เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured สูตรลับจากฟาร์ม เทคนิคเกษตร

เกษตรในเมือง  สาวบางบอนเลี้ยงจิ้งหรีด แมลงทำเงิน ตลาดไม่มีตัน ลงทุนน้อย กำไรงาม

จิ้งหรีด เป็นหนึ่งในแมลงกินได้ ที่มีแนวโน้มการเติบโตดี ทั้งตลาดในประเทศและส่งออก เพราะเป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอดสำหรับมนุษย์ ที่เรียกว่า “ซุปเปอร์ฟู้ด” เหมาะเป็นอาหารแห่งอนาคต (Future Food) เพราะมีราคาถูก เพาะเลี้ยงง่าย ลดการใช้ทรัพยากร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

ตั้งใจเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นรายได้เสริม

แต่รายได้ปัง ไม่แพ้มนุษย์เงินเดือน

คุณปุ๊ก – จีรนันต์ น้อยรักษา อดีตมนุษย์เงินเดือน กลับมาช่วยครอบครัวดูแลกิจการสวนเกษตรผสมผสาน ชื่อ “สวนลุงเข้ม” ย่านซอยเอกชัย 132 เขตบางบอน กทม.  เนื่องจากมีเวลาว่างมากขึ้น จึงสนใจเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นรายได้เสริมเมื่อ 6 ปีก่อน ในชื่อ “ ฟาร์ม จิ้งหรีดบ้านสวน   ”  เริ่มจากทดลองเลี้ยงจิ้งหรีดจำนวน 2 บ่อก่อน ปรากฎว่า กระแสตลาดตอบรับดี จึงตัดสินใจขยายการเลี้ยงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  โดยมีบ่อเลี้ยงจิ้งหรีดจำนวน 23 บ่อในปัจจุบัน

“   ทุกวันนี้ ฟาร์ม จิ้งหรีดบ้านสวน เลี้ยงตัวเองได้  มีรายได้ดี ไม่แพ้อาชีพมนุษย์เงินเดือน อยู่ที่ว่าเรามีแรงทำแค่ไหน ทำได้เยอะเราก็ได้เยอะค่ะ หากเลี้ยงจิ้งหรีด 8 บ่อๆ ละ 20 กก. จะเก็บผลผลิตออกขายได้  160 กก.  ขายจิ้งหรีด กก.ละ  100 บาท จะมีรายได้  16,000 บาท หักต้นทุน ค่าอาหาร 50% หนึ่งเดือนจับจิ้งหรีดขายได้ 2 ครั้ง ก็จะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 16,000 บาท โดยที่เราไม่ต้องนั่งออฟฟิศและไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ” คุณปุ๊กกล่าว

ศึกษาหาข้อมูลการเลี้ยงจิ้งหรีด

ได้จากคลังความรู้ออนไลน์

สำหรับเกษตรกรมือใหม่ ที่สนใจอยากลงทุนเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นรายได้เสริม  คุณปุ๊ก แนะนำให้ศึกษาหาข้อมูลการเลี้ยงจิ้งหรีดได้จากคลังความรู้ออนไลน์ ทั้ง  Facebook  และ Youtube มีให้ดูฟรีมากมาย  สามารถแลกเปลี่ยนรู้เรื่องข้อมูลสายพันธุ์จิ้งหรีด เทคนิควิธีการเลี้ยง อาหารสัตว์ และวิธีการจับจิ้งหรีด กับกลุ่มผู้เลี้ยงจิ้งหรีดในโลกออนไลน์ และนำข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้กับฟาร์มตัวเอง   

หากสนใจเลี้ยงจิ้งหรีด ต้องลงทุนจัดหาอุปกรณ์สำคัญ ประกอบด้วย บ่อเลี้ยงจิ้งหรีด สายพันธุ์จิ้งหรีด แผงไข่ ถาดน้ำ ถาดอาหาร อาหารสัตว์ พัดลมระบายอากาศ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ สามารถซื้อได้ใน Facebook กลุ่มผู้เลี้ยงจิ้งหรีด 

