เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured พืชทำเงิน

เกษตรกรขอนแก่นปลูกกะเพราป่า ส่งขายซีพีแรม โกยรายได้เดือนละ 2 แสนบาท

บริษัท ซีพีแรม จำกัด (CPRAM) ผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทาน ให้ความสำคัญกับการเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพสูง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นเทรนด์กระแสหลักสำหรับวงการอาหารและเครื่องดื่มในปี 2568 เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เดินหน้าต่อเนื่องสานต่อความสำเร็จ “โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต”  มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกกะเพราของเกษตรกรในชุมชนท้องถิ่นรอบโรงงานซีพีแรม ให้สอดคล้องตามมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและผู้ปลูก สร้างรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกร พร้อมสร้างความปลอดภัยทางอาหาร – ความมั่นคงทางอาหาร – ความยั่งยืนทางอาหาร

ปลูกกะเพราขายซีพีแรม
สร้างรายได้งามตลอดปี 

กลุ่มเกษตรกร 10 ครัวเรือนในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลโนนแดง  อำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น  มีอาชีพและรายได้อย่างมั่นคง  เฉลี่ยเดือนละ 2 แสนบาท หลังเข้าร่วมโครงการเกษตรกรคู่ชีวิต ของบริษัท ซีพีแรม จำกัด (ขอนแก่น)

นายประหยัด อุสาย เกษตรกรต้นแบบของโครงการเกษตรกรคู่ชีวิต ในจังหวัดของแก่น กล่าวว่า ปี 2560 เจ้าหน้าที่ซีพีแรมมาชวนปลูกกะเพรา โดยให้ความรู้เพื่อการเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานสูง ทำให้มีรายได้มากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง จากเดิมทางกลุ่มมีรายได้จากการปลูกกะเพราขายเดือนละ 9 หมื่นบาทก็เพิ่มเป็น 2 แสนบาทต่อเดือน

“ เดิมผมปลูกกะเพรา ส่งขายตลาดในราคากำละ 3 บาท มีรายได้เดือนละ 9 พันบาท ตอนที่ซีพีแรมมาชวนปลูกกะเพรา ช่วงแรกมีแต่คนห้ามไม่ให้สมัครเข้าร่วมโครงการเพราะกลัวว่า ทำไม่ได้ มีมาตรฐานการผลิตสูง แต่ผมมองว่า นี่คือโอกาส มีคนมารับซื้อผลผลิตตลอดทั้งปีในราคาประกัน และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ   ทำให้ตนมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2 หมื่นบาท จึงวางแผนที่จะขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นในอนาคต ” นายประหยัด กล่าว

ปลูกกะเพราป่ามีกลิ่มหอม เผ็ดซ่า

ที่ผ่านมา เกษตรกรนิยมปลูกกะเพราใบเขียวที่มีขนาดใหญ่ ให้ผลผลิตสูง แต่ไม่หอมกลิ่นกะเพราชัดเจน ทางซีพีแรม จึงศึกษาค้นหากะเพราพันธุ์หอมจากทั่วประเทศ จนได้กะเพราสายพันธุ์ที่ดีที่สุดที่ปรับปรุงมาจากพันธุ์กะเพราป่า ที่มีลักษณะเด่น คือ ต้น กิ่ง ก้าน ใบเป็นสีเขียว เมื่ออายุนานๆไป กิ่งก้านสีจะออกน้ำตาลแดง ใบเมื่อลูบจะสากนิ้ว มีขนบางๆ ใบมีขนาดเล็ก กลิ่นหอมชัดเจน รสเผ็ดซ่า

ปลูกกะเพราให้ได้มาตรฐาน GAP
ทำได้ไม่ยาก แค่ใส่ใจทำตามขั้นตอน

นายประหยัด กล่าวว่า หลังเข้าร่วมโครงการเกษตรกรคู่ชีวิตของซีพีแรม  ทางบริษัทส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสนับสนุนความรู้เรื่องการเพาะปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ผลผลิตที่ได้มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices)  และรับซื้อใบกะเพราในราคา ก.ก.ละ 125-140 บาท แล้วแต่คุณภาพสินค้า

เดิมนายประหยัด ปลูกกะเพราพันธุ์พื้นบ้าน โดยใช้วิธีหว่านเมล็ด ก็หันมาใช้เมล็ดพันธุ์กะเพราป่าของซีพีแรม โดยนำมาเพาะกล้า30 วัน จึงค่อยย้ายกล้าลงแปลงปลูก ในระยะห่าง30-40 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-8-8 บำรุงต้นทุก ๆ10-15 วัน เก็บใบกะเพรารุ่นแรกออกขายได้ใน 30 วันหลังปลูก จากนั้นทะยอยเก็บใบกะเพราออกขายได้ต่อเนื่องจนครบ 4 เดือนจึงค่อยรื้อแปลงปลูกและพักดินประมาณ 15-30 วันจึงค่อยลงทุนปลูกรอบใหม่

