กรมชลประทาน
เกษตรกรในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง (คบ.ท่อทองแดง) เนื้อที่กว่า 550,688 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด 6 อําเภอ ได้แก่ อําเภอไทรงาม อําเภอพรานกระต่าย อําเภอเมือง อําเภอลานกระบือ จังหวัดกําแพงเพชร และอําเภอคีรีมาศ อําเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ต่างมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง หลังใช้แพลตฟอร์มระบบปฎิบัติการส่งน้ำอัจฉริยะที่มีการจัดสรรน้ำให้ตรงกับความต้องการของพืช ลดการสูญเสียน้ำชลประทานได้ร้อยละ 15 ต่อฤดูกาล นวัตกรรมดังกล่าวเป็นผลงานของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ. ) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดย มจพ. ร่วมมือกับกรมชลประทาน นำเทคโนโลยี IoT เช่น เครื่องมือควบคุมสั่งการอาคารส่งน้ำ เครื่องมือติดตามสภาพน้ำในคลองส่งน้ำ เครื่องมือติดตามความชื้นชลประทานของดินในแปลงเกษตรกรรม รวมทั้งใช้ AI Software ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระบบปฎิบัติการส่งน้ำในการจัดสรรน้ำที่เหมาะสมกับช่วงเวลาความต้องการน้ำของพืชและระดับน้ำในคลองส่งน้ำ แบบ Real Time ที่ นำไปสู่การวางแผนการจัดสรรน้ำให้ตรงกับความต้องการของเกษตรกร โดยมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวให้เกษตรกรได้เรียนรู
กรมชลประทาน เดินหน้าพัฒนาลุ่มน้ำเลยตามพระราชดำริ เผยโครงการ ปตร.ศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเลย ช่วยบริหารจัดการลุ่มน้ำเลยตอนล่าง ป้องกันน้ำโขงหนุนเนื่อง บรรเทาภัยน้ำหลาก กักเก็บน้ำสำรองก่อนไหลออกนอกประเทศ เพิ่มพื้นที่ชลประทานให้เมืองเลยอีกกว่า 7 หมื่นไร่ เสริมความมั่นคงด้านน้ำให้ราษฎรเชียงคาน 44 หมู่บ้าน สอดรับนโยบายภาครัฐการเกษตรแม่นยำ มีมูลค่าสูง แล้งนี้ ปตร.นำร่องส่งน้ำให้ประชาชนฝั่งขวาแม่น้ำเลยพันไร่ นายสุนทร คำศรีเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 5 กรมชลประทาน กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบตร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริไว้เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2520 ไว้ว่า “…ควรพิจารณาวางโครงการชลประทานลุ่มน้ำเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรพิจารณาสร้างฝายทดน้ำหรือเขื่อนทดน้ำตามความเหมาะสม ในลำน้ำเลยตอนล่างเพื่อส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกผืนใหญ่สองฝั่งแม่น้ำเลย ในเขตอำเภอเชียงคาน…” ด้วยสภาพของแม่น้ำเลย ที่มีต้นน้ำอยู่ที่อำเภอภูหลวง เป็นต้นน้ำที่ไหลอย่างรวดเร็วผ่านอำเภอภูหลวง ซึ่งเป็นพื้นที่สูงลาดชัน จากนั้นค่อยไหลลงที่ต่ำตอน
กรมชลประทาน ร่วมกับ บริษัทสยามคูโบต้าฯ มุ่งพัฒนาระบบการผลิตและผลผลิตทางการเกษตร นำเทคโนโลยีส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ ยกระดับการพัฒนาเกษตรกร ขยายผลสู่ความมั่นคงอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน และ นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) “การวิจัยและพัฒนาการใช้น้ำในภาคเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ” ด้วยการนำอุปกรณ์สารสนเทศสำหรับการทดลองในแปลงทดสอบหาค่า Kc (Crop Coefficient) ที่เหมาะสมสำหรับพืชเป้าหมายที่ให้ผลตอบแทนสูงตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมไปถึงการนำเครื่องจักรกลทางการเกษตรในการทำแปลงปลูกข้าวในรูปแบบเปียกสลับแห้ง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนในพื้นที่สถานีทดลองการใช้น้ำชลประทานที่ 5 (แม่กลองใหญ่) ตำบลทุ่งขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย มักประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสภาวะโลกร้อนและการขยายตัวของสังคมและ
วันที่ 12 มีนาคม 2567 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ตระหนักถึงสถานการณ์น้ำที่แปรปรวน การปรับเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วม น้ำแล้ง สลับกันไป จึงมีงานวิจัยที่ช่วยในการเพิ่มความถูกต้องในการทำนาย จำลองสภาพล่วงหน้า ช่วยในการตัดสินใจ และเตรียมตัว รับมือกับภัยแล้ง และภัยน้ำท่วมได้ดียิ่งขึ้น วช. จึงจัดให้มีการแถลงข่าว “แนวโน้มสถานการณ์น้ำ 67-68 และมาตรการการปรับตัว” โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในการเปิดงานและชี้แจงวัตถุประสงค์ พร้อมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้บริหาร วช. ซึ่งมี รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ประธานบริหารแผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมาย (Spearhead) ด้านสังคม แผนงานบริหารจัดการน้ำ ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน ดร.ชลัมภ์ อุ่นอารีย์ นักวิจัยศูนย์ภูมิอากาศ กองพัฒนาอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา ดร.กนกศรี ศรินนภากร หัวหน้างานภูมิอากาศและสภาพอากาศ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ผศ.ดร.ไชยาพงษ์ เทพประสิทธิ์ และ ผศ.ดร.จุติเทพ วงษ์เพ็ชร์ คณะวิศ
นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน (ชป.) เปิดเผยระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ต่อไป สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน (12 กุมภาพันธ์ 2567) พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 53,435 ล้านลูกบาศก์เมตร (70% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 15,039 ล้านลูกบาศก์เมตร (60% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) กรมชลประทานได้วางแผนจัดสรรน้ำช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 ตามปริมาณน้ำต้นทุนที่มี ด้วยการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก รักษาระบบนิเวศ การเกษตร อุตสาหกรรม และสำรองไว้ใช้ในต้นฤดูฝนหน้าตามลำดับ จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำในช่