สายพันธุ์จิ้งหรีด

ทุกวันนี้ คุณปุ๊ก เลี้ยงจิ้งหรีด สายพันธุ์ทองดำ ทองแดงกับสะดิ้ง โดยสั่งซื้อสายพันธุ์จิ้งหรีดมาจากเพื่อนในกลุ่ม Facebook หลังจากเลี้ยงไปสักระยะหนึ่ง ก็สามารถเก็บพันธุ์ไว้ใช้รุ่นต่อรุ่นได้ ทั้งนี้ จิ้งหรีดแต่ละสายพันธุ์มีจุดเด่นที่แตกต่างกันดังนี้

1.  จิ้งหรีดทองดำ (จิโหลน) เป็นจิ้งหรีดขนาดกลาง สีดำหรือน้ำตาลปนดำทั้งตัว โตเต็มวัยยาวประมาณ 2.8-3.0 ซม. โคนปีกมีสีเหลืองแกมหรือแต้มสีเหลือง 2 จุด  

2. จิ้งหรีดทองแดง (จินาย หรือ จิ้งหรีดนิล , จิ้งหรีดพม่า)  เป็นจิ้งหรีดขนาดกลาง โตเต็มวัยยาวประมาณ 2.5-2.80 ซม. ลำตัวทุกส่วนมีสีน้ำตาลเข้ม บริเวณหัวเหนือขอบตามีแถบสีน้ำตาลเข้มรูปตัว V

3. แมงสะดิ้ง ( จิ้งหรีดทองแดงลาย หรือ จิ้งหรีดบ้าน ,จิ้งหรีดขาว , ทองลาย)เป็นจิ้งหรีดขนาดเล็กกว่าอีก  2 ชนิด โตเต็มที่ยาวประมาณ 2.0-2.5 ซม.  ตัวเมียมีสีน้ำตาลปนเหลือง ตัวผู้มีสีลำตัวเข้มกว่าตัวเมีย และมีลายแต้มที่หัว ปลายท้องมีแพนหาง

แมลงสะดิ้ง

เทคนิคการเลี้ยงจิ้งหรีด

คุณปุ๊กแบ่งการเลี้ยงจิ้งหรีดเป็น 3 รุ่น โดยแต่ละรุ่นจะใช้ระยะเวลาการเลี้ยง 45 วัน ทำให้มีผลผลิตป้อนเข้าสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 15 วัน โดยเลี้ยงจิ้งหรีดในบ่อเลี้ยงขนาด 1.20×2.40 เมตร ซึ่งมีต้นทุนบ่อละ 1,000 – 2,000 บาท สามารถทำได้เอง โดยใช้สมาร์ทบอร์ด ไม้อัดหรือเลี้ยงในบ่อปูนก็ได้  หากไม่อยากเสียเวลาลงมือทำเอง ก็สามารถเลือกซื้อบ่อสำเร็จรูปได้ในตลาดออนไลน์

เกษตรกรมือใหม่ ควรคำนึงถึงอุณหภูมิการเลี้ยงจิ้งหรีดด้วย  โดยทั่วไปจิ้งหรีดสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอุณหภูมิ  25 – 35 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิต่ำกว่า 10 – 20 อาศา จิ้งหรีดจะไม่ผสมพันธุ์และไม่วางไข่ ดังนั้น ฟาร์มบางแห่งจึงใช้หลอดไฟส่อง เพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้จิ้งหรีดสามารถผสมพันธุ์ และวางไข่ได้ตามปกติ  สำหรับโรงเรือนเลี้ยงจิ้งหรีดของคุณปุ๊ก มีสภาพโปร่ง สามารถระบายอากาศได้ดี หากวันไหนเจออากาศร้อน ก็จะเปิดพัดลมช่วยระบายความร้อนอีกทางหนึ่ง

“ จิ้งหรีดหากร้อนไปก็ไม่ดี หนาวไปก็ไม่ดี มีผลต่อการเติบโตของจิ้งหรีด  หากร้อน ก็เปิดพัดลมระบายอากาศ หากหนาวก็ห่มผ้า โดยใช้วิธีปิดโรงเรือนแทน ” คุณปุ๊กกล่าว

ในแต่ละวัน คุณปุ๊กจะคอยดูแลให้น้ำและอาหารเป็นหลัก โดยกระจายน้ำและอาหารให้เหมาะสมกับปริมาณจิ้งหรีดในแต่ละบ่อ เพื่อให้จิ้งหรีดเข้าถึงแหล่งน้ำแหล่งอาหารได้ง่ายขึ้นและสามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่ 

