เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured เทคนิคเกษตร

มัดรวม 6 เคล็ดลับ “ปลูกพริก” สร้างกำไรแบบมืออาชีพ

“พริก” ถือได้ว่าเป็นพืชยอดนิยมที่คนไทยนิยมนำไปปรุงอาหารเป็นอันดับต้นๆ เมื่อดูจากสถิติแล้ว คนไทยจะบริโภคพริกประมาณ 1 กิโลกรัมต่อคนต่อปี คิดเป็นมูลค่าโดยรวมทั้งประเทศกว่า 30,000 ล้านบาท และมีการปลูกเพื่อส่งออกคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ด้วยเหตุนี้ พริกจึงเป็นพืชเศรษฐกิจของคนไทยที่สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นทั่วประเทศ เนื่องจากพริกสามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย

โดยในประเทศไทยนั้นมีพริกอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกเหลือง พริกหนุ่ม และอื่นอีกมากมาย ซึ่งนอกจากการให้รสเผ็ดที่เป็นเอกลักษณ์ของพืชชนิดนี้แล้ว พริกยังมีสรรพคุณเป็นยา อาทิ ช่วยลดอาการบวม แก้ปวดเมื่อย และขับปัสสาวะ 

การปลูกพริกเป็นอาชีพที่หลายคนสนใจ เพราะเป็นพืชที่ใช้ในครัวเรือนทุกวันและมีตลาดรองรับตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม การปลูกพริกให้ได้ราคาดีและสร้างกำไรอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีการวางแผนและการดูแลที่ดี วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านมัดรวม 6 เคล็ดลับ “ปลูกพริก” สร้างกำไรแบบมืออาชีพ ที่จะช่วยให้การปลูกพริกของคุณเป็นที่ต้องการในตลาดและสร้างรายได้อย่างมั่นคง

1. เลือกพันธุ์พริกที่มีตลาดรองรับ

การเลือกพันธุ์พริกเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง หากเลือกพันธุ์ที่มีตลาดรองรับและสามารถขายได้ในราคาดี ก็จะทำให้สามารถสร้างรายได้จากพริกได้อย่างคุ้มค่า พันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทย เช่น พริกขี้หนูสวน พริกขี้หนูสวนยักษ์ หรือพริกสีสันสดใสที่ได้รับความนิยมจากตลาดในเมืองใหญ่ โดยสามารถเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ของคุณได้

2. การเลือกสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม

การเลือกสภาพแวดล้อมในการปลูกพริกนั้นถือได้ว่าเป็นข้อควรระวังลำดับแรกๆ ของการเพาะปลูก โดยพริกจะเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น และแสงแดดที่ไม่จัดจนเกินไป ซึ่งพริกทั่วๆ ไปจะเติบโตได้ดีภายใต้อุณหภูมิ 20-30 องศาเซสเซียล แต่หากเป็นพริกหวานจะอยู่ที่อุณหภูมิ 18-27 องศาเซลเซียสแทน ทั้งนี้ หากอุณหภูมิในพื้นที่นั้นสูงถึง 33-35 องศาจะทำให้ดอกและผลอ่อนร่วงได้ แต่อากาศโดยรอบไม่ใช่สิ่งเดียวที่ควรคำนึงเท่านั้น ค่าความเป็นกรด-ด่างของดิน เองก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นต้องคำนึงให้ถี่ถ้วนก่อนทำการเพาะปลูก โดยต้นพริกนั้นจะเติบโตได้ดีในดินร่วนที่มีค่าความเป็นกรด-ด่างที่ราวๆ 6.0-6.5 และต้องไม่เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำขัง 