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ติดตามความก้าวหน้าวิจัยเข็มมุ่งด้านการจัดการน้ำ โดยคณะกรรมการกำกับงานวิจัย วช. กลุ่มงานที่ 3 เรื่อง “การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมการเพิ่มน้ำต้นทุนของเขื่อนหลักเพื่อการพัฒนาลุ่มน้ำเจ้าพระยา” แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมายด้านสังคม แผนงานการบริหารจัดการน้ำ ระยะที่ 3 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ประธานแผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมายด้านสังคม แผนงานการบริหารจัดการน้ำ ระยะที่ 3 กล่าววัตถุประสงค์ของแผนงานวิจัยฯ พร้อมแนะนำคณะกรรมการกำกับงานวิจัย วช. หน่วยงานใช้ประโยชน์และคณะนักวิจัย ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน กล่าวต้อนรับ และมี รศ ดร เจษฏา แก้วกัลยา ดร.สมชาย ใบม่วง ผู้ทรงคุณวุฒิ วช. คุณสมชาย หวังวัฒนาพาณิช ประธานสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รศ.ดร. สุดสวาสดิ์ ดวงศรีไสย์ จาก สกสว คุณเพชรินทร อรุณรัตน์ จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ คุณอุมาพร โควงษ์ จากวช. เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอและให้คำแนะนำ ณ ห้องประชุมธารท
วันนี้ (19 ต.ค.66) ณ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการและรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ พร้อมมอบนโนบายแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยมีนายชูชาติ รักจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน และผู้เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ลุ่มน้ำป่าสัก มีพื้นที่ประมาณ 9.764 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 3.18 ของพื้นที่ประเทศ บริเวณตอนบนของลุ่มน้ำมีเทือกเขาเพชรบูรณ์ล้อมรอบทั้ง 3 ด้าน ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ทอดมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวลาดสู่ภาคกลางของประเทศไทย ตั้งแต่จังหวัดเลย จนถึงจังหวัดลพบุรี ตอนล่างเป็นที่ราบลุ่มบริเวณจุดบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยามีแม่น้ำป่าสักไหลผ่าน มีลำน้ำสาขาแยกทางทิศตะวันออกและตะวันตกเป็นจำนวนมาก พื้นที่รับน้ำมีขนาดเล็ก ประกอบกับพื้นที่ราบเพื่อการพัฒนาเป็นโครงการชลประทานอยู่ในร
(15 ตุลาคม 2566) ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาระโนด – กระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา โดยมี นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายชูชาติ รักจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน นายการุณ แปลงรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 16 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำฯ สำหรับพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ มีพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ และสิงหนคร และบางส่วนของอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ในความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาระโนด-กระแสสินธุ์ ซึ่งได้บริหารจัดการน้ำและส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากพื้นที่อำเภอระโนด มีลักษณะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้มีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้างในช่วงฤดูฝน เกิดความเสียหายต่อพื้นที่เกษตรกรรมโดยรอบ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนในด้านอุปโภคบริโภค อีกทั้งยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง กรมชลประทา
กรมชลประทาน เดินหน้าติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตามนโยบายของรัฐบาล และ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ จังหวัดอ่างทอง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่หมู่ 3 ตำบลยี่ล้น อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดปราจีนบุรี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่หมู่ 6 ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชน และบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด หากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือสายด่วน กรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา
กรมชลประทาน เดินหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่จังหวัดตาก ชู 5 โครงการสำคัญในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอสามเงา อำเภอบ้านตาก และอำเภอแม่สอด หวังบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ และเพิ่มความสามารถการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บ่ายวันนี้ (7 ตุลาคม 2566) ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสามเงา อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายชูชาติ รักจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดตาก พร้อมรับฟังปัญหาและมอบถุงยังชีพ จำนวน 500 ถุง ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยมี นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้วางแผนพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดตากมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการที่ได้ดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 34 แห่ง ปัจจุบันอยู่ระ