จากกรณีที่ เกิดเหตุ จ.อ.สมาน กุนัน (หรือจ่าแซม) นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ ซึ่งเป็น นทต.จู่โจม รุ่น 30 อายุ 38 ปี ปกติเป็น จนท.ตระเวนระงับเหตุฝ่ายรปภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บ.ท่าอากาศยานไทย เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 6 ก.ค.
- อ่านข่าว บิ๊กตู่ เครียด! ‘อดีตซีล’เสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจช่วย 13ชีวิตถ้ำหลวง
- อ่านข่าว ‘ในหลวง’ ทรงรับสั่ง จัดงานศพ “อาสาซีล” เสียชีวิตในถ้ำหลวง อย่างสมเกียรติ
- อ่านข่าว ด่วน!! สุดสลด อดีตหน่วยซีล นักทำลายใต้น้ำจู่โจม เสียชีวิตใน ถ้ำหลวง
ข่าวสดออนไลน์ จึงอยากพาทุกท่าน ชมภาพ ระหว่างการปฏิบัติงานเป็นอาสาสมัคร ช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ซึ่งภาพเหล่านี้ เป็นภาพจากเฟซบุ๊กของจ่าแซม และขณะนี้เฟซบุ๊กของจ่าแซม ได้ทำการปิดตัวลงไปแล้ว เหลือไว้แต่ความทรงจำประวัติศาสตร์ ที่จ่าแซมได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ โดยมีความหวังว่า “ทั้ง 13 ชีวิต” ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง จะรอดออกมาอย่างปลอดภัย เหมือนกับคนไทยทุกคน
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
Latest Posts
เข้าสู่เดือนเมษาหน้าร้อนกันอีกครั้ง หลายคนเริ่มมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริม หรือลงทุนเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม และบริการอัตโนมัติ ที่ไม่เพียงทำเงินได้เฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น แต่ยังสามารถทำกำไรได้ตลอดทั้งปี วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มี 6 แฟรนไชส์น่าลงทุนในเดือนเมษายนมาแนะนำ มีทั้งของกิน เครื่องดื่ม ไปจนถึงธุรกิจตู้อัตโนมัติ ที่เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้ ลงทุนเริ่มต้นหลักพัน-หลักหมื่น ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ทำได้ Super Steak (ซูเปอร์สเต็กส์) แฟรนไชส์สเต๊ก ที่มาในคอนเซ็ปต์ More Steak More Delicious เป็นมากกว่าสเต๊ก มากกว่าความอร่อย เป็นความตั้งใจที่ทำแบรนด์นี้จากประสบการณ์กว่า 30 ปี เพื่อเป็นแบรนด์สเต๊กสตรีตฟู้ด ที่ใครๆ ก็สามารถทานได้ รสชาติมาตรฐานสากล ผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้น 49 บาท รูปแบบการลงทุน รูปแบบที่ 1 : ราคา 9,000 บาท รูปแบบที่ 2 : ราคา 19,000 บาท รูปแบบที่ 3 : ราคา 29,000 บาท รูปแบบที่ 4 : ราคา 39,000 บาท ช่องทางการติดต่อ Facebook : ซูเปอร์สเต็กส์ Super Steak โทร. : 080-910-8199 ปังไม่สิ้น กลิ่นน้ำนม แฟรนไชส์ท
80 ยังแจ๋ว “ป้าตุ่น” ครีเอเตอร์รุ่นใหญ่ ไม่หยุดเรียนรู้ โชว์ทำขนมบนโซเชียล เป็นขวัญใจคนทุกเจน หากใครติดตามติ๊กต็อกช่อง Patun.preeya จะสัมผัสได้ถึงความน่ารัก และเสียงหวานๆ ฟังเพลินของ ป้าตุ่น-ปรียา อุทัยวัชรานันท์ ครีเอเตอร์วัย 80 ปี และเจ้าของ บ้านกาแฟป้าตุ่น ร้านที่ร่วมกันเปิดกับลูกชาย ขายกาแฟและเบเกอรี่ที่ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ ก่อนมาเป็น บ้านกาแฟป้าตุ่น ก่อนหน้านี้ ป้าตุ่นเคยเปิดร้านขายของชำ ซึ่งในสมัยนั้นบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีลูกค้าจากหมู่บ้านตรงข้ามแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย เพราะห้างสรรพสินค้ายังไม่ได้รับความนิยม อีกทั้งการจัดร้านของป้าตุ่นที่คล้ายซูเปอร์มาร์เก็ตก็ช่วยดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี มีความสะอาด หยิบสินค้าง่าย ไม่เหมือนใคร ส่วนพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งของร้าน ป้าตุ่นแบ่งไปเปิดร้านไอศกรีมโฟร์โมสต์ ซึ่งขายอยู่นานกระทั่งแบรนด์เลิกกิจการ ก่อนมีแนวคิดอยากเปิดร้านสะดวกซื้อชื่อดัง แต่ด้วยข้อจำกัดของทำเล จึงไม่สามารถเปิดได้ ทำให้ป้าตุ่นตัดสินใจเลิกกิจการขายของชำไปด้วย จากนั้นป้าตุ่นได้หันมาขายไอศกรีมบัสต์นานร่วมสิบปี จนแบรนด์เลิกกิจการไปอีกราย ประจวบเหมาะลูกชายกับเพื่อนม