  • การเตรียมดิน พริกเป็นพืชที่ต้องการดินร่วนซุยและมีการระบายน้ำดี การเตรียมดินก่อนปลูกจึงมีความสำคัญมาก ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับดิน และต้องพิจารณาเรื่องการระบายน้ำของพื้นที่ปลูก เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดน้ำขังซึ่งอาจทำให้ต้นพริกเน่าได้ ควรเลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดเพียงพอ เพราะพริกต้องการแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวันเพื่อการเจริญเติบโตที่ดี

3. การให้น้ำอย่างเหมาะสม

ในการปลูกพริกนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้น้ำอย่างเพียงพอและมีความสม่ำเสมอในการให้น้ำในช่วงระยะแรกของการเจริญเติบโต แต่ในขณะเดียวกันน้ำก็ไม่ควรมากเกินไปจนทำให้ดินแฉะ เนื่องจากจะความชื้นนั้นอาจทำให้ต้นพริกเหี่ยวได้ โดยการให้น้ำเพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตที่สวยงามและทำเงินได้ดี มีอยู่ 2 วิธีที่นิยมใช้ คือ การใชน้ำระบบสปริงเกลอร์และสปริงเกลอร์แบบหัวฉีดฝอย ซึ่งทั้งสองวิธีนั้นต่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน โดยระบบสปริงเกลอร์นั้นมีข้อเสีย คือ ต้นพริกที่ทำการเพาะจะเกิดโรคพืชได้ง่ายกว่าปกติ เนื่องจากมีความชื้นมาก ในขณะที่ข้อเสียของระบบสปริงเกลอร์แบบหัวฉีดฝอย คือ หัวฉีดนั้นสามารถอุดตันได้และใช้เวลานานในการให้น้ำ 

4.การจัดการศัตรูพืชและโรค

โรคและศัตรูพืชถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ๆ ที่ผู้ปลูกพริกนั้นต้องพบเจอ โดยการป้องกันโรคและศัตรูพืชนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย คือ ไถพรวนดินตากแดดอย่างน้อย 14 วันก่อนทำการเพาะปลูก จัดแนวการปลูกต้นพริกให้ไม่ขวางทิศทางลม เก็บซากพืชและใบหรือผลที่เป็นโรคออกจากพื้นที่เพาะปลูกเสมอๆ เพื่อไม่ให้แหล่งเชื้อโรคจากซากพืชและใบเหล่านั้นแพร่กระจาย และประการสุดท้าย คือ เมื่อพบเจอใบพริกที่มีอาการใบหงิกเหลืองแกมเขียว ใบผิดรูปร่าง หรือแคระแกร็น ให้รีบทำการกำจัดทิ้งในทันที เนื่องจากต้นพริกที่มีลักษณะดังกล่าวจะไม่สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดีได้ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเชื้อที่จะแพร่กระจายสู่ต้นอื่นๆ ในแปลงอีกด้วย 

5. การตัดแต่งกิ่งและการให้ปุ๋ย

การตัดแต่งกิ่งพริกเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ให้แสงแดดส่องถึงทุกส่วนของต้นพริก และช่วยลดความหนาแน่นของใบที่อาจส่งผลต่อการระบายอากาศภายในต้น ทำให้พริกเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การใส่ปุ๋ยในช่วงต่างๆ ของการเจริญเติบโตจะช่วยให้พริกมีการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในช่วงที่พริกเริ่มออกดอก ควรใส่ปุ๋ยที่มีธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม เพื่อกระตุ้นการออกผล

  • การใส่ปุ๋ย ในการบำรุงต้นพริกนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ปุ๋ยที่มีแร่ธาตุที่สูงและมีสารอาหารครบถ้วน อาทิ ปุ๋ย 15-15-15 หรือ 13-13-21 และสามารถใส่ได้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี หากแต่ในการใส่ปุ๋ยเคมีนั้นไม่ควรให้ต้นพริกกระทบกับปุ๋ยเคมีโดยตรง โดยควรใส่ปุ๋ยทั้งสิ้น 5 ช่วงด้วยกัน คือ ครั้งที่ 1 เมื่อต้นพริกมีอายุ 15 วัน ครั้งที่ 2 เมื่อครบ 25 วัน ครั้งที่ 3 เมื่อปลูกได้ 40 วัน และครั้งที่ 4 เมื่อต้นพริกมีอายุ 55 วัน

