ที่มา ข่าวสดออนไลน์