จากปัญหาของเล่นล้นบ้าน สู่ Keimen Kids ธุรกิจเช่าของเล่นที่อยากช่วยเซฟโลก เซฟเงินในกระเป๋าพ่อแม่ ไปพร้อมๆ กับเสริมพัฒนาการเด็ก เพราะการซื้อของเล่นให้ลูกในแต่ละครั้ง นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และของเล่นเหล่านั้นอาจรกเต็มบ้านในไม่ช้า อีกทั้งในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้เช่าของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กสักเท่าไหร่ จึงนำมาสู่ไอเดียธุรกิจให้เช่าของเล่นและหนังสือเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก ‘Keimen Kids’ ของหุ้นส่วนทั้ง 3 คนคือ คุณอุ้ม-พิมพ์จุฑา จิระวัฒน์พงศา คุณเกา หลี่ขุยหลิน (Gao Likuilin) และ คุณฝ้าย-พฤดา ตั้งพุทธสิริ ที่ร่วมกันก่อตั้งธุรกิจนี้เมื่อ 2 ปีก่อน ด้วยความตั้งใจอยากสร้าง Circular Economy ให้กับของเล่น คุณอุ้ม เล่าว่า ไอเดียธุรกิจนี้มาจากเพนพอยต์ (Pain Point) ของคุณเกา หุ้นส่วนชาวสิงคโปร์ที่มีลูกเล็กวัยเกือบ 1 ขวบ เขารู้สึกว่าในไทยยังไม่ค่อยมีแพลตฟอร์มให้บริการเช่าของเล่นเสริมพัฒนาการ อีกทั้งการซื้อของเล่นมาจำนวนมาก ทั้งซื้อเพราะคิดว่าลูกจะชอบ ซื้อแล้วลูกเล่นครั้งเดียว จนของเหล่านั้นรกเต็มบ้านไปหมด จึงออกมาในคอนเซ็ปต์ให้เช่าของเล่นแบบรายเดือน โดยคิดค่าบริการเช่า เริ่มต้นที่ 700 บาท
ยำจนปัง! จากทำน้ำยำขายเป็นงานเสริม สู่ร้านยำสุดไวรัล “เอ๊ะอะยำ” ยอดขายพีกสุด 50,000 บาทต่อวัน จุดเริ่มต้นจากความชอบทานยำของ คุณดล-วุฒิพงษ์ งาเฉลา และ คุณไก่น้อย-นิรัตน์ งาเฉล ที่ต้องการจะหารายได้เสริมในช่วงที่ทำงานประจำ ทั้งคู่เริ่มจากขายน้ำยำออนไลน์จนกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเปิดเป็นร้าน “เอ๊ะอะยำ” ซึ่งมีเมนูไวรัลคือ “ยำหมูสับล้น” ที่ลูกค้าชื่นชอบและต่างพากันแซวว่าขายเอาสังคมใช่ไหม ปัจจุบันสามารถสร้างรายได้พีกสุด 50,000 บาทต่อวัน และมีลูกค้ามาต่อคิวมากกว่า 250 คิวต่อวัน จุดเริ่มต้นจากน้ำยำออนไลน์ “พวกเราชอบกินยำเลยลองทำน้ำยำขายในช่องทางออนไลน์ดูครับ” คุณดล เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้น หลังจากลองผิดลองถูก ทั้งคู่ได้พัฒนาสูตรน้ำยำของตัวเอง โดยมีการเรียนเพิ่มเติมจากยูทูบ และให้กลุ่มเพื่อนในออฟฟิศได้ลองชิม แม้ในช่วงแรกยอดขายยังไม่สูงมาก ประมาณ 40-50 กล่องต่อวัน แต่ความตั้งใจและการสร้างตัวตนผ่านโซเชียลมีเดียช่วยให้คนเริ่มรู้จักเอ๊ะอะยำมากขึ้น คุณดล เล่าต่อว่า “ตอนนั้นก็ได้มีการเปิดเพจหรือว่าทำการสร้างตัวตนให้กับตัวเอง ให้คนรู้จักมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ว่ารายได้ดี แต่เป็นอาชีพที่ส
เมื่อโลกเต็มไปด้วยทางเลือกและข้อมูลมากมาย มาตรฐานใหม่ในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของพ่อแม่ยุคใหม่จึงเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่มองหาสินค้าที่มีคุณภาพสูง แต่ต้องมีนวัตกรรมที่ช่วยให้การเลี้ยงดูสะดวกยิ่งขึ้นและส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก รวมทั้งคำนึงถึงผลกระทบต่อโลก ทำให้สินค้าเด็กมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มาดูกันว่า 5 เทรนด์สินค้าสำหรับเด็กปี 2025 มีอะไรบ้าง 1. สินค้าปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกสินค้าของพ่อแม่ยุคใหม่ไม่เพียงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยต่อเด็กๆ แต่ยังต้องดีต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สร้างสังคมและโลกที่ดีกว่าสำหรับลูกหลานในอนาคต ทำให้ตระหนักถึงผลกระทบทั้งในแง่ของสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรงและกำลังพัฒนา พ่อแม่จึงเลือกสินค้าที่ปลอดภัยจากสารเคมีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องเด็กจากอันตรายทั้งต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น การเลือกอาหารที่ปลอดสารเคมีและมาจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายออร์แกนิก หรือของเล่นที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งการใช้สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยังเป็นการสอนให้เด็กเติบโตขึ