สานต่อความสำเร็จ “โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต”   

นางสาวอาภาภรณ์ พรหมเชยธีระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบัน บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ขอนแก่น) ใช้ใบกะเพราเป็นวัตถุดิบในการผลิตอย่างมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกปี ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารตั้งแต่ต้นน้ำจวบจนถึงมือผู้บริโภค ซีพีแรมจึงริเริ่มโครงการเกษตรกรคู่ชีวิต และดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมอบองค์ความรู้ใหม่ พร้อมสนับสนุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการเพาะปลูกที่เหมาะสมสอดคล้องตามมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สร้างความปลอดภัยทั้งต่อผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันและตอบโจทย์ความท้าทายของภาคอุตสาหกรรมอาหารที่ครอบคลุมในทุกมิติอย่างแท้จริง”

“โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต” ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 โดยได้ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรมากกว่า 200 รายในแต่ละปี ครอบคลุมทั้งการแลกเปลี่ยนและมอบองค์ความรู้ด้านการเพาะปลูก การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพาะปลูกที่เหมาะสม และเทคนิคการวางแผน การจัดการแปลงปลูกที่ช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนการรับซื้อผลผลิตในราคาที่สูง โดยเน้นความสำคัญที่เกษตรกรผู้ปลูกกะเพรา ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตข้าวผัดกะเพรา หนึ่งในเมนูยอดฮิตอันดับหนึ่งของซีพีแรมซึ่งวางจำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่นมาอย่างยาวนาน

นางสาวอาภาภรณ์ พรหมเชยธีระ

ปัจจุบัน ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีเกษตรกรกว่า 25 ครัวเรือน เข้าร่วมโครงการฯ รองรับการผลิตใบกะเพราได้ถึง 130 กิโลกรัมใบต่อวัน ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรมากกว่า 3.33 ล้านบาทต่อปี การดำเนินโครงการเกษตรกรคู่ชีวิตจึงช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ส่งเสริมอาชีพที่มั่นคง พร้อมสร้างความปลอดภัยทางอาหาร – ความมั่นคงทางอาหาร – ความยั่งยืนทางอาหาร ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

แกะสูตรข้าวผัดกะเพราซีพีแรม เมนูยอดฮิตของคนทุกวัย

ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ “ข้าวผัดกะเพรา” ของซีพีแรม เกิดจากการคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน เริ่มต้นตั้งแต่การเลือกใช้พันธุ์กะเพราป่าที่บริษัทได้พัฒนาสายพันธุ์ให้มีกลิ่นหอมพร้อมรสชาติเผ็ดแซ่บถึงใจ ทั้งยังเติบโตไว และให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ พร้อมกับการควบคุมคุณภาพของส่วนผสมอื่น ๆ เช่น เลือกใช้ข้าวหอมมะลิ 100% ที่หุงด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม ทั้งยังประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน นับตั้งแต่การล้างใบกะเพรา การผัดด้วยกระทะอัตโนมัติในอุณหภูมิสูง 200°C ตลอดจนตรวจวิเคราะห์กลิ่นกะเพราและกลิ่นหอมของกระทะด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อให้มีคุณภาพตรงตามเกณฑ์มาตรฐานและปราศจากการปนเปื้อน ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการอาหารสดใหม่ สะอาด รสชาติอร่อยถูกใจ และให้คุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเมนูกะเพราขายดี 3 อันดับ ดังนี้ อันดับ 1 ข้าวกะเพราไก่คั่ว (อิ่มคุ้ม), อันดับ 2 ข้าวกะเพราไก่ ไข่ดาว และอันดับ 3 ข้าวกะเพราหมู ถ้าอยากรู้ว่าจะหอมอร่อยขนาดไหน  สามารถหามาลิ้มลองได้ที่ 7 Eleven เท่านั้น

หากอยากรู้ว่า เมนูกะเพราจะหอมอร่อยขนาดไหน  สามารถหามาลิ้มลองได้ที่ 7 Eleven เท่านั้น.

ซีพีแรม ยังคงมุ่งมั่นดำเนินโครงการเกษตรกรคู่ชีวิตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่ความปลอดภัยทางอาหาร – ความมั่นคงทางอาหาร – ความยั่งยืนทางอาหาร      ตามปณิธาน Food 3S ขององค์กร

 

 

Related Posts