6. การเก็บเกี่ยวและการขาย

การเก็บเกี่ยวพริกเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก หากเก็บเกี่ยวเร็วเกินไปอาจทำให้พริกยังไม่เต็มรสชาติ ส่วนการเก็บช้าเกินไปก็อาจทำให้พริกเริ่มแห้งและสูญเสียความสด ควรเก็บเกี่ยวพริกเมื่อผลมีสีที่เหมาะสมและมีความแข็งแรง โดยต้องระวังไม่ให้พริกบอบช้ำ การขายพริกควรทำการตลาดอย่างมีระบบ เช่น การเชื่อมโยงกับพ่อค้าหรือส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

  • การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ การจะเก็บเมล็ดพันธุ์ด้วยตัวเองนั้นสามารถทำได้เอง หากแต่ต้องแกะเมล็ดออกจากผลที่สุกแล้วอย่างเร็วที่สุด โดยไม่ควรปล่อยให้ผลแห้งนานเกินระยะเวลา 30 วัน เพราะเมล็ดนั้นๆ จะไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดีเมื่อนำมาเพาะปลูก และภายหลังการแกะเมล็ดพันธุ์ออกแล้วควรผึ่งในที่ร่มให้แห้ง จากนั้นจึงนำเมล็ดที่แห้งเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดฝาแน่นสนิท และเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ในตู้เย็น เพียงเท่านี้เมล็ดพันธุ์ก็จะสามารถเก็บไว้เพาะได้นานถึง 1 ปี
  • การแปรรูปและการตลาด เมื่อได้ผลผลิตที่ออกมาแล้ว บรรดาพริกเหล่านี้ยังสามารถเพิ่มมูลค่าด้วยการนำไปแปรรูป อาทิ พริกแห้ง พริกป่น พริกแกง ซอสพริก พริกดอง หรือน้ำพริกเผา เพื่อทำให้สามารถขายผลผลิตในตลาดได้หลากหลายยิ่งขึ้น แต่หากไม่ต้องการแปรรูปผลผลิต ก็ยังสามารถที่จะขายพริกในรูปแบบของพริกสดที่มีคุณภาพได้เช่นกัน ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวสินค้าได้ด้วยการทำการตลาด เช่น การเล่าเรื่องราวขั้นตอนการปลูกและการเก็บผลผลิต ตลอดจนการใส่เรื่องเล่าอื่นๆ ให้กับสินค้า และไม่ว่าจะเป็นพริกสดหรือสินค้าแปรรูปจากพริกก็สามารถที่จะเปิดขายได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขายปลีก ขายส่ง ขายออนไลน์ หรือการขายผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะนอกจากการทำผลผลิตให้มีคุณภาพดีแล้ว การทำการตลาดและการหาช่องทางขายสินค้าใหม่ๆ ก็เป็นส่วนที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

การปลูกพริกให้ได้ราคาไม่ใช่แค่เรื่องของการปลูกพริกแล้วหวังผล แต่ต้องมีการวางแผนตั้งแต่การเลือกพันธุ์ การเตรียมดิน การดูแลรักษา การจัดการศัตรูพืช และการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม ถ้าใส่ใจในทุกขั้นตอนอย่างละเอียด การปลูกพริกสามารถเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ได้อย่างยั่งยืนแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://pharmacy.su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=151

https://www.baanlaesuan.com/76304/plant-scoop/chilli_garden 

https://www.baanlaesuan.com/111024/dontmiss/hot-spicy  

https://www.allkaset.com/contents/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2-70.php 

ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน 2556. คู่มือการปลูกพริก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกําแพงแสน จ.นครปฐม 

Related Posts