เฝ้าระวังปัญหาโรคแมลงในช่วงฤดูฝน

ช่วงฤดูฝน มักเสี่ยงทำให้จิ้งหรีดเป็นโรคได้ง่าย ต้นเหตุของปัญหาที่มากับฝนคือ “ความชื้น” หากก้นบ่อมีการทับถมของมูลจิ้งหรีดหรือเศษอาหาร ที่เปียกชื้นจะทำให้เกิดแก๊สหรือความร้อนในบ่อ ทำให้จิ้งหรีดขาดออกซิเจน อ่อนแอและตายลงในที่สุด นอกจากนี้ ความชื้นภายในบ่อ เสี่ยงทำให้มีแมลงต่างๆ เช่น หนอนขน หนอนแตนเบียนอาจเป็นพาหะนำโรดมาติดจิ้งหรีดได้ ส่วนไรจิ้งหรีด เป็นปรสิตเกาะกินดูดน้ำเลี้ยงหรือสารอาหารจากตัวจิ้งหรีด ทำให้จิ้งหรีดไม่แข็งแรง และอาจถึงตายในที่สุด  ดังนั้นช่วงฤดูฝนจึงควรรีบกำจัดมูลจิ้งหรีดออกจากบ่ออย่างสม่ำเสมอ  

เคล็ดลับเลี้ยงจิ้งหรีดตัวเป้งๆ รสชาติมันอร่อย

ทุกวันนี้ คุณปุ๊กใช้อาหารสำเร็จรูปโปรตีน 21% สำหรับเลี้ยงจิ้งหรีดทุกช่วงวัย  สำหรับจิ้งหรีดอายุ 20 วันขึ้นไป จะให้ผักผลไม้ เป็นอาหารเสริม  นอกจากนี้ยังใช้เมล็ดฟักทองและไส้ฟักทอง เป็นอาหารเสริมบำรุงจิ้งหรีดรุ่นเล็ก ก่อนเก็บเกี่ยวในระยะสุดท้าย จะนำขุ่ยมะพร้าวขยำน้ำพอหมาดๆ วางใส่ภาชนะ นำไปวางไว้ในบ่อเลี้ยงเพื่อให้จิ้งหรีดวางไข่ทิ้งไว้เพื่อใช้ทำพันธุ์ในรุ่นต่อไป  

“ เคล็ดลับความอร่อยของจิ้งหรีดในฟาร์มแห่งนี้คือ  ก่อนจับขาย 1-2 วัน จะให้จิ้งหรีดกินฟักทองเพื่อล้างท้อง เมื่อนำจิ้งหรีดไปทอด จะมีรสชาติหอม หวานมันอร่อย เป็นที่ถูกใจผู้บริโภค ” คุณปุ๊กกล่าว

แมลงสะดิ้ง

ตลาดจิ้งหรีดเติบโตทุกปี  

ปัจจุบัน คุณปุ๊กจำหน่ายจิ้งหรีดแบบต้มสุกก่อนนำไปแช่แข็ง โดยขายส่งและขายปลีกให้กับผู้สนใจ โดยกำหนดราคาขายปลีกที่กก.ละ  140 บาท และขายส่งในน้ำหนัก 100 กก. เฉลี่ย กก.ละ 110บาท ให้กับแม่ค้าในตลาดนัดทั่วไป

“  ปุ๊กมองว่า ตลาดแมลงตอนนี้ยังไม่ตัน หากสามารถผลิตสินค้าให้มีคุณภาพดี ลูกค้าติดใจก็จะกลับมาซื้อซ้ำกับเราตลอด สำหรับมือใหม่ที่สนใจเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นอาชีพ แนะนำให้เริ่มหาตลาดนัดใกล้บ้านก่อน  เดินเข้าไปติดต่อกับแม่ค้าขายแมลงทอด หากของเราดีมีคุณภาพอย่างไรแม่ค้าก็ซื้อเรา  ” คุณปุ๊กกล่าวในที่สุด      

หากใครสนใจอยากเยี่ยมชมกิจการฟาร์มจิ้งหรีดบ้านสวนหรืออยากซื้อจิ้งหรีดแช่แข็ง ติดต่อกับคุณปุ๊ก ได้ที่สวนลุงเข้ม บ้านเลขที่ 193 ซ.เอกชัย 132 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กทม เบอร์โทร 095-052-9997

Related Posts